ไลฟ์แฮ็ก
วิธีลดพฤติกรรมก้าวร้าวของแมว
ภาพโดย ไอยรา
คนรักแมวหรือที่รู้จักกันในนาม “ทาสแมว” ต่างรู้ดีว่าเจ้าเหมียวนั้นมีทั้งความน่ารักและความเอาแต่ใจในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นฮอร์โมนพุ่งพล่านก็จะยิ่งอารมณ์ฉุนเฉียวมากกว่าปกติหลายเท่า เมื่อตัดสินใจเลี้ยงแล้วก็คงไม่มีใครอยากลงโทษแมวตัวเองด้วยวิธีรุนแรงกันทั้งนั้น ดังนั้นจึงจะขอนำเสนอแนวทางการลดพฤติกรรมก้าวร้าวของแมวฝากไว้ให้ทาสแมวได้ลองทำกัน
ภาพโดย ไอยรา
1. ปฏิบัติกับแมวเหมือนเด็กทารกคนหนึ่ง หลายคนอาจคิดว่าแมวฝึกยากกว่าสุนัข แต่อันที่จริงแล้วแมวก็สามารถฝึกให้มีนิสัยอ่อนโยนได้ไม่แพ้สุนัขเช่นกัน ทาสแมวท่านใดเพิ่งเริ่มเลี้ยงแมวขอให้เล่นกับแมวอย่างทารกคนหนึ่ง แต่ละวันควรให้เวลากับแมวอย่างน้อย 20 นาที เล่นกับแมว พูดกับแมวเบา ๆ ด้วยเสียงอ่อนโยน เมื่อแมวปฏิบัติตามคำสั่งได้ หรือทำตัวน่ารักเป็นพิเศษ ให้เจ้าของเริ่มให้รางวัล อาจเป็นขนมชิ้นเล็ก ๆ หรือให้ต้นตำแยแมวของโปรดก็ได้ เจ้าเหมียวจะเริ่มเรียนรู้ว่าพฤติกรรมเช่นนี้เจ้าของชอบให้ทำ ทำแล้วจะได้รางวัล ต่อไปแมวจะเริ่มปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าของได้
Advertisement
Advertisement
ภาพโดย ไอยรา
2. เมื่อแมวทำผิดให้เจ้าของตัดสินอย่างใจเย็น หลายครั้งที่แมวอาจขีดข่วนหนังสือหรือเอกสารสำคัญ บางครั้งก็อาจปีนป่ายขึ้นไปรื้อข้าวของบนชั้นจนกระจุยกระจาย ทำแก้วน้ำจานชามตกแตก ก่อนที่เจ้าของจะโกรธขอให้ย้อนกลับมาคิดให้ดีว่า ผิดที่เราหรือผิดที่แมว? คนที่คิดจะเลี้ยงแมวแล้วต้องเพิ่มความระมัดระวังในชีวิตประจำวันเป็นพิเศษ แมวไม่รู้ว่าสิ่งใดเล่นได้ สิ่งใดเล่นไม่ได้ แต่เราผู้เป็นเจ้าของย่อมรู้ว่าสิ่งใดสำคัญ ควรเก็บในที่พ้นมือแมว ให้คิดเสมอว่า หากเราเก็บดีพอ แมวก็ไม่สามารถนำมาเล่นได้อย่างแน่นอน
ภาพโดย ไอยรา
3. ไม่ควรลงไม้ลงมือกับแมว การลงไม้ลงมือเปรียบเสมือนการสร้างบาดแผลในจิตใจ แมวจะเก็บกดและไม่มีความสุข เมื่อคิดจะเลี้ยงแล้วก็ควรระลึกไว้เสมอว่า แมวก็เหมือนกับลูกหลานเราคนหนึ่ง เราคงไม่อยากให้ลูกหลานของเรามีบาดแผลในจิตใจใช่หรือไม่? ดังนั้นหากแมวทำผิด เช่น เล่นกับเจ้าของแรง ๆ กัด ข่วน หรือตะปบ ให้เจ้าของเดินออกจากพื้นที่ที่เล่นกันทันที ไม่พูดคุย ไม่เล่นด้วยราวครึ่งวันหรือหนึ่งวัน เพื่อให้แมวเรียนรู้ว่า การเล่นลักษณะนี้เจ้าของไม่ชอบ หากอยากเล่นด้วยกันนาน ๆ ต้องเล่นเบา ๆ
Advertisement
Advertisement
ภาพโดย ไอยรา
