ไลฟ์แฮ็ก
"บัตรเครดิต" vs "บัตรกดเงินสด"

บัตรเครดิต VS บัตรกดเงินสด
รูดปรื๊ดรูดปรื๊ด เป็นโฆษณาโดนใจมากของบัตรเครดิตธนาคารสีม่วง ซึ่งผู้เขียนเองก็ยังคงใช้บัตรเครดิตของธนาคารแห่งนี้ มาอย่างยาวนานด้วยความประทับใจ ในวันนี้ผู้เขียนเองมีประสบการณ์ที่อยากจะแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้ฟัง หรือน้อง ๆ ที่เพิ่งทำงานและอยากจะมีบัตรเครดิตสักใบเอาไว้ รูดปรื๊ด รูดปรื๊ด แทนเงินสด
การทำบัตรเครดิต เดี๋ยวนี้พนักงานธนาคารเก่งมากครับ เวลามาเชิญชวนให้ทำบัตร มักจะยื่น Application ให้เรากรอก 2 ใบ คือ บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ซึ่งทุกธนาคารมักจะเป็นอย่างนั้น และสิ่งที่ชวนให้เราตัดสินใจ ฟรีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพ น่าสนใจดีไหมครับ รวมถึงโปรโมชั่นของแต่ละธนาคาร เมื่อบัตรได้รับการอนุมัติ เพียงรูดใช้จ่ายเป็นเงินจำนวนหนึ่งกี่ครั้งก็ได้ภายในเดือนนั้น จะได้รับกระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้ว เป็นต้น
Advertisement
Advertisement
Credit ภาพ : Sompussorn
ปัจจุบัน บัตรเครดิต VS บัตรกดเงินสด มีทั้งออกโดยสถาบันการเงินคือธนาคาร และไม่ใช่สถาบันการเงินซึ่งเราเรียกว่า Non-Bank ได้แก่บัตรของห้างอย่างเซ็นทรัล เทสโก้โลตัส บิ๊กซี อิออน อีซี่บาย เป็นต้น
-ข้อแตกต่างระหว่าง บัตรเครดิต VS บัตรกดเงินสด
บัตรเครดิต มีไว้สำหรับใช้รูดซื้อสินค้าแทนเงินสด และกดเงินสดได้ในกรณีฉุกเฉิน มีค่าธรรมเนียมในการกดครั้งละ 3% บวก Vat 7%
บัตรกดเงินสด มีไว้สำหรับกดเงินสด ไม่มีค่าธรรมเนียมในการกดในแต่ละครั้งแต่คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 28 ต่อปีของยอดที่กด
-ค่าธรรมเนียม ทั้ง 2 บัตร ไม่เก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้า และรายปี
-การชำระคืน
สำหรับบัตรเครดิต หากชำระเต็มจำนวน ตามกำหนดระยะเวลา ธนาคารไม่คิดดอกเบี้ย หรือสามารถชำระในยอดขั้นต่ำ 10 % ของยอดหนี้คงค้าง หรือยอดหนี้ขั้นต่ำที่ธนาคารกำหนด ธนาคารคิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อปี
Advertisement
Advertisement
สำหรับบัตรกดเงินสด ไม่มีค่าค่าธรรมเนียมในการกด แต่คิดดอกเบี้ยทันทีนับจากวันที่กด คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 28 ต่อปี ไม่บวก Vat ยอดชำระขั้นต่ำ 3 % ของยอดหนี้คงค้าง หรือยอดหนี้ขั้นต่ำที่ธนาคารกำหนด
นั่นคือ Feature ของ บัตรเครดิต VS บัตรกดเงินสด แล้วเงินเดือนเท่าไรถึงจะสมัครได้ล่ะ สำหรับบัตรเครดิต ต้องมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 15,000 บาท ส่วนบัตรกดเงินสด ต้องมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 10,000 บาท ก็ลองไปยื่นสมัครกันดูนะครับ ชอบบัตรเครดิตของธนาคารไหน เลือกตาม Lifestyle ของตนเอง เพราะแต่ละธนาคารก็มีโปรโมชั่นแบบจัดเต็มจูงใจเชิญชวนให้ใช้กัน
สำหรับผู้เขียนมีบัตรเครดิต และบัตรกดเงินสดเกือบทุกธนาคาร เพราะอะไรหรือครับ มีโปรโมชั่นล่อจูงใจ บางที คนที่มาชวนเราทำ เขาเป็นพวก Outsource ที่รับจ้างธนาคาร หรือสถาบันการเงินอื่นที่ไม่ใช่ธนาคารหายอดบัตรเครดิต ซึ่งเขาจะมีรายได้จากจำนวนบัตรที่ได้รับการอนุมัติ เป็นเงิน 500-1,000 บาทต่อคน พวกเขาจึงมักเอาของมาล่อ เช่น กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เมื่อบัตรได้รับการอนุมัติ จนผู้เขียนเอง มีกระเป๋าเดินทางเต็มบ้านไปหมด ปัจจุบันผู้เขียนทยอยยกเลิกไปหลายใบแล้ว
