ไลฟ์แฮ็ก
วิธีอ่านหนังสือสอบอย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีอ่านหนังสือสอบอย่างมีประสิทธิภาพ
ในวันนี้จะมาบอกเล่าวิธีการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบอย่างมีประสิทธิภาพ แต่บอกตรง ๆ ว่าผู้เขียนไม่ค่อยจะชอบระบบการเรียนที่รีบเร่ง รีบสอบ สักเท่าไหร่ ตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยรู้สึกได้เลยว่าเรียนไปได้สักพักหนึ่ง ก็ต้องสอบแล้ว และช่วงสอบเป็นช่วงที่ Suffer (ทรมาน) สุด ๆ หน้าดำคร่ำเครียด อดหลับอดนอน ต้องท่องต้องจำ อ่านหนังสือเหมือนหนูถีบจั่นเลยก็ว่าได้ แต่การสอบและการเรียนในมหาวิทยาลัยก็ทำให้ผู้เขียนได้เทคนิคดี ๆ ในการจัดตารางเวลาและการเตรียมตัวในด้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมาก
จึงอยากจะมาแชร์วิธีการอ่านหนังสืออย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การวางแผน การจัดตาราง การอ่าน และการทบทวน ไปดูกันเลยค่ะ
1. ถอดชิ้นส่วนของเนื้อหาในแต่ละวิชา
อันดับแรกเราต้องเข้าใจก่อนว่าวิชาหนึ่งที่เราเรียนมาทั้งเทอมเนี่ย มันมีกี่บท มีเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งหากเราตั้งใจเรียนทุกครั้ง เราก็จะไม่พลาดในส่วนนี้อยู่แล้ว หรือไม่ก็ลองสังเกตใน Course Syllabus ดูได้
Advertisement
Advertisement
หากเราลงในตารางอ่านหนังสือว่าเวลานี้จะอ่านวิชา “เคมี” ภายใน 2 ชม. แต่วิชาเคมีมีเนื้อหาอยู่ในหนังสือหนึ่งเล่มหนา ๆ การอ่านวิชา “เคมี” จบภายใน 2 ชั่วโมงคงจะเป็นไปไม่ได้ แต่หากเราแยกออกมาว่า เคมี มีทั้งหมด 7 บท เราจะสามารถนำทั้ง 7 บทนั้นไปแบ่ง และโยนลงตารางเวลาได้ และค่อย ๆ อ่านอย่างมีวินัยจนจบทีละบทอย่างมีประสิทธิภาพ
จำไว้ว่าเราไม่กินพิซซ่าทีเดียวทั้งถาด เรากิน “ทีละชิ้น” การอ่านหนังสือก็เช่นกัน
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.pexels.com/photo/person-holding-white-ceramic-coffee-cup-leaning-on-brown-wooden-table-179912/
2. อ่านวิชาที่ยากที่สุด ในช่วง Prime Time
ช่วง Prime Time หมายถึงช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่หัวสมองของเราฉลาดที่สุด สดชื่นที่สุด และมีกำลังวังชามากที่สุด ซึ่งเวลา Prime Time ของแต่ละคนนั้นมีไม่เหมือนกัน แต่ให้เราเอาวิชาที่ยากที่สุดมาอ่านช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงที่มีพลังใจสูงสุดในการต่อสู้กับวิชาที่ยาก และไม่แน่ว่ามันอาจจะเปลี่ยนเป็นวิชาที่เรารักมากที่สุดก็ได้
Advertisement
Advertisement
ส่วนวิชาง่าย ๆ วิชาที่สนุก หรือวิชาที่เราชอบ ให้อ่านช่วงเวลาอื่น ที่ไม่ใช่ Prime Time แม้แต่ช่วงเวลาเศษ ๆ ที่รอคน หรือขณะที่กำลังเข้าห้องน้ำ ช่วงเวลาที่กำลังง่วงหงาวหาวนอนก็ได้ เพราะเราจะมีแรงผลักดันจากความชอบ ความสุข และความสนุกที่ได้อ่าน ทำให้พลิกช่วงเวลาที่เฉื่อย ๆ กลายเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นได้