4. สร้างพื้นที่สีเขียวให้กับแมว แมวทุกตัวต่างต้องการกินผักเพื่อช่วยระบบย่อยอาหารและเพื่อกำจัดก้อนขน เจ้าของควรจัดพื้นที่สวนเล็ก ๆ ส่วนตัวให้กับแมว ปลูกต้นไม้ที่แมวกินได้ และควรกั้นสวนให้ปลอดภัยจากสัตว์อื่นที่จะเข้ามาทำร้ายแมว หรือกั้นตาข่ายป้องกันแมวกระโดดออกไปด้านนอกสวน แมวที่ได้กินต้นไม้ใบหญ้า ได้ชมสวน ได้ดูนกยามเช้า เดินดมต้นไม้ดอกไม้ จะอารมณ์ดี ผ่อนคลาย ไม่เครียดหรือซึม ต้นไม้ที่ทาสแมวควรหามาไว้ในสวนคือ ต้นไผ่เงิน หรือไผ่ใบเล็กชนิดอื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน ต้นข้าวสาลี กะเพรา ผักบุ้ง ต้นตำแยแมว ต้นไม้ชนิดสุดท้ายนี้พิเศษตรงที่ว่า แมวชอบกินรากของต้นตำแยแมว เจ้าของอาจปลูกเอาไว้เป็นกอ เมื่อต้องการใช้ก็ดึงขึ้นมาสักหนึ่งต้น ตัดส่วนใบออกให้เหลือแต่ส่วนรากขึ้นไปถึงลำต้นราวหนึ่งฝ่ามือ จากนั้นล้างรากให้สะอาดแล้วนำไปให้แมวกิน แมวของท่านจะมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด
Advertisement
Advertisement
ภาพโดย ไอยรา
5. พาแมวไปทำหมันเมื่อถึงเวลาสมควร เมื่อแมวเริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์จะเริ่มเล่นแรง ๆ เกรี้ยวกราด ฉี่ไม่เป็นที่ หนีออกจากบ้าน สารพัดความเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เจ้าของปวดหัว อาการเหล่านี้จะลดลงไปหรือหายขาดเมื่อท่านพาแมวไปทำหมัน การทำหมันแมวตัวเมียนั้นควรทำในช่วงแมวอายุ 5 เดือน ก่อนแมวจะติดสัดครั้งแรก ส่วนแมวตัวผู้ควรทำหมันตั้งแต่อายุ 6 เดือน ขึ้นไป อย่างไรก็ตามแมวแต่ละตัวมีข้อมูลทางสุขภาพเฉพาะของตัวเอง ดังนั้นก่อนทำหมันจึงควรนำแมวของท่านไปพบสัตวแพทย์เพื่อประเมินช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง อย่างไรก็ตามต้องระลึกเอาไว้เสมอว่า ห้ามฉีดยาคุมเป็นอันขาด เพราะจะทำให้แมวเสียชีวิตได้ การทำหมันนอกจากจะทำให้แมวลดความก้าวร้าวลงได้แล้ว แมวยังจะมีสุขภาพดีและอายุยืนยาวขึ้นอีกด้วย
ช่วงขวบปีแรกของแมวเป็นช่วงเวลาที่เจ้าของต้องใช้ความอดทนอย่างมาก แมว 1 ขวบ ก็เหมือนเด็กอนุบาลตัวเล็ก ๆ เจ้าของอาจจะปวดหัวกับความซุกซนไปบ้าง แต่ก็นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะสร้างเสริมพฤติกรรมของเจ้าเหมียวให้เรียบร้อย อ่อนโยน เป็นเพื่อนที่ดีของคุณไปนาน ๆ แมวอาจจะฝึกยากกว่าสุนัขไปสักนิด แต่ขอให้เชื่อเถิดว่า หากเจ้าของตั้งใจเลี้ยงเขาให้ดีในขวบปีแรกแล้ว คุณจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีตลอดอายุขัยของเขาเลยทีเดียว
ความคิดเห็น