รีวิว Thank You Teacher (Part 2) บทสรุปของเรือจ้างลำน้อย การเมืองในโรงเรียน และอนาคตของลูกศิษย์

หลังจากที่ Thank You Teacher (Part1 ตอนที่1-7) ซีรีส์สะท้อนอาชีพครูและการศึกษาไทยแบบจึ้งมาก แถมออกอากาศต้อนรับเดือนของวันครูด้วย ผู้เขียนดูแล้วอารมณ์ค้างนะคะ เพราะซีรีส์ตัดจบได้ดีและทิ้งปมต่าง ๆ ไว้อย่างน่าสนใจชวนให้ติดตามต่อ 

และการรอคอยก็สิ้นสุดลง 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทาง TrueID ได้ลง Streaming Part 2 ตอนที่ 8 -  16 จบบริบูรณ์ นับเป็นปรากฏการณครั้งแรกของผู้เขียน ที่ได้เห็นวงการซีรีส์ไทยแบ่งตอนออกเป็น 2 Part และทิ้งระยะออกอากาศห่างกันถึง 1 เดือน

วันนี้อู๊ดสีชมพู อยากชวนผู้อ่านทุกท่านมาล้อมวงดูซีรีส์เรื่องนี้และอ่านบทความนี้ไปด้วยกันนะคะ 

---

ปรับพื้นฐานก่อนชม Part 2  

เรื่องย่อแบบสั้น ๆ ของ Part 1

ครูโกะ หรือ กนกพร (เฌอปราง อารีย์กุล) ครูอัตราจ้างสอนวิชาภาษาไทยคนใหม่ของโรงเรียนผาธรรม เธอมีอุดมการณ์แรงกล้า ไฟแรง ต้องการสานต่อเจตนารมณ์ของครูชัยชนะ (วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล) ครูผู้เสียสละแม้กระทั่งชีวิตเพื่อช่วยเหลือลูกศิษย์ การเข้ามาเป็นครูใหม่นั้นไม่ง่ายเธอต้องรับมือกับปัญหาและอุปสรรคมากมายอาทิ การเมืองในโรงเรียน การปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ น้องใหม่ที่โดนครูรุ่นพี่กดหัวและเคลมผลงาน โดนตราหน้าว่าเป็นเด็กเส้น รวมทั้งงานที่นอกเหนือจากการสอน แต่เธอก็ไม่หวั่นเดินหน้าสู้ชีวิตและพัฒนาตัวเองเพื่อให้มีศักยภาพในการพาลูกศิษย์ไปสู่อนาคตที่ดี

ตัวละครหลักในเรื่อง

เริ่มกันที่ เฌอปราง อารีย์กุล ในบท "กนกพร" หรือ "ครูโกะ" ครูอัตราจ้างสอนวิชาภาษาไทยคนใหม่ของผาธรรม เปิดเทอมสอง เธอสตรองและเติบโตขึ้นมาก แข็งแกร่งสุด ๆ จากเทอมหนึ่งที่ยังดูโบ๊ะบ๊ะ ยังไม่เข้าที่เข้าทาง เทอมนี้เธอได้แสดงศักยภาพเยอะมาก ผลงานแน่น ๆ หัวครีเอทีฟขั้นสุด แต่ตำแหน่งที่ยังคงอยู่กับครูโกะก็คือนางแบก แบกหลังแอ่นเหมือนเดิม แต่เธอก็ยังสู้เพราะท้ายที่สุดผลประโยชน์อันสูงสุดจะเกิดแก่นักเรียน

บทนี้เราชอบที่สุดในซีรีส์เรื่องนี้เลย ดูแล้วเอาใจช่วยให้เธอหลุดพ้นจากการเมืองในโรงเรียน เธอเป็นคนมีของแต่อยู่ผิดที่ 

เฌอปรางถ่ายทอดบทนี้ได้ดี ดูเป็นครูรุ่นใหม่ ที่เข้าใจเด็ก ๆ และพร้อมปลดแอกจากการศึกษาแบบเก่า ๆ นักสู้สุด ๆ เล่นได้น่าเอ็นดู มีมุมน่าเอาใจช่วย

