อื่นๆ
มาตรฐาน การตรวจวัดคุณภาพน้ำเสีย
.png)
ยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้า และหาซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกได้ง่าย ยุคในสมัยที่สิ่งแวดล้อมถูกทำลายลงไปมาก จากการกระทำของมนุษย์ และภัยธรรมชาติ ล้วนสร้างความเสียหาย ให้ระบบธรรมชาติที่เคยสมดุล กำลังจะเสื่อมโทรมลงไป ในปัจจุบัน เทรนสุขภาพและสิ่งแวดล้อมกำลังมาแรง เพื่อให้หลายคนตระหนักต่อการใช้ชีวิต ที่เรายังต้องดำเนินอยู่ในโลกใบนี้
บทความนี้จะบอกเล่าเรื่องราวของการตรวจมาตรฐานในการตรวจวัดคุณภาพน้ำ ก่อนที่จะถูกปล่อยออกจากโรงงาน
ประเทศไทยนั้น ยังจัดเป็นประเทศที่ยังพัฒนาอยู่ แต่ในขณะที่บางประเทศนั้น ได้พัฒนาไปจนถึงจุดหนึ่งแล้วพบว่า การพัฒนาทางอุตสาหกรรมนั้น ได้ไปเปลี่ยนสมดุลบางอยู่ในธรรมชาติ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ ก็อย่างเช่น ปริมาณฝุ่นที่เพิ่มขึ้น หรือที่รู้จักกันนั่นก็คือ PM 2.5 ถ้าย้อนกลับใบในยุคล่าอาณานิคม หรือยุคอุตสาหกรรม ช่วงนั้นปัญหาแบบนี้ยังไม่ได้สร้างความลำบากใจหรือมีผลกระทบมากนัก แต่ในปัจจุบัน ปัญหานี้กลับทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสาเหตุก็มาจากอุตสาหกรรม และจากอุณหภูมิของโลกที่เพิ่มสูงขึ้น เมื่อการก่อตั้งอุตสาหกรรม และการพัฒนา ส่วนทางกับสมดุลทางธรรมชาติ
Advertisement
Advertisement
โดยปกติแล้ว ในประเทศไทยนั้นยังไม่มีการควบคุมน้ำเสียที่ปล่อยออกมาทางบ้านเรือน อันเนื่องมาจาก การตรวจสอบหรือการตรวจวัดนั้นไม่สามารถกระจายได้ในทุกครัว และน้ำเสียที่ปล่อยออกมาในแต่ละวัดมีปริมาณที่ไม่มาก แต่ในต่างประเทศนั้น จะมีการควบคุมและตรวจสอบน้ำเสียที่ปล่อยออกจากบ้านเรือน โดยมีการตรวจวัดและมีบ่อบำบัดน้ำเสียในหมู่บ้าน หรือชุมชนนั้นๆ
แต่ในเชิงอุตสาหกรรมนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากมีการใช้น้ำในกระบวนผลิต ทำให้มีน้ำเสียที่ถูกบ่อยออกมาจากโรงงาน ซึ่งน้ำเสียที่จะปล่อยออกจากโรงงานได้นั้น ต้องมีการควบคุมปริมาณสารเคมีที่หลงเหลืออยู่ในน้ำ
ทราบกันหรือไม่ว่า น้ำที่ถูกปล่อยออกจากโรงงานนั้น
ต้องมีอุณหภูมิไม่เกิน 40 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิ 40 องศาอาจจะไม่ได้มากเมื่อเราใช้มือสัมผัสตรง แต่อุณหภูมิของน้ำที่สูงมากกว่า 40 องศานั้นมีผลต่อสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในน้ำ และส่งผลให้จุลินทรีย์บางชนิดเจริญเติบโตได้ดี ซึ่งสามารถตรวจวัดโดยใช้เทอร์โมมิเตอร์ที่มีมาตรฐาน ในขนาดที่สี กลิ่น นั้นไม่สามารถบ่งบอกถึงคุณภาพของน้ำเสียได้ แต่สารเคมีที่อยู่ในน้ำเสีย สามารถวัดปริมาณได้โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์
Advertisement
Advertisement
น้ำเสียที่ถูกปล่อยออกมานั้น ต้องมีการตรวจสอบ ของแข็งที่ละลายน้ำ และของแข็งที่ลอยน้ำ ในขณะที่ค่า BOD และ COD นั้นสามารถระบุคุณภาพน้ำเสียได้ รวมทั้งการควบคุมปริมาณของสารเคมี ซัลไฟล์ ไซยาไนด์ น้ำมันหรือไขมัน สารประกอบฟีนอล และโลหะหนัก
จากที่กล่าวไปทั้งหมดนั้น จะเห็นว่ามีการควบคุมและตรวจสอบสารเคมีที่อยู่ในน้ำเสีย ซึ่งในโรงงานบางโรงงานนั้น ก็มีกระบวนการบำบัดน้ำเสีย และมีการหมุนเวียนน้ำแล้วนำกลับไปใช้ใหม่ เพื่อลดปริมาณน้ำเสียที่ปล่อยออกมา และในการบำบัดน้ำเสียนั้น อาจจะมีการใช้สารเคมีเพื่อดักจับโลหะหนักและสารเคมีที่มีค่าเกินกว่าที่มาตรฐานกำหนด ซึ่งในขั้นตอนการบำบัดน้ำเสียนั้นถือเป็นความรับผิดชอบของโรงงานต่อสิ่งแวดล้อมที่ต้องมีการส่งทุนและใช้เงินในการบำบัดน้ำ จึงมีบางโรงงานที่ปฏิบัติตาม
อย่างไรก็ดี ถึงแม้นว่า การใช้น้ำภายในครัวเรือนนั้นจะไม่ได้ปล่อยน้ำเสียในปริมาณมากเท่ากับภายในโรงงาน แต่น้ำเสียที่ถูกปล่อยออกจากในครัวเรือนแต่ละหลังที่มีเยอะ ก็มีปริมาณเพิ่มขึ้นตามไปด้วย จะดีกว่าไหมถ้าทุกคนสามารถช่วยลดการทิ้งขยะลงในแหล่ง หรือทิ้งของเสียลงสู่แหล่งน้ำโดยตรง เพราะน้ำสะอาดมีอยู่จำกัด เราควรใส่ใจและเห็นถึงประโยชน์ของมัน
Advertisement
Advertisement
ตารางรายละเอียดของการตรวจวัดและควบคุมน้ำเสีย ---> http://www.pcd.go.th
ค่า BOD คือปริมาณของออกซิเจนที่จุลินทรีย์ใช้ในการย่อยสลายสารอินทรีย์ที่อยู่ในน้ำ โดยใช้เวลาในการตรวจวัด 5 วัน
ค่า COD คือปริมาณของออกซิเจนที่ย่อยสลายสารอินทรีย์และอนินทรีย์ที่มีอยู่ทั้งหมด โดยนิยมใช้สาร K2Cr2O7/H2SO4 ในการทดสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์
ติดกระแส
กีฬา
lakers vs timberwolves จบฝันเลเกอร์ส! ทิมเบอร์วูล์ฟส์ดับหวังซีรีส์ 4-1

แมวคลั่งบอล
Advertisement
Advertisement
Advertisement
Advertisement
Advertisement
ข้อตกลงและเงื่อนไข|Copyright © True Digital & Media Platform Company Limited. All rights reserved
ติดกระแส
กีฬา
lakers vs timberwolves จบฝันเลเกอร์ส! ทิมเบอร์วูล์ฟส์ดับหวังซีรีส์ 4-1

แมวคลั่งบอล