ปวดหัว หงุดหงิดบ่อย นอยด์ไม่มีเหตุผล . . สัญญาณเตือนอาการเครียดจากการอยู่บ้าน

ปวดหัว หงุดหงิดบ่อย นอยด์ไม่มีเหตุผล . . สัญญาณเตือนอาการเครียดจากการอยู่บ้าน

ตั้งแต่เด็ก ๆ เราเรียนรู้กันมาว่า มนุษย์เป็นสัตว์สังคม และจำเป็นต้องอยู่รวมกันเยอะ ๆ มีการพึ่งพากัน แต่ก็นึกไม่ถึงว่าวันหนึ่ง มนุษย์ อย่างพวกเราจะถูกตัดขาดจากกันจากโรคระบาดร้ายอย่างโควิด-19 ทั้งยังทำให้เกิดการทำ Social Distancing ที่ต้องเว้นระยะจากกัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนรัก คนรัก หรือใครหน้าไหนก็ต่างต้องยอมสดุดีให้กับการเว้นระยะห่างนี้ทั้งนั้น นั่นอาจจะทำให้ตอนนี้โลกของเราอาจจะเป็นยุคที่มีคนเหงา คนป่วย และคนเป็นโรคซึมเศร้ามากเพิ่มขึ้นที่สุดเลยก็ได้ . . ต้องยอมรับว่าตั้งแต่เริ่มมีการทำงานที่บ้าน (Work From Home) นั้น ก็ทำให้ชีวิตที่เคยปกติสุข-ทุกข์บ้างตามประสา กลับเกิดอาการประหลาด ๆ ขึ้นมากับคนในครอบครัว อาทิ ขี้โมโหผิดปกติ ขี้นอยด์ เบื่อโลก และอาการหมดเรี่ยวแรงไม่อยากทำอะไรในชีวิต ไร้แรงบันดาลใจ บางคนเบื่ออาหาร หรือบางคนก็ทานอาหารมากกว่าปกติก็มี อาการเหล่านี้อาจไม่ใช่ เรา คนเดียวที่เป็น เพราะเราเชื่อว่ามีหลายคนที่มีอาการแบบนี้เช่นกัน . . ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดขึ้นกับตัวเราเองในช่วงแรกของการทำงานที่บ้าน สำหรับเรามันเป็นสัญญาณเตือนของความเครียดจากการที่ต้องถูกจำกัดบริเวณในการอยู่บ้าน

อีกอย่างหนึ่งที่เราว่ามีผลมาก . . คือเรื่องแสงสว่าง เราเคยได้ยินว่าที่ประเทศอังกฤษผู้คนมักจะบึ้งตึงเพราะอากาศที่นั่นขมุกขมัว ท้องฟ้าไม่ค่อยสดใส ฝนตกบ่อย แต่พอวันไหนแดดออก คนก็จะมีความสุขและอารมณ์ดีมาก เราว่าเรื่องนี้ก็เหมือนกัน ถ้ารู้สึกว่าช่วงนี้หดหู่ เบื่อ ไม่มีความสุข ลองสังเกตสถานที่ที่ตัวเองนั่งทำงานบ่อย ๆ ว่าแสงเพียงพอไหม อุดอู้ไปหรือเปล่า ได้ออกไปเห็นแสงแดด หรือต้นไม้อะไรบ้างไหม เราว่าแสงกับอารมณ์มนุษย์ส่งผลถึงกันมากถึงมากที่สุด เราจะสดใสขึ้นมากเวลาเจอแดด และเราคิดว่าทุกเช้าทุกคนควรได้ออกไปสัมผัสแดดบ้าง อากาศข้างนอกบ้าง ช่วงนี้อาจจะมีโรคระบาดทำให้ทุกคนกลัวไม่กล้าออกจากบ้าน เราแนะนำให้ตื่นเช้าหน่อย สักหกโมงเช้าไปรับแดด จะทำให้วันนั้นรู้สึกสดชื่นขึ้นจริง ๆ ลองดูนะ เราว่าได้ผลมากเลย และที่สำคัญให้ออกกำลังกาย อย่าหยุดออกกำลังกายเด็ดขาด การออกกำลังกายทำให้สารเอ็นโดฟินหลั่ง แล้วจะหงุดหงิดน้อยลง นอนหลับสนิทขึ้น 

สุดท้ายแล้วเรื่องการแบ่งเวลา และแบ่งสเปซ คือเราเข้าใจเลยว่าบางคนอยู่กันในบ้านเล็ก ๆ ไม่ได้มีพื้นที่ส่วนตัว พอช่วงกักตัวทุกคนในบ้านก็ต้องอยู่รวมกัน เมื่อก่อนเจอกันสัปดาห์ละ 3-4 วันแค่ช่วงทานข้าวเย็นก็ไม่เท่าไหร่ แต่ลองคิดดูว่ามานั่งอยู่ด้วยกันทั้งวันแทบจะ 24 ชั่วโมง จะทำให้มีการทะเลาะเบาะแว้งกันได้ บางทีไม่ได้เกลียดกันหรอก แต่มันเจอกันบ่อย ๆ ก็อาจจะมีอะไรผิดหูกันได้มั่งแหละ เราว่าทางที่ดีคือแบ่งสเปซกัน มีระยะห่างให้มีความเป็นส่วนตัวหน่อย หรือว่าผัดเปลี่ยนเวลากันนั่ง ที่สำคัญคืออย่าใจร้อน หากรู้ตัวว่าเริ่มหงุดหงิดก็เดินหนี หรือฟังเพลงไป หาอย่างอื่นมาทำไป ยิ่งคู่รักที่อยู่ในคอนโดด้วยกัน เจอหน้ากันทุกวันอาจจะมีทะเลาะกันบ้าง เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ต้องใจเย็นและมองข้าม หาเวลาในมุมของตัวเองบ้าง จะทำให้มีความสุขขึ้น

สุดท้ายนี้เราอยากให้ทุกคนใส่ใจอารมณ์ ความรู้สึก และการเปลี่ยนแปลงของตัวเองและคนในครอบครัว วิธีที่ดีที่สุดของเราคือเล่นกับแมว คุยกับหมา หรือปลูกต้นไม้ เพราะบางทีเราก็ไม่อยากคุยกับคนอื่นเท่าไหร่ ลองสั่งต้นไม้มาเลี้ยง หรือหาเวลาเล่นกับสัตว์เลี้ยง เราว่าช่วยคลายเครียดดีมากเลยแหละ งานช่วงนี้หลายคนอาจจะหนัก แต่มองในแง่ดีกว่าว่าเราไม่มีงานทำเนอะ อยากให้ทุกคนผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ และสุขภาพจิตเราก็ต้องแข็งแรงด้วยนะ สู้ ๆ นะทุกคน เราจะผ่านไปด้วยกัน :)

ภาพประกอบที่ 1

ภาพประกอบที่ 2

ภาพประกอบที่ 3

ภาพประกอบที่ 4 และภาพปก