เอ็มดี ณัฐพงศ์ รับบท "ครูธาวิน" ครูสอนภาษาไทยและครูฝ่ายแนะแนวในผาธรรม พ่วงอีก 1 ตำแหน่งคือครูสอนภาษาไทยออนไลน์ ออกแนวอินฟลูเอนเซอร์ท่านหนึ่ง Part 2 เราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครนี้มากขึ้น นอกจากแค่ในมุมของสายซัพพอร์ตหรือไอต้าวไมโครเวฟ มาในเทอม 2 ครูธาวินเริ่มได้รับผลกระทบจากการเมืองในโรงเรียน ทำให้เราได้เห็นความคิด ทัศนคติและการต่อสู้ของเขากับการเมืองแบบเก่าจากทีมผู้บริหารสูงวัยที่ลุแก่อำนาจ 

อาร์ต ศิลป์ รับบท "ครูพล" ครูสอนวิชาชีวะ และครูทีมแนะแนว สายซัพพอร์ตที่ดีของครูโกะ บทนี้ยังน่ารัก ตลก ฮา และเป็นที่ปรึกษาที่ดีของครูโกะอยู่เสมอ

เปิ้ล หัทยา รับบท "ครูรับขวัญ" หัวหน้าฝ่ายแนะแนว ตำนานนางแบกและสายลุยในผาธรรม เธอกล้าท้าชนกับการเมืองในโรงเรียน สู้ไปสอนไป มาเทอมนี้เธอเริ่มปล่อยวางและรู้ว่าควรให้ความสำคัญกับคนในครอบครัวบ้าง มัวแต่ใส่ใจลูกคนอื่นจนละเลยลูกตัวเอง ทำให้เธอตัดสินใจปรับการทำงานและการใช้ชีวิตให้สมดุลกัน

สิงห์ วรรณสิงห์ รับบท "ครูชัยชนะ" ครูอัตราจ้างสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ผู้เป็นต้นแบบ เป็นแรงผลักดัน และหล่อหลอมครูโกะมาตั้งแต่เธอยังเป็นนักเรียน ครูชัยคือตัวแทนของนายแบก ที่แบกภาระต่าง ๆ ในโรงเรียนไว้กับตัวมากจนเกินไป ทำดีจนตาย แต่สุดท้ายได้แค่เงินใส่ซอง เพียงเพราะว่าเขาไม่ใช่ครูบรรจุ

แพท รัณนภันต์ รับบท "ครูโสภี/ครูวรวรรณ" เธอเคยเป็นครูอัตราจ้างสอนภาษาไทยที่ผาธรรม สอนเก่ง มีความสามารถผลงานดี แต่ผู้ใหญ่ไม่เอา ฟิลคนที่ไม่ใช่ ทำให้เธอทั้งเสียใจและแค้นใจ รวมถึงเข้าใจผิดครูธาวินด้วยว่าเป็นเพราะเขาเธอจึงเป็นผู้ถูกเลือกให้ผิดหวัง กลับมาครั้งนี้เธอคือครูวรวรรณ เปลี่ยนชื่อใหม่ รวมถึงมีตำแหน่งใหญ่ในมหาวิทยาลัยชั้นนำ ครั้งนี้เธออยู่เหนือกว่าบรรดาผู้บริหารของผาธรรม และพวกเขาต้องง้อเธอ อย่าพึ่งตายฉันพึ่งเริ่ม เอาจริงเราพึ่งเคยดูการแสดงของแพท ปกติฟังแต่เพลง ถือว่าทำได้ดีค่ะฟาดมาก โหดสุด ตึงมาก เอาตรง ๆ ว้าวกับแคสติ้งบทนี้นะ

