ไลฟ์แฮ็ก
บาลานซ์ชีวิต กับข้อคิดเบา ๆ
.jpg)
บาลานซ์ชีวิต กับข้อคิดเบา ๆ
การหาเลี้ยงชีพในสังคมยุค 4.0 ผสมผสานกับยุคนิวนอร์มัล วิถีปกติใหม่แห่งการใช้ชีวิตเคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับโรคระบาดโควิด-19 นับเป็นอีกยุคที่ท้าทายการเกิดมาเป็นมนุษยชาติอย่างแท้จริง เราทุกคนต่างต้องเร่งปรับตัวให้ไว ตื่นตัวกระตือรือร้น และพยายามเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้พร้อมรับมือกับปัญหารอบด้าน หลายชีวิตนอกจากจะต้องทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพให้ตัวเองอยู่รอดแล้ว ยังต้องพยายามทำให้ตัวเองมีตัวตน มีพื้นที่ยืนได้ในสังคมที่ดำรงอยู่อีกด้วย การจะเอาชนะปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต เราควรปรับสมดุลในชีวิตเราอย่างไรบ้าง_0.jpg)
1) ยอมรับความจริง
คงมีบ้างล่ะ ที่บางครั้งอาจรู้สึกว่าพยายามอดทนทำเต็มที่แล้ว แต่ชีวิตมันก็ยังดูไม่ลงตัวสักเท่าไหร่ ช่วงนี้ทุกคนต้องรับผิดชอบสุขภาพตัวเองและคนรอบข้างเป็นพิเศษ ต้องเหนื่อยกับงานนอกบ้าน เบื่อหน่ายกับปัญหาสภาพการจราจร หรือแม้แต่ท้อแท้กับปัญหาส่วนตัวที่ยังหาทางออกไม่ได้ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนเป็นความจริงในชีวิตที่ต้องพบเจอ ที่สำคัญต้องยอมรับมันให้ได้เสียก่อน
Advertisement
Advertisement
2) มองทุกปัญหาว่ามีทางแก้
ทุกปัญหาย่อมมีทางออกของมัน แม้วันนี้คิดให้ตายยังไงก็คิดไม่ออก ลองปล่อยให้ปัญหามันฟักตัวสักพักก่อน อย่าพึ่งไปดันทุรังคิดจัดการมัน (หากมันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่ต้องรีบแก้ไขเลยในทันที) เคยเจอไหมบางครั้งปัญหาแย่ ๆ ในชีวิต มักถาโถมประเดประดังเข้ามาพร้อมกัน และดูท่าเหมือนว่าจะหมดหนทางแก้ไข ในขณะที่เรากำลังเป็นทุกข์ กำลังบีบเค้นสมองให้พยายามคิดหาทางออกให้กับความวัวยังไม่ได้ ความควายก็รีบปรี่เข้ามาแทรก ทำให้คุณต้องกุมขมับ คิดหนักวกไปวนมาซ้ำซาก พยายามหมกมุ่นจัดการกับปัญหาเพื่อหวังให้มันจบ ๆ ไป ตอนนั้นเป็นช่วงพีคของกราฟสมองสุด ๆ แต่ไม่ว่าคุณจะคิดหนักสักแค่ไหน มันก็มักจะยังไม่เจอคำตอบที่คุณพอใจนัก จนสมองคุณรู้สึกเหนื่อยล้า เบื่อหน่ายชีวิต จนทำให้หดหู่หมดหวัง แนะนำว่าให้หยุดคิดเรื่องนี้สักพัก แล้วพาตัวเองไปทำอย่างอื่นแทน จงออกไปเดินเล่น เที่ยว โทรคุยกับเพื่อน หาอะไรกิน ดูซีรี่ย์ ดูหนัง หรืออะไรก็ตามที่เป็นการพักสมอง
Advertisement
Advertisement
3) ใช้เวลาเยียวยาให้เป็น
เมื่อเวลาผ่านไป สมองโล่งขึ้น ความคิดเดิมอาจดึงคุณให้กลับมาสู่โหมดการแก้ปัญหานั้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เชื่อว่ามันจะไม่เหมือนเดิม แม้คุณอาจคิดหาทางแก้ปัญหาไม่ได้ทั้งหมด แต่เชื่อเหลือเกินว่าการมองดูปมปัญหา รวมถึงการหาวิธีคลี่คลายจัดการกับปัญหาเหล่านั้น มันจะไม่ได้ยิ่งใหญ่กดดันสมองมากมายอย่างที่คุณเคยคิดเอาไว้แต่แรก
เพราะเชื่อไหมว่าบางปัญหา มันถูกแก้ไขได้ด้วยกาลเวลา มันดีขึ้นเองหรืออาจจบลงได้ด้วยดี โดยที่คุณเองแทบไม่ต้องไปใช้สมองคิดต่อยอดแก้ไขให้สิ้นเปลืองพลังงานเลยแม้แต่น้อย
4) ใช้สติให้เป็น
ที่พูดมาทั้งหมด ไม่ได้บอกว่าเวลามีปัญหาเกิดขึ้น ให้วิ่งหนีปัญหาแล้วมันจะหายไปเองนะ แต่แค่อยากเตือนให้ใช้สติในการพิจารณาปัญหานั้นเป็นอันดับแรก เมื่อสติมา จะทำให้ปัญญาเกิด แล้วคุณจะเจอทางออกที่ดีที่เหมาะสมในการจัดการ แทนการมานั่งจับเจ่าจดจ่ออยู่กับปัญหาจนตัวเองเครียด
Advertisement
Advertisement
5) ให้เวลากับปัญหา
ปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตคนเรา หลายครั้งที่มันอาจไม่ต้องการให้เข้าไปจัดการแก้ไขมันทันที แต่สิ่งที่ปัญหามันอยากได้จากเรา ก็คือ “เวลา” แค่ให้เวลากับมันบ้าง ปล่อยให้ปัญหามันได้คลี่คลายและจัดการตัวมันเองสักพัก ก่อนที่เราจะเข้าไปวุ่นวายจัดการมัน และเมื่อมันได้เวลาที่เหมาะสม ปัญหาที่คุณมองว่าเคยเป็นปัญหาที่ใหญ่มากมายนั้น มันอาจไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปก็ได้ แต่คนที่ดิ้นพร่ากับปัญหาทุกอย่างที่เข้ามากระทบชีวิตต่างหากที่อาจกลายเป็นตัวปัญหาเสียเอง
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน ผ่านพ้นอุปสรรคแก้ปัญหาอย่างมีสติและผ่านทุกวิกฤตในชีวิตไปได้ด้วยดี
#ในทุกปัญหา_เราจะผ่านมันไปด้วยกัน
#WeFightTogether
“รักดี”
ภาพปกจาก https://pixabay.com/th/photos
ภาพประกอบ 2-5 จาก https://pixabay.com/th/illustrations
ความคิดเห็น






