อื่นๆ
รวม ข้อดี VS ข้อเสียของ "อาชีพรปภ." รีวิวจากประสบการณ์ตรง

สวัสดีครับผู้อ่านที่เคารพทุกคน ในเนื้อหานี้เราจะมาแชร์ถึง 10 ข้อดี VS ข้อเสียของ "อาชีพรปภ." มาให้ได้ทราบกันครับ ซึ่งอาชีพนี้ก็ถือเป็นอีก 1 อาชีพที่สุจริต ใสสะอาด แต่ในบางครั้งมันก็ต้องได้เจอกับอุปสรรคมากมาย ความเหน็ดเหนื่อย หรือรวมไปถึงพวกคน Toxic ต่างๆ ถึงแม้ว่ารายได้จะดีมากก็ตามแต่ก็ต้องแลกมาด้วยสิ่งพวกนี้อยู่เสมอ จากประสบตรงของเราที่เคยทำงานทางด้านนี้มาตลอด 1 ปีเต็ม เราเองก็ได้เห็นถึงอะไรหลายๆ อย่างจากอาชีพนี้อยู่พอสมควร มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ผสมปะปนกันไป เดี๋ยวเราจะมาบอกให้ว่าอาชีพรปภ. ที่เราเคยทำและเคยเจอมานั้นมันมีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง ไปอ่านกันได้เลยครับ
ก่อนที่เราจะไปเข้าสู่เนื้อหากันนั้น ต้องขอบอกก่อนว่าเราจะแบ่งเป็นข้อดี 5 ข้อและข้อเสียอีก 5 ข้อ รวมกันเป็น 10 ข้อ เพื่อให้มีความเท่าเทียมกัน ดังนั้นอย่าเพิ่งสับสนกันนะ ถ้าพร้อมกันแล้วเริ่ม...
Advertisement
Advertisement
คำเตือน : เนื้อหานี้เป็นเพียงการรีวิวจากความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาเหมารวมหรือพาดพิงใครแต่อย่างใดทั้งสิ้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ตรงแก่เหล่าผู้อ่าน หากผิดพลาดแต่ประการใดทางผู้เขียนก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
- เรามาเริ่มกันที่ข้อดีของ "อาชีพรปภ." กันก่อนเลยครับ ซึ่งก็จะมี 5 ข้อดังนี้
1. ไม่ต้องออกไปกลางแจ้ง
อาชีพรปภ. นี้แน่นอนว่าต้องประจำอยู่ที่ป้อมเป็นหลักอยู่แล้ว แทบจะไม่ต้องออกไปอยู่กลางแจ้งเลยแต่อย่างใด ยกเว้นก็แต่ออกไปตรวจบริเวณพื้นที่บ้าง หรือออกไปช่วยเขาแบ่งเบาภาระบ้างเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้มาขอความช่วยเหลือจากเรา หน้าที่เราแทบจะไม่มีอะไรมากเพียงแค่คอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ที่ป้อมตลอด ใครผ่านเข้าออกก็ต้องดูให้รอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานหรือบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อก็ตาม
Advertisement
Advertisement
2. มีเงินเดือนที่มากขึ้น
ในส่วนนี้มันก็แล้วแต่ว่าบางที่หน้างานมันจะหนักหรือเบา แต่โดยส่วนตัวเราได้ประมาณวันละ 380 บาท บวกกับเบี้ยขยันอีก 500 บาทต่อเดือน โดยรวมก็ประมาณ 12,000 บาทต่อเดือน ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ปานกลางสำหรับเรา ไม่เยอะและไม่น้อยจนเกินไป นั่นก็เป็นเพราะว่าหน้างานที่เราเจอมันไม่ได้หนักหนาอะไรมากมายนัก ถ้าทำมากก็ได้มากถ้าทำน้อยก็ได้น้อยอยู่ที่ความขยันของแต่ละคน
3. มีอิสระส่วนตัว
