อื่นๆ

ผีเจ้าที่

140
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ผีเจ้าที่

                    สวัสดีค่ะ นักอ่านและนักเขียน True ID ทุก ๆ ท่าน  ถ้าพูดถึงคำว่าเจ้าที่เจ้าทางเราเชื่อว่าหลาย ๆ คน คงจะต้องรู้จักเป็นอย่างดี  เจ้าที่หมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยคุ้มครองสถานที่  อาจจะเป็นบ้านเรือนหรือที่อยู่อาศัยเท่าที่เคยได้ยินมา เจ้าที่ย่อมมีทั้งดีและไม่ดี  แต่ก็มีคนอีกเป็นจำนวนไม่น้อยไม่เชื่อว่าเจ้าที่มีอยู่จริง  คุณป้าเคยเล่าให้เราฟังว่า ท่านเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องเจ้าที่เจ้าทาง จนได้ประสบพบเจอกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติสุดหลอน ที่ต้องจดจำมาจนทุกวันนี้  คุณป้าท่านเล่าให้เราฟังว่า บ้านที่ท่านอยู่เป็นบ้านเก่าของยายที่มีอายุเกือบร้อยปี  ข้างบ้านที่ท่านอยู่จะมีศาลเจ้าที่เก่า พอ ๆ กับบ้านอยู่ใกล้กัน ยายแกสั่งนักสั่งหนาว่าไม่ให้คุณป้าไปเล่นใกล้ ๆ ศาล ในทุก ๆ เช้า  คุณป้าจะเห็นคุณยายเอาดอกไม้ไปไหว้ และถวายอาหารคาวหวานให้แก่เจ้าที่ในศาลทุกวันเป็นประจำ  เพราะแกนับถือศาลเจ้าที่ศาลนี้มากทีเดียว  อยู่มาวันหนึ่งยายของคุณป้ามีธุระต้องเดินทางไปต่างจังหวัด แกเลยสั่งให้คุณป้าไปซื้อพวงมาลัย  พร้อมทั้งหาอาหารคาวหวานไปไหว้เจ้าที่ในศาลแทนแกหน่อย  เพราะแกไม่รู้ว่าจะกลับทันไหม  แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่อาจจะเป็นเพราะความไม่เชื่อที่มีติดตัวคุณป้าอยู่แล้ว  บวกกับอยากลองของ  คุณป้าจึงเอาเงินที่ยายฝากไว้ไปซื้อขนมเลี้ยงเพื่อนจนหมด  รวมทั้งตัวเองก็ซื้อกินด้วย  วันนั้นเพื่อนคุณป้าตกใจมาก ว่าจู่ ๆ คุณป้าก็มีเงินมากมายมาเลี้ยงขนม กินเท่าไหร่ก็กินไม่หมดเพราะขนมที่คุณป้าซื้อให้เพื่อนนั้นเยอะมาก เพื่อน ๆ เกิดความสงสัยจึงถามคุณป้าไปว่า ไปเอาเงินมาจากไหนเหรอมากเชียว คุณป้าจึงตอบพวกเพื่อน ๆ ไปว่า ยายฝากไว้ให้ซื้อพวงมาลัยไหว้ศาลเจ้าที่ข้างบ้านน่ะ  พวกเพื่อนก็หัวเราะชอบใจแล้วถามว่าไม่กลัวหรอ  คุณป้าบอกว่า ถ้าพวกเธอไม่พูดใครจะรู้ล่ะบ้านร้าง

Advertisement

Advertisement

 เครดิตภาพ :  pixabay.com


คืนนั้นวัดข้างบ้านที่คุณป้าอยู่มีงานประจำปี  คุณป้ากับเพื่อน ๆ จึงรวมตัวกันนัดไปเที่ยวงานวัดเลิก ประมาณตีสาม คุณป้าจึงชวนพวกเพื่อนๆให้นอนค้างที่บ้าน แต่ไม่มีใครกล้านอน แม้แต่คนเดียว เพราะสภาพบ้านคุณป้าที่เป็นบ้านไม้เก่านั้น มันสภาพน่ากลัวมาก ๆ คุณป้าเล่าให้เราฟังต่ออยู่ว่าตอนที่คุณป้ากับเพื่อนกลับมาจากวัด แล้วเดินผ่านศาลที่อยู่ข้างบ้าน คุณป้าได้ยินเสียงครางฮือๆ ตอนแรกคุณป้าคิดว่าเป็นเพื่อนแกล้งอำ จึงบอกให้ออกมาเลยนะ รู้หรอกว่าเป็นใคร พอคุณป้าพูดจบก็มีคนแก่ เดินออกมาจากด้านหลัง ศาลเจ้าที่ คุณป้าบอกว่าตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลย ชายแก่ที่เดินออกมา ชี้หน้าคุณป้าแล้วพูดว่าพวงมาลัยของกูอยู่ไหน คุณป้าก็งงกับคำพูดนั้น แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ ถามใช้แกไปว่าพวงมาลัยอะไรหรอ ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย ชายแก่ ที่เดินออกมา จากหลังศาล เจ้าที่ จึงบอกว่า พรุ่งนี้อย่าลืมพวงมาลัยของกูล่ะ พอพูดจบ แกก็หันหลังกลับแล้วเดินตรงไปที่ศาลเจ้าที่ จากนั้นร่างของแกก็หายวับไปต่อหน้าต่อตาคุณป้าเลย คุณป้าเล่าต่ออีกว่าตอนนั้น แกทำอะไรไม่ถูก ตัวสั่น ขาสั่นน้ำตาไหล ก้าวขาก็ไม่ออก จะรู้ได้ทันทีว่า สิ่งที่แกได้ทำ ไปไหนวันนี้ คือการเอาเงินที่ยายฝากไว้ ไหว้ศาล ไปซื้อขนมเลี้ยงเพื่อนนั้น ทำให้แกต้องมาเจอกับเหตุการณ์สุดหลอนสุดระทึกที่แกจะต้องจำไปจนวันตาย แกพยายามตั้งสติสวดพุทโธพุทโธ อยู่ในใจจนจิตใจเริ่มเข้าที่เข้าทาง จะถึงก้าวขาออก หลังจากได้สติคุณป้า ก็รีบวิ่ง ขึ้นบ้าน คุณป้าบอกว่าตอนนั้นยอมรับว่ากลัวสุดขีดจริงๆไม่เคยคิดว่าชีวิต ของแกจะต้องมาเจอกับเรื่องอะไรที่น่ากลัวแบบนี้ ที่อยู่ดีๆ มีชายแก่มาต่อว่าแล้วก็เดินหายวับไปต่อหน้าต่อตา คนแก่