สำหรับข้อนี้สรุปได้ว่า “สถานการณ์เปลี่ยนความชอบ และความชอบเปลี่ยนสถานการณ์” ลองทำตามกันดูนะคะ
3. จับคู่วิชาให้เหมาะสม
ร้านสะดวกซื้อยังมีการจับคู่โปรโมชันอย่างเหมาะสม การอ่านหนังสือก็ควรจะมีการจับคู่วิชาให้เหมาะสมเช่นกัน ให้เราพิจารณาจากตัวเราเองว่าวิชาไหน สามารถอ่านวันเดียวกับวิชาไหนได้บ้าง หรือวิชาไหนจะต้องเคลียร์คิวทุกอย่างเพื่ออ่านมันเท่านั้น อย่างเช่นวิชาสถิติกับวิชาแคลคูลัส บางคนอาจจะมองว่าเป็นวิชาคำนวณเหมือนกัน อย่าเอาไว้วันเดียวกันดีกว่า เดี๋ยวจะอ้วกแตกได้ (ส่วนมากทางคณะมักจะไม่จัดสอบวิชาคำนวณชนกับวิชาคำนวณเหมือนกัน) แต่บางคนกลับชอบให้คำนวณก็คำนวณไปเลยทั้งวัน หรือวิชานี้อ่านแล้วง่วง ให้จับคู่กับอีกวิชาที่น่าตื่นเต้น แล้วอ่านสลับบทกันไป คล้ายกับการออกกำลังกายแบบ HIIT วิ่งเร็ววิ่งช้าสลับกันไป
Advertisement
Advertisement
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.pexels.com/photo/a-man-reading-indoor-2325729/
4. อ่านให้จับภายในเวลาที่ตั้งไว้ แต่ถ้าหมดเวลาก่อนให้อ่านจนจบ
การกำหนดเวลาไว้ ดีกว่าการไม่กำหนดเวลา เพราะเป็นการกระตุ้นให้เราตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา แต่หากเราอ่านไม่จบจริง ๆ ให้เราอ่านให้จบและลืมเรื่องเวลาไป
การวางแผนเรื่องของ Deadline ในการอ่านหนังสือ ควรจะมีพื้นฐานมาจากความเข้าใจขีดความสามารถของตัวเอง ว่าเราจะอ่านวิชานี้จบภายในกี่ชั่วโมง หากออกแบบเวลาตามความเข้าใจตัวเองจริง ๆ จะทำให้ระยะเวลาในการอ่านหนังสือไม่คาดเคลื่อนจากที่ตั้งไว้มากนัก แต่สิ่งสำคัญคือต้องให้จบ หากหมดเวลาแล้วทิ้งเนื้อหานั้นไป เราอาจจะต้องกลับมาเริ่มต้นทบทวนใหม่อย่างน่าเสียดายและเสียเวลา
5. เมื่ออ่านทุกอย่างจบแล้ว ให้ปิดหนังสือแล้วหยิบกระดาษ 1 แผ่น
เมื่อเราอ่านจบแล้ว ให้หยิบกระดาษ 1 แผ่น แล้วเขียนสรุปเนื้อหาของวิชานั้น ซึ่งจริง ๆ ควรทำเป็นบท ๆ การเขียนสรุปเป็นการทบทวนความรู้ที่ได้จากการอ่าน จำอะไรได้เขียนลงไป จะทำให้เราสามารถเกิดภาพในหัวและกระตุ้นความทรงจำขึ้นมาได้ จากประสบการณ์แล้ว การใช้ปากกาหรือดินสอนเขียนมักจะได้ผลในเรื่องความจำมากกว่าอุปกรณ์ไอทีอย่างคอมพิวเตอร์หรือไอแพด แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคน
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.pexels.com/photo/brown-haired-woman-holding-a-white-wireless-device-789703/
และนี่ก็คือวิธีการอ่านหนังสือสอบอย่างมีประสิทธิภาพ ที่ตัวผู้เขียนเองหากย้อนเวลากลับไปได้ ก็อยากจะนำเทคนิคนี้ไปใช้ (แต่ไม่ย้อนจะดีกว่า) ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุก ๆ คนที่อยู่ในระหว่างการเรียนและการสอบนะคะ ขอให้โชค A
โอ้
Facebook : fb.me/justlearntogether
YouTube : https://bit.ly/2PpkbZu
IG : kanziri
ความคิดเห็น