ช่วงที่ไม่ค่อยมีงานอะไรเราก็จะมีความเป็นอิสระส่วนตัว ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ใครหลายๆ คนต้องการ พนักงานแผนกอื่นๆ เขายังไม่มีอิสระแบบเราเลย เขาต้องอยู่ที่หน้างานตลอด ต้องอยู่ในสายตาของหน้าเจ้านายทุกครั้ง จะไปไหนหรือทำอะไรต้องอยู่ในกฎอย่าได้ขาด แต่เรานี่คือสามารถกินข้าวตอนไหนก็ได้ จะออกไปซื้อของข้างนอกยังได้ บอกเลยว่าเราอิสระสุดแล้ว แต่ก็ต้องคอยระวังเจ้านายอยู่เสมอ ถ้าเขามาเห็นว่าเราสบายไม่งั้นเราจะลำบากได้
Advertisement
Advertisement
4. ไม่ค่อยมีใครมายุ่ง
ในแต่ละครั้งที่เรากำลังประจำอยู่ที่ป้อมก็ไม่มีใครมายุ่งวุ่นวายอะไรกับเราอยู่แล้ว เราก็ทำหน้าที่ของเรา เขาก็ทำหน้าที่ของเขา ทุกคนต่างก็มีภาระหน้าที่เป็นของตัวเองด้วยกันทั้งสิ้น เว้นก็แต่เขามีเรื่องจำเป็นที่ต้องมาขอความช่วยเหลือจากเราจริงๆ ในบางเรื่องก็เท่านั้น ต้องตามตรงเลยว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ไม่มีคนมายุ่งกับเราแล้วมันจะเป็นอะไรที่ปลอดโปร่งโล่งใจเอามากๆ
5. เหนื่อยน้อยที่สุด
เราเห็นพนักงานในโรงงานหรือในออฟฟิศเขาตั้งหน้าตั้งตากันทำงานกันอย่างเหน็ดเหนื่อย มือเป็นระวิง แทบจะไม่ได้พัก ส่วนรปภ. อย่างเราก็ทำได้แค่อยู่เฉยๆ คอยเฝ้าสังเกตการณ์ที่ป้อม อาจจะเหนื่อยแค่ตอนช่วงออกเดินตรวจบริเวณพื้นที่หรือช่วยงานเขานิดๆ หน่อยๆ ซึ่งโดยรวมคืออาชีพเราเหนื่อยน้อยสุดแล้ว
- ทีนี้เราก็มาดูข้อเสียของ "อาชีพรปภ." กันบ้างครับ ซึ่งก็จะมี 5 ข้อดังนี้
1. ถูกตำหนิค่อนข้างบ่อย
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เล็กน้อยหรือลามไปถึงเรื่องใหญ่ ถ้าหากทำอะไรแล้วไม่ถูกใจใครก็ต้องมีถูกตำหนิบ้าง ที่เราเจอส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของพนักงาน บางคนก็หัวดื้อหัวรั้น ไม่ยอมให้ความร่วมมือ หรือรวมไปถึงบุคคลภายนอก ถ้าเราปล่อยให้เขาเข้าไปโดยที่ไม่มีการขออนุญาตก็มีสิทธิ์โดนตำหนิได้เช่นกัน เราอยู่ที่ป้อมด้านหน้าโรงงานแน่นอนว่าเขาจะต้องผ่านเราก่อนเสมออยู่แล้ว มันก็ไม่แปลกที่จะต้องเจอกับคำตำหนิเหล่านั้น
2. แทบจะไม่มีวันหยุด
การเป็นรปภ. จากประสบการณ์ตรงของเราแล้วคือแทบจะมีวันหยุดน้อยมากหรือไม่ก็แทบจะไม่ได้หยุดเลย แม้กระทั่งในวันหยุดหรือวันสำคัญต่างๆ ก็ยังต้องมาทำงาน คนอื่นหยุดหมดแต่เราไม่หยุด จะลาหยุดได้ก็ต่อเมื่อจำเป็นต้องหยุดจริงๆ เท่านั้น ทุกๆ วันต้องมาให้ถึงที่ทำงานตอน 8.00 - 20.00 น. ถ้าเป็นกะเช้าอ่ะนะ ส่วนกะดึกจะเข้า 20.00 - 8.00 น. มาทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้เขา รับผิดชอบผู้อื่นมากขึ้น เสียสละเรื่องส่วนตัวเพื่อประโยชน์ส่วนรวมได้ ในบางครั้งเมื่อไหร่ที่เพื่อนร่วมงานขอลาหยุดเราก็ต้องมาอยู่แทนเขา แทบไม่ได้กลับบ้านพักผ่อน นี่แหละชีวิตการเป็นรปภ.
