ไลฟ์แฮ็ก
มีเรื่องเครียดอยู่แล้ว แต่เพื่อนเอาแต่ปัญหาตัวเองเล่าให้ฟัง...ทำไงดี?

สวัสดีจ้าทุกคน...ใครมีเพื่อนเล่าแต่ปัญหาตัวเอง แล้วคนที่รับฟังไม่อยากฟังบ้างยกมือขึ้น! ผู้เขียนเชื่อได้เลยว่า หลายคนคงมีปัญหาเรื่องเพื่อน แม้กระทั่งตัวผู้เขียนเองก็มีปัญหาเรื่องเพื่อนที่มีเรื่องส่วนตัวของตัวเองเล่าให้ฟัง มันฟังไปก็ดูเหมือนจะดี ที่มีที่ระบาย คอยรับฟังความกดดัน แต่ทำไปทำมามันเหมือนความเกรงใจมันไม่มี เล่าเรื่องเครียด ๆ เรื่องหนัก ๆ คืออยากระบายไม่ใช่ไรหรอก แต่บางทีมันซ้ำแซะมาก จนบางทีก็ไม่อยากฟัง ผู้เขียนก็มีเรื่องเครียด ๆ อยู่ในหัวเป็นทุนอยู่แล้ว ยังไม่วายว่าจะยัดเยียดเรื่องส่วนตัวหนัก ๆ ของตนเองมาระบายอีก ระบายน่ะระบายออกมาได้ แต่ดูท่าทีนิดหนึ่งว่าพร้อมที่จะฟังเรื่องราวที่ปวดขมับได้ไหม
Credit pic : freepik
ในมุมมองของผู้เขียน...บางทีจะพูดตรง ๆ มันก็จะดูเหมือนไม่ถนอมน้ำใจ แต่บางครั้งมันก็ต้องรู้จักเบรกปากตัวเองบ้าง ไม่ใช่ว่าบางเรื่องไม่เข้าใจ เล่าน่ะเล่าได้ แต่เล่าแบบเอาเรื่องซ้ำ ๆ มาลงที่เรานี่ จนบางทีผู้เขียนก็งงเหมือนกันนะว่า ไปโดนตัวไหนมา จะบอกว่าเริ่มรำคาญมันก็จะไม่สุภาพไปโดยปริยาย
Advertisement
Advertisement
เคล็ดลับ "ปรามเพื่อน" ให้เกรงใจเรา
1. ทฤษฎี "เงียบ"
ต้องยอมรับเลยว่าไม่อยากให้ความสัมพันธ์ให้มีปัญหา แต่ก็ควรมีลิมิตบ้างเวลาจะพูดอะไร รับฟังได้แต่ใช่ว่าจะต้องมาลงที่เรา บางทีเราเงียบมันก็เป็นการรักษามารยาทที่ดี ถ้าอยากเล่าเรื่องของตนเองก็เล่ามา ขี้เกียจเถียง อยากพูดอะไรก็พูดมาเลย พูดแล้วสบายใจก็พูดเลย จะได้ไม่ต้องพล่ามให้มันเยอะ พอพูดจบแล้วดูซิว่าจะพล่ามอะไรต่อ
2. คำพูดเบรกแบบนิ่ม ๆ
ต้องบอกเลยว่าคนที่ยัดเยียดแต่เรื่องส่วนตัว หรือไม่คิดแม้แต่จะฟังเหตุผล ก็พร้อมที่จะ Say Bye ได้เหมือนกัน แต่ต้องเกินลิมิตจริง ๆ ถึงจะทำแบบนั้นได้ยกตัวอย่างคำพูดของผู้เขียนที่เคยปรามเพื่อน เช่น "ขอตัวก่อนนะ" "ไปนอนก่อนนะ" "เบา ๆ หน่อย" "เกรงใจหน่อยสิ" "ขออยู่เงียบ ๆ ก่อนได้ไหม แต่ถ้าบางคนที่ผู้เขียนเบรกแรงสุดเลยก็คือ ปิดแจ้งเตือนแชท บล็อกเบอร์โทรไปเลย
Advertisement
Advertisement
Credit pic : freepik
3. ไม้แข็ง แต่ไม่ถึงกับตัด
แน่นอนว่ามีระดับความสนิทที่แตกต่างกันในแต่ละคน แต่ถ้าทำแบบเดิมอีกแล้ว คงต้องงัดไม้แข็ง ยกตัวอย่างเคสของผู้เขียนเอง เคยมีเพื่อนที่เอะอะพูดแต่เรื่องตัวเอง แต่พอพูดบ้างก็ยังเอาเรื่องของตัวเองมาพูดซ้ำแซะอีก จนต้องสอนกันยกใหญ่ สอนชนิดที่ว่าเวลาจะพูดอะไรนึกถึงคนที่ฟังนิดหนึ่งว่าเขาพร้อมที่จะฟังเรื่องหนัก ๆ ได้ไหม ถ้ายังเหมือนเดิมอีกจะไม่คุยด้วยนะ จนเพื่อนหน้าจ๋อยไปพักใหญ่ พักหลัง ๆ ก็คือพูดจาปกติ แต่เกรงใจท่าทีเรามากขึ้น
4. ห่างกันสักพัก
ห่างกันสักพักไม่ใช่แค่ชื่อเพลง แต่ถ้าแบบเหลืออด ก็ห่างกันก่อน อย่างน้อยเห็นแก่ความสัมพันธ์ฉันเพื่อน ดีกว่าเกลียดน้ำหน้าต่อกัน คนที่สนิทกันแล้วต้องมาอยู่ในช่วงหนึ่งที่ต้องห่างกันสักพัก เพราะการที่ยัดเยียดเรื่องส่วนตัวให้คนอื่นทั้งที่ไม่พร้อม มันก็คือจุดชนวนความขัดแย้งดี ๆ แล้วมันจะพามองหน้ากันไม่ติดทั้งที่เป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง ทางที่ดีการห่างกันสักพักก็แปลว่าขอคิดทบทวนก่อน อย่าเพิ่งล้ำเส้นตอนนี้เลย อันนี้วัดเรื่องสิทธิบุคคลด้วย
Advertisement
Advertisement
Credit pic : freepik
นี่เองก็เป็นวิธีเบรกของผู้เขียนจากประสบการณ์จริง สามารถลองนำไปใช้ดูได้นะคะ หากไม่อยากให้ถึงขั้นตัดเพื่อน บางทียิ่งสนิทกันมากเท่าไหร่ ก็ต้องมีความเกรงใจมากเท่านั้น ไม่ใช่ว่าให้พูดระบายกับใครไม่ได้ แต่จะระบายกับใครมันก็ต้องดูท่าทีของผู้รับสารจากเราด้วย แม้แต่จะพูดอะไรก็ตาม ถ้าพูดเพื่อให้เราได้สติ อันนี้ก็ควรจะรับฟังนะ เพราะเขาพูดเพื่อให้เราดีขึ้น แต่ถ้าพูดแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น แถมเอาแต่เรื่องตัวเองใส่ ไม่ฟังเราด้วย เราก็มีสิทธิ์ที่จะเบรกได้เหมือนกัน ว่าเราไม่โอเคในสิ่งที่พูดนะ ไม่โอเคที่เอะอะเอาแต่เรื่องตัวเองฝ่ายเดียว หวังว่าจะช่วยบรรเทาความขัดแย้งได้บ้าง ผู้เขียนต้องขอจบบทความเพียงเท่านี้...สวัสดีจ้า :)
Credit pic : pexels
ความคิดเห็น






