อื่นๆ

รีวิวเกมสยองขวัญ " The Night of the Scissors " ฆาตกรกรรไกรกระชากวิญญาณ

5.6k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
รีวิวเกมสยองขวัญ " The Night of the Scissors " ฆาตกรกรรไกรกระชากวิญญาณ

ใครคิดถึงกลิ่นอายของหนังสยองขวัญไล่เชือดยุค  80 - 90  น่าจะชอบเกมที่ผมหยิบมารีวิวในวันนี้กับเกมที่มีชื่อว่า “ The Night of the Scissors ”  ผลงานเกมอินดี้สยองขวัญที่จะให้เรารับบทเป็นเหยื่อที่ถูกไล่ล่าโดยฆาตกรต่อเนื่อง ถือเป็นอีกหนึ่งเกมสยองขวัญที่น่าสนใจ

ทางผู้พัฒนาก็ได้รับไอเดียมาจากหนัง VHS Slasher และใช้งานกราฟิกพิกเซลสไตล์เกมในอดีตที่เด็กหนวดคุ้นเคย แต่ต้องขอบอกก่อนว่าเกมนี้ไม่ใช่เกมฟรี แต่ราคาก็ไม่ได้แพงมากอยู่ที่ราวๆ $2.99 หรือประมาณ 106 บาทไทย เพราะฉะนั้นก่อนจะเสียเงินผมจะมารีวิวให้ฟังถึงความรู้สึกส่วนตัวหลังจากเล่นเกมนี้จบ

เนื้อเรื่อง

เรารับบทเป็นชายหนุ่มนามว่า “ อดัม ” ที่เดินทางไปยังที่ทำการไปรษณีย์ร้างกับเพื่อนคู่หู เป้าหมายคือเข้าไปสำรวจด้านในเพื่อตามหาว่าด้านในมีอะไรซ่อนอยู่ หรือสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้บ้าง  แต่ทว่าทันทีที่เราก้าวเท้าเข้าไป ทางออกทุกทางก็ถูกปิดตายจนไม่สามารถหาทางออกได้ นั่นเป็นเพราะตอนนี้เราได้เข้ามาอยู่ในบ้านของฆาตกรโรคจิตที่ใช้กรรไกรเป็นอาวุธ เราจึงกลายเป็นผู้ถูกล่าที่ต้องหาทางเอาชีวิตรอดให้ได้ !!

Advertisement

Advertisement

imageเสน่ห์ของเกมนี้คืองานภาพแบบพิกเซลอาร์ตผสม VHS ที่ทำฉากและโมเดลตัวละครมาได้สวยน่าจดจำ ส่วนรูปแบบเกมเพลย์ที่น่ากลัวในมุมมองของผู้เล่นครับ เพราะผู้พัฒนาเลือกใช้มุมกล้องแบบกล้องวงจรปิดแบบเกม Resident Evil ภาคคลาสสิกใช้

ซึ่งเราจะมองไม่เห็นว่าในห้องหรือทางข้างหน้ามีอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า แถมด้วยความที่มุมกล้องแบบปิดทำให้การหนีค่อนข้างลุ้นระทึก ( ต่างจากมุมมองบุคคลที่หนึ่งที่เราเป็นอิสระมากกว่า )

imageตัวเกมเล่นได้ราว 40 นาทีเป็นอย่างน้อย ตลอดทางเต็มไปด้วยความสนุกเนื่องจากมีอีเวนต์ให้ผู้เล่นทำตลอดเวลา โดยส่วนมากจะเน้นไปที่การแก้ไขปริศนาและตามหาไอเทมมาใช้งานสำหรับหาทางไปต่อ อีกหนึ่งระบบที่ขาดไม่ได้คือการหลบซ่อนเวลาโดนไล่

ซึ่งมันลุ้นระทึกจนทำให้ผมขนลุกได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะระบบ AI ของศัตรูค่อนข้างฉลาดเกินกว่าที่คิด  ด้วยความที่องค์ประกอบทุกอย่างสมเหตุสมผลทำให้คุณภาพของตัวเกมคุ้นค้าทุกวินาทีที่ผมได้เล่น

Advertisement

Advertisement

imageแต่ตัวเกมอาจไม่ได้เหมาะกับผู้เล่นวงกว้างเนื่องจากมุมกล้องแบบวงจรปิดค่อนข้างเล่นยาก หลายคนรู้สึกขัดใจเพราะความไม่เคยชิน เพราะเกมยุคนี้ส่วนมากจะเน้นไปที่มุมมองด้านข้างหรือมุมมองบุคคลที่หนึ่ง เพราะฉะนั้นผมก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้ เพราะตัวเกมก็ไม่ได้เปิดให้เล่นฟรี หากใครสนใจก็ลองพิจารณ์ดูอีกทีก็แล้วกันครับ แต่ส่วนตัวผมแนะนำให้ลองหามาเล่นดูสักครั้ง โดยเฉพาะหากคุณคิดถึงกลิ่นอายของหนังสยองขวัญไล่เชือดยุค 80 - 90


image** แหล่งที่มา **

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์