3. ต้องอดหลับอดนอน
เราในฐานะที่เป็นรปภ. ก็ต้องมีอดหลับอดนอนเป็นประจำเพราะว่าต้องคอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่เช้ายันดึก เมื่อมีเหตุฉุกเฉินเราจะได้รู้ทันแล้วเก็บหลักฐานเพื่อแจ้งไปยังเจ้านายได้ หรือไม่ถ้าหากไม่มีเรื่องอะไรเราก็อาจจะงีบหลับอยู่ที่ป้อมได้ ไม่มีใครว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องอยู่ในหน้าที่เสมอ การจะแอบหลับไม่ก็ไม่ถูกต้อง ร่างกายบางครั้งก็แทบจะได้พักแค่แป๊บเดียวหรือไม่ได้พักเลย ถึงจะทรมานหน่อยแต่ก็เพื่อเงิน เพื่อชีวิตที่อยู่รอดเราถึงต้องอดทนให้ได้
4. เจอพวกคน Toxic
ในแต่ละครั้งในการทำงานเป็นรปภ. ของเรา มันก็ต้องมีบ้างที่จะต้องได้เจอกับพวกคน Toxic ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชอบแซวบ้าง หัวร้อนชอบใช้อารมณ์ เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาลก็มี ทำเมินไม่สนใจราวกับว่าเราไม่มีตัวตนก็มี แต่การดูถูกสำหรับเรานี่ยังไม่เคยเจอนะเพราะว่าทุกคนต่างก็มีจิตสำนึก เมื่อเราต้องมาเจอกับคนประเภทนี้แล้วเราก็จะรับมือโดยการไม่ไปตอบโต้กับคนพวกนั้นแล้วตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป
5. เหนื่อยใจมากขึ้น
ทุกๆ การทำงานก็ย่อมมีทั้งความเหนื่อยกายและเหนื่อยใจบ้างเป็นเรื่องที่ปกติ แน่นอนว่าอาชีพรปภ. เองก็เช่นเดียวกัน สำหรับเราแล้วมันก็มีเรื่องที่น่าเหนื่อยใจและหนักใจอยู่พอสมควร สาเหตุส่วนใหญ่ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องความดื้อของพนักงาน เราพูดหรือตักเตือนอะไรไปก็ไม่ยอมฟัง ไม่ให้ความร่วมมือ และไหนจะต้องมาเจอกับปัญหาต่างๆ ภายในโรงงานเช่นทรัพย์สินในโรงงานเสียหาย พนักงานแอบเอาอาหารเข้าไปข้างใน เป็นต้น ถึงจะเหนื่อยใจมากแค่ไหนแต่โดยร่วมคือเราต้องอดทน ยังไงสักวันมันจะต้องผ่านไปได้ ซึ่งเราก็เชื่อแบบนี้มาตลอด
จากประสบการณ์โดยรวมตลอด 1 ปีที่ทำอาชีพรปภ. สำหรับเราแล้วก็ได้อะไรหลายๆ อย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเรื่องระเบียบวินัย การตรงต่อเวลา การได้รู้และได้เห็นว่านิสัยของแต่ละคนเป็นแบบไหนบ้าง ขั้นตอนในการทำงานจริงๆ ได้เรียนรู้ถึงความยากลำบาก รวมไปถึงอุปสรรคต่างๆ และอีกมากมายเป็นต้น ไม่มีงานไหนที่สบายเสมอไป ทุกงานอย่าว่าแต่รปภ. มันก็ต้องเหนื่อยเหมือนกันหมด กว่าจะได้เงินมาแต่ละบาทก็ต้องใช้หยาดเหงื่อแรงกายแลกมันมาทั้งนั้น มีข้อดีได้มันก็ต้องมีข้อเสียได้เช่นกัน เราเองก็ต้องทำใจยอมรับไปกับมันให้ได้ แล้วเราจะชื่อว่าเป็นคนที่อยู่เป็น ที่สำคัญคือให้คิดเสียว่าเป็นอาชีพที่สุจริต ไม่มีสูงหรือต่ำแต่อย่างใด ทุกอาชีพล้วนเท่าเทียมกันเสมอ เพื่อที่เราจะได้ทำงานอย่างราบรื่นขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าใครจะพูดไม่ดีใส่เรา
ต้องขอย้ำอีกครั้งว่าเนื้อหาทั้งหมดที่เราได้นำเสนอไปเป็นเพียงการรีวิวจากความคิดเห็นส่วนตัวของตัวเราเองเท่านั้น ไม่ได้เป็นการพาดพิงถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งทั้งสิ้น สุดท้ายนี้ในฐานะที่เราเองก็เคยทำงานเป็นรปภ. มาก่อนก็อยากจะให้กำลังใจกับรปภ. ทุกคนด้วย ถึงแม้ว่าจะต้องเจอกับอะไรหลายๆ อย่าง มีสุขมีทุกข์ มีข้อดีและข้อเสียปะปนกันไป ยังไงก็ขอให้พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด อะไรที่ดีก็นำไปพัฒนาต่อไป ส่วนอะไรที่ไม่ได้ก็นำไปเป็นบทเรียนเพื่อปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้น สู้ๆ เป็นกำลังใจให้ ขอให้ผ่านความลำบากไปให้ได้ครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง : อาชีพรปภ. ต้องเจอกับเรื่องอะไรบ้าง ? แชร์ประสบการณ์การเป็นรปภ. ตลอด 1 ปีเต็ม
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ
เครดิตรูปภาพประกอบจากเว็บไซต์ : Freepik.com

กำลังใจสำหรับผมนั่นคือแรง Support จากทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านบทความของผม ฝากนักเขียนคนนี้ด้วยนะครับ
ความคิดเห็น
