ไลฟ์แฮ็ก
ฟังให้ได้ศัพท์... จับมาเป็นประโยชน์

ภาพหน้าปกโดย Foundry จาก Pixabay.com
การฟัง มีความสำคัญกับชีวิตเราเสมอเพราะเราจะมีความสุขหรือมีความทุกข์ ส่วนหนึ่งก็เนื่องมาจากการฟังนั่นเอง ซึ่งการฟังลักษณะหนึ่งที่มักจะนำความทุกข์และความวุ่นวายมาให้ ก็คือการฟังที่ขาดความละเอียด การฟังแบบผ่าน ๆ การฟังแบบนี้แหละครับที่ชวนทำให้มนุษย์เกิดปัญหามานักต่อนักแล้ว
ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากการฟังอะไรโดยที่ยังไม่ทันจบหรือฟังอะไรมาไม่ครบ ที่พบได้บ่อยที่สุด แต่หลายคนกลับรีบเร่งทำการสรุปจนก่อให้เกิดความเข้าใจผิด บางคนโกรธเคืองกัน ผิดใจกัน ทะเลาะกัน เพราะการฟังแบบไม่ละเอียดหรือฟังเพียงผ่าน ๆ เท่านั้นเอง เข้ากับคำโบราณว่า ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด ไม่มีผิดเพี้ยนจริง ๆ
พฤติกรรมการฟังแบบเร่งด่วนของคนเราเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องตระหนักครับ เพราะการที่คนเราใช้หูอยู่ตลอด ใช้กันจนชิน จนเราอาจจะลืมไปว่าหูนั้นมันมีหน้าที่ฟังอย่างเดียว มันจะทำงานอย่างซื่อสัตย์ โดยการจับเอาทุกคลื่นเสียงที่ได้ยินส่งไปยังสมองให้เจ้าของได้รับรู้อยู่ตลอด ไม่ว่าสิ่งที่ได้ยินจะชัดหรือไม่ จะครบสมบูรณ์หรือไม่ หูก็ทำตามหน้าที่ของมันอย่างตรงไปตรงมา
Advertisement
Advertisement
ภาพโดย kaboompics จาก Pixabay.com
อย่างในเวลาที่มีคนพูดจาไม่น่าฟังกับเรา หูมันก็ยังส่งสารนั้นเข้าสู่สมองเราแบบเต็ม ๆ ไม่มีการตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงใด ๆ ซึ่งหากเราไม่รู้จักควบคุมตัวเองให้ดีก็จะเกิดอารมณ์โมโห เพราะสิ่งที่ผ่านเข้ามาในรูหูเราได้ทุกเมื่อ เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ของหูที่จะคัดกรองสิ่งที่ผ่านเข้ามาได้เองหรอกครับ มันเป็นหน้าที่ของสมองต่างหากที่สามารถทำสิ่งนี้ได้... หูคืออวัยวะที่นอกเหนือการควบคุม เราจะตัดการทำงานให้มันไม่ได้ยินก็ไม่ได้อีก เช่นนี้แล้วถ้าเราคุมมันไม่ได้ โดยปล่อยให้ทุกอย่างที่ได้ยินมาทำให้เราอารมณ์ดีก็ได้ อารามณ์เสียก็ได้แบบนั้นเหรอครับ ก็เท่ากับเราเป็นทาสของหูแทนที่เราจะเป็นนายของมันจริงไหมครับ
อะไรที่หูสื่อสาร เราก็เชื่อตามนั้นหมด แบบนี้แหละครับที่ทำให้เกิดปัญหาอย่างแท้จริง
Advertisement
Advertisement
ถึงแม้เราจะควบคุมหูของเราไม่ได้ แต่อย่างน้อยเราเลือกที่จะเรียนรู้ที่จะเป็นเจ้านายของหูให้เหมาะสม และสิ่งที่ต้องเรียนรู้ก่อนอื่นใดคือ "จงอย่าใช้หูในสไตล์เร่งรีบฟัง" อย่าตีความเร็วเกินไป อย่างเพิ่งด่วนสรุปใจความจากที่ได้ยินได้ฟังเพียงชั่วขณะ แต่เราต้องนำพาตัวเองเข้าสู่กระบวนการ ฟังให้ช้า ๆ ฟังให้ชัดเจน ฟังให้เกิดคุณค่า และ ประโยชน์มี 2 กระบวนการดังนี้ครับ
กระบวนการที่ 1 คือ ฟังให้ช้าลง ฟังให้ได้ศัพท์ จับใจความให้ละเอียด
ก็เริ่มจาการที่เราจะต้องฝึกตัวเองให้ฟังอย่างละเอียด ฟังอย่างมีสติ อย่าเอาแต่ฟังแล้วรีบคิด รีบด่วนสรุป แต่เราต้องพยายามฟังอย่างคนมีปัญญาครับ คือฟังแล้วคิดไปด้วย ฟังแล้วไตร่ตรอง กรองให้ดี ไม่จำเป็นต้องรีบโต้ตอบจากสิ่งที่ได้ยินได้ฟังในทันทีหรอกครับ ให้เวลาตัวเองได้วิเคราะห์ให้ดีสักหน่อย โดยเฉพาะถ้อยคำที่มีเป้าหมายจะทำให้เราขุ่นใจและอารมณ์เสีย เช่น คำด่าหรือคำตำหนิทั้งหลาย เมื่อเราฟังแล้ว จงชะลอตัวเอง ยิ่งคำเชิงลบต้องยิ่งช้าที่สุด เพราะการโต้ตอบคำเชิงลบนั้นไม่ใช่วิธีดีเลยครับ รังแต่จะทำให้เกิดเรื่องเกิดราว ซึ่งบางคนก็คิดค้านว่า ถ้าใครด่าเรา เราต้องด่ากลับสิ เพื่อที่เราจะได้ดีคะแนนเอาคืนได้ ถ้าเราไม่เถียงเลยจะเท่ากับอีกฝ่ายนั้นชนะ... อีกแล้วครับ ดูสิครับเรื่องแพ้เรื่องชนะอีกแล้ว ผมจึงอยากแนะนำครับ เราควรเป็นผู้ฟังให้ดีและคัดกรองทุก ๆ คำที่ได้ยินได้ฟัง ไม่ว่าคำ ๆ นั้นจะดีหรือไม่ดี ควรอย่างยิ่งที่ตัวเราเองนี่แหละครับเริ่มต้นเป็นผู้ฟังที่ดี ผมเชื่อครับทุกคนสามารถทำได้ เพราะสิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่จะสามารถนำทางเราไปพบสิ่งที่ดีกว่า มาสนใจกับเรื่องแพ้ชนะกับการโต้เถียงกลับกันไปมาจนไม่มีที่สิ้นสุด ผู้ฟังที่ดีย่อมได้กำไรกับชีวิตครับ เพราะการฟังนั้นทำให้เกิดประโยชน์กับตัวคุณเองได้มากที่สุดครับ
Advertisement
Advertisement
ภาพโดย jamesoladujoye จาก Pixabay.com
กระบวนการที่ 2 ก็คือตัวเราเอง เอาชนะตัวเองให้ได้กับสิ่งรอบ ๆ ตัว
ทราบไหมครับว่าใครกันที่หากเราสามารถเอาชนะได้ เราจะได้ชื่อว่าเก่งที่สุด... คำตอบก็คือตัวเองไงครับ ดังนั้นการชนะคนอื่นด้วยการด่ากลับหรือการเถียงนั้นไม่ใช่ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่อะไรเลย ใคร ๆ ก็ทำได้ และพอทำได้แล้วก็มักเกิดเหตุการณ์เถียงไม่รู้จบขึ้นมาอีก เพราะไม่มีใครยอมใคร แต่หากคุณสามารถฝึกชนะตนเองได้ ทำให้เรื่องจบลงโดยไร้การทะเลาะได้ นั่นแหละครับที่เราจะได้ตำแหน่งผู้ชนะตัวจริงที่ช่วยยับยั้งไม่ให้เกิดเรื่องแย่ ๆ ขึ้น อย่างหลงผิดคิดแต่ว่าต้องเถียงกัน นั่นคือวิถีแบบที่ไร้สติ เพราะเราต้องคิดให้เหนือชั้นกว่านั้น เราต้องตระหนักว่าทุกการกระทำของเรามันส่งผลเสมอ ซึ่งจะส่งผลดีหรือร้ายย่อมขึ้นอยู่กับการเลือกแสดงออกของเราเอง และเคล็ดลับง่าย ๆ หากทุกคนอยากมีชีวิตที่ดีก็คือ คุณควรควบคุมการแสดงออกของตัวเองโดยเลือกทางที่จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาตามมา จึงเป็นการชี้ชวนให้คุุณฟังช้าลงครับ ถ้าเป็นข้อมูลข่าสารหรือความรู้ทั้งหลาย เราก็ควรฟังแล้วคิดตามเพื่อให้สิ่งเหล่านั้นแตกหน่อต่อยอดทางปัญญาและความคิด ทำให้เรารู้อะไรได้มากขึ้นครับ เข้าใจเรื่องนั้น ๆ ได้ดีขึ้น
ผมอยากให้คุณลองสังเกตแบบวิถีฟังช้า ๆ ฟังให้ได้ศัพท์ ฟังให้ได้สติ และฟังให้เกิดปัญญาให้ดีนะครับ แล้วคุณจะเห็นว่สทุกสิ่งมีทางออก ไม่จำเป็นต้องคิดลบ คิดเอาเองหรือไปขึ้นเสียงเอาเรื่องกับใคร เราสามารถสรุปแต่ละเรื่องให้จบลงได้อย่างสวยงามเสมอครับ เพราะเมื่อเราฟังแล้วรับข้อความเหล่านั้นเข้าหูแล้ว ถือว่าเราเป็นนายของหูเราได้แล้วครับ เราจะทำอย่างไรต่อมันก็จะขึ้นอยู่กับเราที่ตัดสิน
ภาพโดย PourquoiPas จาก Pixabay.com
ลองใช้วิธีนี้ดูสิครับ เป็นวิธีง่าย ๆ สำหรับตัวคุณเอง ที่จะทำให้คุณเป็นนายตัวเองเป็นนายของคำพูดและการฟังของคุณอีกด้วย ใช้การฟังแบบช้า ๆ แต่จับใจความหมายและคำเหล่านั้นได้ละเอียดคนรอบตัวคุณให้ดี แล้วจะไม่มีปัญหาคนพูดไม่เข้าหูอีกต่อไป เพราะคุณสามารถเปลี่ยนแปลงมันให้กลายเป็นสิ่งดี ๆ ได้ทั้งหมดครับ แล้วคุณจะกลายเป็นคนอารมณ์ดี เป็นคนน่าคบหาในสายตาคนอื่น ๆ ได้โดยอัตโนมัติ และการใช้ชีวิตการงานหน้าที่ของคุณหรือการใช้ชีวิตกับครอบครัวของคุณก็จะดีขึ้น นี่แหละครับประโยชน์ของการฟังให้ดีคือกำไรชีวิตกับตัวคุณเองอีกด้วย
🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸
ความคิดเห็น