มิ้น มิณฑิตา รับบท "ครูภาวิณี" ครูหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย Part 1 ที่เราดูตอนแรกหมั่นไส้ตัวละครนี้มาก มีความชวนมองบน เบ้ปากเบา ๆ แต่ก็สร้างสีสันดีค่ะ มาเทอมทำให้เราได้เห็นมุมความเป็นผู้นำ ความมีเหตุและผล เราเกือบจะหลงกลตัวละครนี้แล้ว แต่สุดท้ายนางก็ยังไม่ทิ้งนิสัยนางเคลมผลงานคนอื่นอยู่ดี มิ้นเล่นดีมาก ทำให้บทนี้ขโมยซีนได้ ไม่จมไม่หาย 

ตั้ว เสฏฐวุฒิ รับบท "ครูโย่ง" ครูอัตราจ้างสอนวิชาภาษาไทย ที่ทางผู้บริหารทำให้เขาและครูโกะต้องกลายมาเป็นคู่แข่งกัน บทนี้สำหรับเราคือตัวละครสีเทาที่สุดในเรื่องนี้แล้ว การเลือกตั้วมารับบทนี้คือเข้ากับบทมาก เพราะดูภายนอกตัวละครนี้จะนิ่ง ๆ เดาอารมณ์ได้ยาก เวลาแสดงมุมร้าย ๆ ก็เล่นได้แบบที่ต้องร้ายก็เพราะมีเหตุผล 

ฮูพ ปาฏลี รับบท "นิชา" นักเรียนชั้นม.6 ห้องกิฟต์ที่มีความฝันอยากเข้าแพทย์จุฬา อุปสรรคสำคัญของเธอคือ ฐานะทางบ้าน แต่เธอก็สู้ชีวิตรับจ๊อบพิเศษเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายและทำตามความฝัน ช่วงแรกเป็นคู่กัดกับเต้เพราะอคติที่เธอมีต่อคนรวย

โทนี่ อันโทนี่ รับบท "เต้" นักเรียนห้องกิฟต์ อยากติดแพทย์จุฬาเช่นกัน บ้านมีฐานะ แต่โดนพ่อกดหนักและจับตาดูทุกฝีก้าว เรียกว่าบงการเลยก็ว่าได้ เป็นคู่กัดกับนิชา เพราะเขาคิดว่านิชาเอาความจนมาเอาเปรียบผู้อื่น

นิว ชัยภัค รับบท "ดิน" นักเรียนห้องม.6/3 มีพรสวรรค์และความสามารถด้านศิลปะที่เป็นเลิศ แต่ด้านวิชาการไม่ถนัด บวกกับบุคลิกภายนอกของเขาที่บางคนชอบตัดสินว่าหัวรุนแรง แต่ลึก ๆ แล้วเป็นเด็กที่ชัดเจนในเป้าหมายของตัวเองคือต้องการเป็นศิลปิน และต้องการหลุดจากกรอบการศึกษาที่ให้คุณค่าแค่เด็กที่เรียนดี เข้าแพทย์หรือมอดัง ๆ จนละเลยความสามารถของเด็กคนอื่นที่ไม่ถนัดด้านวิชาการ

และ กูเกิ้ล ทักษ์ รับบท "กองทุน" นักเรียนห้องม.6/3 เป็นเพื่อนกับดิน เรียนดีแต่ไม่สามารถสอบเข้าห้องกิฟต์ได้ เพียงเพราะว่าขาดไปไม่กี่คะแนน และโควตานักเรียนเต็มแล้ว ทำให้เขาหันมาตั้งใจเรียนมากขึ้นและเริ่มตั้งแง่ชิงชังเด็กห้องกิฟต์รวมถึงบรรดาผู้บริหารที่แบ่งแยกเด็กและลำเอียงอย่างออกหน้าออกตา