Advertisement

Advertisement

เครดิตภาพจาก : pixabay.com


จากเหตุการณ์นี้คุณป้าเล่าให้ฟังว่าแกก็ยังไม่เลิกนิสัยลบหลู่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์  อยู่มาวันนึงแกเดินผ่านศาลพระภูมิศาลเดิม ที่แกเคยเห็นชายแก่ออกมาจากหลังศาล  มาครั้งนี้แกเห็นตุ๊กตาในศาลสวยดีแกจึงตัดสินใจหยิบเอามาเล่นที่บ้าน คืนนั้นแกบอกว่าแกรู้สึกปวดแสบปวดร้อนมือเหมือนโดนไฟเผา  ยายของคุณป้าจึงถามว่า วันนี้ได้ไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า ตอนแรกคุณป้านึกไม่ออกก็บอกคุณยายไปว่าไม่ได้ทำอะไรนี่นา แต่อยู่ดี ๆ ภาพตอนที่แกหยิบตุ๊กตาจากศาล  มาเล่นกับเพื่อนแค่นั้นมันก็เกิดขึ้นมาทันที แกจึงบอกคุณยายไปว่าวันนี้ได้ไปหยิบตุ๊กตาในศาลมาเล่น  เพราะเห็นว่าสวยดี  เมื่อคุณยายได้รู้ความจริง ถึงกับอุทานออกมาว่าบรรลัยล่ะ คุณยายบอกว่าศาลเจ้าที่ทุกศาลจะมีบริวาร  ซึ่งก็คือตุ๊กตาต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในศาล  เราเองกล้าดียังไงไปหยิบออกมาเล่นไม่กลัวบ้างเหรอ  คุณยายบอกคุณป้าว่า...เอ็งไม่รู้บ้างหรือไงว่าใครที่ไปแตะต้องของในศาล  ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัย หรือตุ๊กตาจะต้องโดนลงโทษอย่างหนัก  คุณยายจึงบอกคุณป้ารีบไปขอขมา และให้ไปซื้อตุ๊กตาตัวใหม่ที่สวยกว่าเดิมและมีขนาดใหญ่กว่าเดิมไปตั้งคืนไว้ที่เดิม  อาการปวดแสบปวดร้อนที่มือจึงได้หายไป  และกลับกลายเป็นปกติในช่วงเวลาแค่ไม่ถึงชั่วโมง  และนี่เป็นสิ่งที่ทำให้คุณป้าต้องเชื่อเกี่ยวกับเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้าที่  ว่าไม่ควรไปล้อเล่นหรือลบหลู่แต่อย่างใดบ้านร้าง

Advertisement

Advertisement

เครดิตภาพจาก : pixabay.com


 หลังจากเล่าเรื่องให้เราฟังจบแล้ว คุณป้ายังสอนเราอีกว่า  เพราะแกเป็นคนหัวดื้อมาก ๆ ถึงได้เจอเรื่องหลอน ๆ แบบนี้  คุณป้าอยากให้เราจดจำเรื่องที่แกเล่าไว้เป็นอุทาหรณ์และเตือนสติว่าอย่าได้ไปลองดี หรือท้าทายกับสิ่งที่ไม่มีตัวตน  หรือสิ่งที่มีอำนาจเร้นลับเป็นอันขาด  เพราะว่าเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าสิ่งที่ไม่มีตัวตนเขามีพลังอำนาจมากเพียงใด และเขาสามารถที่จะทำอะไรเราได้บ้าง  คุณป้าบอกว่าจำไว้นะตามการกราบไหว้ศาลเจ้าที่ จะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล เนื่องจากฤทธิ์ของท่านจะสามารถดลบันดาลให้เรา และคนที่อยู่อาศัยร่วมกับเรามีความร่มเย็นเป็นสุข  แต่ในทางกลับกันถ้าใครลบหลู่ดูหมิ่นก็จะประสบกับสิ่งเลวร้าย  ที่น่าสะพรึงกลัวเหมือนที่แกประสบมาในวัยเด็ก  และทั้งหมดนี้ก็เป็นประสบการณ์หลอน  ที่คุณป้าของเราได้เคยประสบพบเจอมาในวัยเด็กตอนที่ท่านยังรู้เท่าไม่ถึงการณ์  ท่านได้จำไว้จนทุกวันนี้และได้เล่าต่อให้เราฟังเพื่อเป็นวิทยาทาน เพื่อที่ท่านหวังว่า เราจะได้ไม่โดนอย่างท่าน ครั้งหน้าถ้าเรามีประสบการณ์ ด้วยตัวเองหรือ ใครเล่าให้เราฟังมาอีกแล้วก็จะมาเขียนให้ทุกๆคนได้อ่านกันอีกนะคะ สำหรับวันนี้ลาไปก่อน สวัสดีค่ะ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์