Advertisement
Advertisement
Credit ภาพ : Sompussorn : Statement เรียกเก็บ
การมี บัตรเครดิต VS บัตรกดเงินสด ดีหรือไม่ ความเห็นส่วนตัว ผู้เขียนคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องมีวินัย เพราะการรูดปรื๊ด รูดปรื๊ด เราไม่ได้จ่ายเป็นเงินจำนวนมาก เช่น จ่ายเงิน 1 หมื่นบาท เราจ่ายแบงค์พันออกไปถึง 10 ใบ เราจะรู้สึกเสียดาย แต่รูดปรื๊ด รูดปรื๊ด มันง่าย มันเพลิน เราไม่รู้สึก จะมารู้สึกตอนที่มีจดหมายหรือ Statement มาให้ชำระเงิน ถึงขนาดแทบกุมขมับ ยอดหนี้เยอะ ไม่มีเงินจ่าย จ่ายขั้นต่ำก็ถูกคิดดอกเบี้ย เชื่อว่าหลายคนเป็นแบบนั้น ถ้าเรามีวินัย ใช้เงินอย่างฉลาด จ่ายเงินครบตามระยะเวลาที่กำหนด เราจะไม่เสียดอกเบี้ย
ข้อดีของการมีบัตรเครดิต คือถือเงินสดไว้ใช้จ่ายกับสิ่งที่จำเป็น ที่ต้องจ่ายด้วยเงินสด ผู้เขียนเคยซื้อแอร์ ราคาเงินสด กับราคาจ่ายด้วยบัตรเครดิตเท่ากัน คำตอบผู้เขียนเลือกจ่ายด้วยบัตรเครดิต ดีกว่า แถมยังได้ส่วนลดเพิ่มตามคะแนนสะสมที่มี และยังผ่อนได้ถึง 10 เดือน อันนี้ถือว่าดีงามครับ
ข้อเสียของการมีบัตรเครดิต ไม่ควรกดเงินสดจากบัตรเครดิตไปลงทุนอะไรยาวๆ เพราะระยะเวลาหรือรอบในการชำระคืนสั้น หากชำระหนี้ไม่ทันตามกำหนดระยะเวลา ยอดหนี้จะสะสมเป็นดินพอกหางหมู ทำให้เราจะต้องถูกฟ้องดำเนินคดี
ข้อดีของการมีบัตรกดเงินสด มีเงินหมุนเวียนในมือ ไม่ขาดสภาพคล่อง ไม่ต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบที่คิดอัตราดอกเบี้ยแพงมหาโหด
ข้อเสียของการมีบัตรกดเงินสด เมื่อกดเงินสดจะถูกคิดดอกเบี้ยทันที ในอัตราร้อยละ 28 ต่อปี
ส่วนบัตรของธนาคารไหนใช้ดี ใช้คุ้ม คงต้องเลือกตาม Lifestyle ของตนเองครับ ชอบกินก็ไปสมัครบัตร KTC .ใช้คะแนนสะสมเอามาเป็นส่วนลดในการทานอาหารแต่ละมื้อได้ ชอบที่ยวไปสมัครบัตรเครดิตกสิกร JCB Kbankชอบช้อป ห้างนั้น ๆ เป็นประจำก็ต้องเลือกบัตรที่เขาเป็นพันธมิตรกันครับ
Credit ภาพ : Sompussorn
ส่วนตัวผู้เขียนตอนนี้ใช้อยู่ 3 ใบครับ ใบแรกคือ บัตรกรุงศรี Platinum ชอบพราะเวลารูดซื้อตั๋ว BTS กับ MRT จะได้เงินคืนเข้าบัตร 45-50 บาท ในรอบบิลถัดไป ใบที่ 2 บัตร SCB Mcard VISA Platinum เป็นบัตรที่เป็นพันธมิตรกับห้าง The Mall เป็นห้างที่ผู้เขียนชอบไปเดินช้อป และชอบซื้อของที่ Home Fresh Mart เมื่อจ่ายด้วยบัตรนี้ทุกอย่างจะลดราคาพิเศษให้ทันที บัตรใบที่ 3 บัตรMastercard SCB FAMILY PLUS บัตรใบนี้ผู้เขียนใช้บ่อยกว่าบัตรอื่นๆ เพราะมี Cashback คืนให้ทุกยอดการใช้จ่าย
Credit ภาพ : Sompussorn
ในช่วงสถานการณ์ วิกฤติ COVID-19 เราไม่ได้ออกไปไหนกัน กักตัว Work From Home อยู่กับบ้าน การใช้จ่ายในช่วงเวลานี้ส่วนใหญ่จะช้อปออนไลน์กัน การสั่งอาหาร Delivery มาทาน หากจ่ายด้วยบัตรเครดิต พิจารณาโปรของบัตรเครดิตที่คุณถือกันสักนิด บางบัตรมีโปร มีส่วนลด และมี cashback คืน คือจ่ายไม่เต็ม แถมมีเงินคืนอีกต่างหาก ซึ่งผู้เขียนมักจะใช้ บัตรกรุงศรี Platinum เพราะมีส่วนลดในการสั่งพิซซ่า และ บัตร Mastercard SCB FAMILY PLUS เมื่อจ่ายไปจะได้ Cashback คืนสูงสุด 1% ของยอดการใช้จ่าย ลองไปพิจารณากันดูนะครับ วันนี้สวัสดีครับ
ความคิดเห็น