ประเด็นที่น่าสนใจใน Part 2

• เกมการเมืองจากบรรดาผู้บริหารในโรงเรียนที่ส่งผลกระทบมายังครูและนักเรียน นักเรียนและครูต่างตกอยูสถานะของหมากตัวหนึ่ง แต่หมากตัวนี้ดันมีชีวิตและจิตใจ 
• การตีแผ่อาชีพครูที่ถึงรากถึงโคน เราจะได้รู้ว่่าเป็นครูไม่ใช่ง่าย ๆ ภาระรับผิดชอบเยอะมาก บทในส่วนนี้ถือว่าทำได้ดี 
• ชีวิตช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของนักเรียนไทย่ผ่านการสอบเข้ามหาวิทยาลัย บทในส่วนนี้ดึงความคิดของผู้เขียนให้กลับไปนึกถึงตอนตัวเองเลยค่ะ อินมากๆ บทเขียนได้เรียลดี
• วิธีจัดการเรียนการสอนของครูโกะ หลายอันแปลกใหม่ น่าสนใจและว้าวมาก ทำไมตอนเราเรียนไม่มีแบบนี้บ้าง ผู้เขียนคิดว่าหลักสูตรอะไรก็ตามความจะมีมุมให้เด็กผ่อนคลายบ้างอย่าตึงเครียดจนเกินไป
• การมีคนซัพพอร์ตที่ดีนับเป็นลาภอันประเสริฐ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว หรือ อื่น ๆ ในวันล้มหรืออ่อนแอขอแค่มีหนึ่งมือที่ยื่นเข้ามา ผู้เขียนเชื่อว่าหลายท่านต้องมีกำลังใจสู้ต่อไปแน่นอนค่ะ
• การก้าวออกจากเซฟโซนเพื่ออิสระและให้โอกาสตัวเองได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ส่วนนี้มีทั้งมุมของครูและนักเรียนเราดูแล้วทัชใจมากค่ะ

ภาพรวมของซีรีส์เรื่องนี้

• บทโทรทัศน์ทำได้ดี ทีมเขียนบททำการบ้านมาได้ดี บทพูดเป็นธรรมชาติ สถานการณ์ต่าง ๆ ดูจริง เหมือนดูชีวิตเรา ๆ ท่าน ๆ 
• การกำกับและการแสดง งานภาพโอเค แต่โดยส่วนตัวเราว่าบางฉากฟุ้งไปนิด ฉากต่าง ๆ ที่เลือกมาสวยงาม ชอบฉากทะเลเป็นพิเศษดูผ่อนคลายดี และฉากร้านก๋วยเตี๋ยวของน้าสุภา ดูเป็นเซฟโซนที่ดีและชวนปล่อยใจฝันมาก ๆ
• การดำเนินเรื่อง มีฉากอารมณ์หนักเบาสลับกันไปมา ใครที่คิดว่าด้วยแนวของเรื่องต้องเครียดแน่เลย ใช่ค่ะ แต่มุมเพลิน ๆ สบาย ๆ ก็มี ดูเรื่องนี้แล้วครบทุกอารมณ์ค่ะ
• ฉากปะทะคารมต่าง ๆ กำกับได้ดี ดูมาคุมาก ๆ ส่วนตัวชอบฉาก กองทุนดีเบตกับรองมงคล และฉากที่กองทุนเดินมาที่โถงของโรงเรียนโดยมีเพื่อน ๆ ปรบมือ ร้องเพลงให้กำลังกับอุดมการณ์อันแรงกล้าของเขา
• ทีมนักแสดงที่คัดมาดีและหลากหลายมาก คอสตูมก็ดีส่งเสริมตัวละครนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี ได้เรฟใส่ไปทำงานหลายชุดเลยค่ะ55

ให้คะแนนภาพรวมของซีรีส์เรื่องนี้ 10/10 นะคะ

---

เครดิต

ภาพหน้าปก ออกแบบโดย canva

ภาพประกอบหน้าปก trueid_th : ภาพที่ 1

ภาพประกอบเนื้อหา 

truecjcreations : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 - 8 / ภาพที่ 9 / ภาพที่ 10 - 13 / ภาพที่ 14

ลิงก์คลิปวิดีโอประกอบเนื้อหา TrueID : คลิปที่ 1 / คลิปที่ 2

เกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !