รีเซต

อื่นๆ

รู้จักกับ e:HEV เทคโนโลยี Hybrid ยุคใหม่จาก Honda

3.2k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
รู้จักกับ e:HEV เทคโนโลยี Hybrid ยุคใหม่จาก Honda

หลังจากที่ปล่อยให้เจ้าตลาดอย่าง Toyota ครองตลาดรถยนต์ในกลุ่ม Subcompact Crossover หรือที่เราคุ้นหูกันในชื่อ B-SUV ด้วย Toyota Corolla Cross มาเป็นเวลานับปี ค่ายรถยนต์คู่แข่งร่วมชาติอย่าง Honda ก็ไม่น้อยหน้า เตรียมส่ง All-New Honda HR-V เข้ามาชิงส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ในกลุ่มนี้ โดยมีการคาดการเอาไว้ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ HR-V โฉมใหม่ที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยนั้น จะมากับพร้อมขุมพลัง e:HEV ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนแบบ Full-Hybrid จาก Honda ซึ่งเป็นระบบเดียวกันกับ Honda City e:HEV, Honda City Hatchback e:HEV และ Honda Accord e:HEV ซึ่งกำลังทำตลาดในประเทศไทย ณ ตอนนี้ ทางผู้เขียนจึงอยากพาคุณไปรู้จักกับเจ้าขุมพลัง e:HEV นี้กันมากขึ้น ว่ามีที่มาที่ไปยังไง และมีความแตกต่างจากระบบ Hybrid ของค่ายอื่นอย่างไรบ้าง

Advertisement

Advertisement

็้็All-New Honda HR-V ซึ่งมาพร้อมกับขุมพลัง e:HEV

รูปภาพจาก Honda Japan

ย้อนไปเมื่อปี 2009 ทาง Toyota Motor ประเทศไทย ได้เปิดตัว Toyota Camry Hybrid ก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการนำรถยนต์ Hybrid เข้ามาผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย และหลังจากนั้น ก็มีรถยนต์ Hybrid อีกหลายรุ่น จากค่ายรถยนต์หลายค่าย ถูกนำเข้ามาผลิตและจำหน่ายในประเทศ ซึ่ง ณ ตอนนี้ ค่ายรถยนต์ที่ยังคงผลิตและจำหน่ายรถยนต์ Hybrid ในไทย (ไม่นับรวม Plug-in Hybrid) ก็จะมี Toyota, Honda, และ NissanToyota Camry Hybrid รหัสตัวถัง ACV40 เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2009

ระบบ Hybrid ของ Toyota นั้น มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำงานที่ความเร็วต่ำ เมื่อมีการเร่งความเร็วขึ้น เครื่องยนต์จะติดขึ้นมาเพื่อผสานพลังกับมอเตอร์ไฟฟ้า (ผ่านชุดเฟืองดาวเคราะห์) เพื่อเร่งความเร็ว เมื่อรถวิ่งที่ความเร็วสูง เครื่องยนต์จะทำงานเป็นหลัก ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าจะติดขึ้นในบางจังหวะที่มีการเร่งแซง และเมื่อผู้ขับลดความเร็วหรือถอนคันเร่ง พลังงานจลน์ที่ล้อก็จะถูกแปลงกลับไปเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อนำไปชาร์จกลับเข้าแบตเตอรี่

Advertisement

Advertisement

แผนผังการทำงานของระบบ Hybrid ของ Toyotaรูปภาพจาก TOYOTA

ส่วนระบบ Hybrid ของ Nissan (ที่เรารู้จักกันในชื่อ E-POWER) เป็นระบบ Hybrid แบบอนุกรม (Series Hybrid) ซึ่งมีหลักการทำงานโดยทั่วไปคือ เครื่องยนต์จะเป็นตัวผลิตกระแสไฟฟ้าเข้าไปเก็บในแบตเตอรี่ แล้วจึงนำพลังงานไฟฟ้าในแบตเตอรี่มาขับเคลื่อนล้อ และเมื่อผู้ขับลดความเร็วหรือถอนคันเร่ง พลังงานจลน์ที่ล้อก็จะถูกแปลงกลับไปเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อนำไปชาร์จกลับเข้าแบตเตอรี่เช่นกัน
แผนผังการทำงานของระบบ E-POWER ของ Nissan

รูปภาพจาก NISSAN

ในส่วนระบบ Hybrid ของ Honda หรือ e:HEV นั้น จะมีบางส่วนที่คล้ายคลึงกับระบบ E-Power ของ Nissan แต่จะแตกต่างกับระบบ Hybrid ของ Toyota อย่างสิ้นเชิง

Honda Sport Hybrid i-MMDรูปภาพจาก Honda Thailand

ระบบ e:HEV ของ Honda นั้น มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Sport Hybrid intelligent Multi-Mode Drive (Sport Hybrid i-MMD) โดยมีส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่ มอเตอร์ไฟฟ้า, เจนเนอเรเตอร์, เครื่องยนต์เบนซินแบตเตอรี่ (Li-ion), ชุด lock-up clutch, และ PCU (Power Control Unit) ซึ่งระบบ e:HEV นั้น จะสามารถแบ่งการทำงานได้เป็น 3 โหมด คือ EV drive, Hybrid drive, และ Engine drive

Advertisement

Advertisement

โหมด EV drive

โหมด EV driveในโหมดนี้ มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่หมุนล้อ โดยอาศัยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว เหมือนการทำงานของรถยนต์ไฟฟ้า โดยโหมดนี้จะทำงานเมื่อรถออกตัวหรือวิ่งด้วยความเร็วต่ำ และมีปริมาณกระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่ที่เพียงพอ

โหมด Hybrid drive

โหมด Hybrid driveโหมดนี้ถือเป็นโหมดหลักของระบบ e:HEV โดยมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่หมุนล้อเช่นกัน ส่วนเครื่องยนต์เบนซินจะมีหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว (เหมือนกับ E-POWER ของ Nissan) แล้วส่งกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ไปยัง PCU (Power Control Unit) จากนั้นตัว PCU จะทำหน้าที่ตัดสินใจว่าจะทำการส่งกระแสไฟฟ้าไปที่มอเตอร์โดยตรงเพื่อเพิ่มพละกำลังในการขับเคลื่อน หรือส่งกระแสไฟฟ้าไปชาร์จแบตเตอรี่

  • กรณีส่งกระแสไฟฟ้าไปที่มอเตอร์โดยตรงเพื่อเพิ่มพละกำลังในการขับเคลื่อน

เกิดขึ้นเมื่อผู้ขับขี่เหยียบคันเร่งเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ เพื่อทำการเร่งความเร็ว หรือขับขึ้นทางลาดชัน ในกรณีนี้ PCU จะส่งพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากเครื่องยนต์เบนซิน ไปเสริมกับพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ทำให้ตัวมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถสร้างแรงบิดได้มากขึ้น (หรือพูดให้เข้าใจง่ายคือแรงขึ้นนั่นเอง)

  • กรณีส่งกระแสไฟฟ้าไปชาร์จแบตเตอรี่

เกิดขึ้นเมื่อปริมาณกระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่เริ่มไม่เพียงพอ สมองกลของรถก็จะทำการเปลี่ยนโหมดการขับขี่เป็น Hybrid drive และชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่โดยอัตโนมัติ และเมื่อกระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่มีปริมาณมากพอ ในกรณีรถกำลังวิ่งที่ความเร็วไม่สูงมาก เครื่องยนต์เบนซินก็จะดับลง และสมองกลของรถก็จะทำการเปลี่ยนโหมดการขับขี่กลับเป็น EV drive โดยอัตโนมัติ ในกรณีที่ตัวรถต้องการกำลังในการขับเคลื่อน เช่นกำลังทำความเร็ว หรือกำลังวิ่งขึ้นทางลาดชัน ตัว PCU ก็จะส่งกระแสไฟฟ้าไปที่มอเตอร์โดยตรงเพื่อเพิ่มพละกำลังในการขับเคลื่อน

โหมด Engine drive

โหมด Engine driveเมื่อรถวิ่งที่ความเร็วสูงคงที่ เช่นกำลังขับอยู่บนทางด่วน หรือทางตรงยาว สมองกลของรถก็จะติดเครื่องยนต์เบนซินขึ้น เพื่อขับเคลื่อนล้อโดยตรงเหมือนรถยนต์ทั่วไปที่ไม่มีระบบ Hybrid ผ่านชุด lock-up clutch โดยจะมีอัตราทดเกียร์อยู่ที่ประมาณเกียร์ 6 ของรถยนต์ทั่วไป เพื่อลดการใช้งานเชื้อเพลิงลง

โดยโหมดการขับขี่ทั้ง 3 โหมดนั้น สมองกลของรถจะทำหน้าที่ตัดสินใจว่าจะเลือกใช้โหมดไหน โดยจะพิจารณาจากปริมาณไฟฟ้าในแบตเตอรี่ และปริมาณการเหยียบคันเร่งของผู้ขับขี่ และเช่นเดียวกับระบบ Hybrid ทั่วไป เมื่อผู้ขับลดความเร็วหรือถอนคันเร่ง พลังงานจลน์ที่ล้อก็จะถูกแปลงกลับไปเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อนำไปชาร์จกลับเข้าแบตเตอรี่เช่นกัน

จะเห็นได้ว่าระบบ e:HEV ของ Honda นั้น มีทั้งส่วนที่เหมือน และส่วนที่แตกต่างจากระบบ Hybrid ของค่ายอื่น ๆ ทางผู้เขียนหวังว่า บทความนี้จะทำให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับหลักการทำงานของระบบ e:HEV มากขึ้น ไม่มากก็น้อย


รูปภาพแสดงการทำงานของระบบ e:HEV จาก Honda Thailand

โลโก้ e:HEV จาก HONDA

รูปรถ Toyota Camry Hybrid (ACV40) เป็นรูปที่ถ่ายโดยตัวผู้เขียนเอง


เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์