อื่นๆ

“ศพตายโหง” ประเพณีความเชื่อของชาวภูไทบ้านกุดหว้า

1.0k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
“ศพตายโหง” ประเพณีความเชื่อของชาวภูไทบ้านกุดหว้า

ไม่มีแม้คำร่ำลา ไม่รู้สถานการณ์ข้างหน้า  ไม่มีเวลาได้เตรียมตัวเตรียมใจ  พยายามไปดูลมหายใจแต่ไม่ทัน สิ้นสุดกันชาตินี้เพียงแค่ฝัน

         ชีวิตและลมหายใจ สิ้นสุดแล้วเมื่อไม่มีลมเข้า กายแน่นิ่งไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด ถ้าหากคนเราจะร่ำไห้ก็ไม่มีความหมาย ไม่มีทางรั้งชีวิตยื้อให้กลับมาหายใจได้แม้แต่วินาที ชีวิตได้สิ้นสุดลงเมื่อหมดลม คนที่ยังอยู่ก็ควรมองและพิจารณาเหมือนกันว่า ไม่วันใดก็วันหนึ่งเราเองก็ต้องจากโลกนี้ไปไม่แตกต่าง 

กรรมนำมาเกิด เมื่อสิ้นแล้วซึ่งบุญนำพาคนเราก็เหลือไว้เพียงชื่อ  การเล่าเรื่องของหนึ่งชีวิต ที่ต้องจากกันโดยที่ไม่ได้เอ่ยลา ได้เห็นเพียงร่างกายที่ไร้วิญญาณที่จะตอบสนอง  คนเราจะมีสักกี่ครั้งที่ต้องพบเจอกับเหตุการณ์ที่สะเทือนใจ ชนิดที่เรียกว่าไปไม่เป็น ทางตันมืดมิดเคยดูละคร ที่ตัวละครต้องเจอกับเหตุการณ์นี้ แต่ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะต้องเจอ

Advertisement

Advertisement

การตายผิดธรรมชาติ หรือที่เราเรียกกันว่าตายโหง คือการตายโดยไม่มีการเจ็บป่วย เช่น การไหลตาย อุบัติเหตุ โดนยิง ตกต้นไม้  เมื่อมีการตายนี้เกิดขึ้นตามความเชื่อของชาวภูไทบ้านกุดหว้า จะต้องนำไปทิ้งโคกป่าใหญ่หรือเรียกว่าหนองขี้หมาจอก ซึ่งวิธีการทำศพจะต่างกัน ไม่ให้พบพระ ไม่มีพิธีสงฆ์ ไม่มีการเวรพาข้าว ไม่มีการบวช ไม่มีพิธีกรรมอะไรเลย นำศพไปฝังดินที่ป่าก่อนเที่ยง ถ้าดีที่สุดคือไม่ให้นำศพเข้าหมู่บ้านนำไปฝังเลยแม้ว่าจะตอนกลางคืนก็ตาม

ส่งสิ่งที่ทำได้ คือการเดินไปส่งเป็นครั้งสุดท้าย เช้าของวันใหม่ถ้าหากนำศพไว้ที่บ้านจะต้องนำศพไปโคกป่าใหญ่ ก่อนเพล คือจะนำศพไปประมาณสิบนาฬิกาห้ามถึงเวลาสิบเอ็ดนาฬิกา ส่วนมากเก้านาฬิกาก็เคลื่อนศพแล้ว ในการนำไปนั้นไม่มีพระในพิธี ขึ้นรถแล้วก็เดินไปเงียบๆ ไม่มีการโปรยเหรียญหรือข้าวตอก เดินไปกันปกติ โดยการเดินนั้นจะมีผู้ชายเกือบทั้งหมด ผู้หญิงจะเป็นเพียงญาติสนิทของผู้ตายหรือครอบครัว  ซึ่งไม่มีการจูง และสิ่งที่ในมือของทุกคนต้องมีนั่นคือ มีด พร้า  จอบ เสียม เพื่อนำไปถากถางป่าทางเดินเข้าและขุดหลุมฝังศพ  

Advertisement

Advertisement

สิ่งสำคัญ คนที่สำคัญขาดไม่ได้คือเขย ของตระกูล ซึ่งเขยจะต้องเดินนำหน้า และในมือจะต้องมี “ไข่ไก่สีขาว”  ไข่ไก่สีขาวลูกเล็กหนึ่งฟอง เพราะในการตายโหงเขยจะต้องเป็นคนเสี่ยงทายสถานที่ที่ผู้ตายอยากที่จะอยู่ 

วิธีการเสี่ยงทายไข่ของเขย เขยจะต้องนำหน้าขบวนศพเป็นคนแรกและเดินไปก่อน ซึ่งเขยอาจจะมีสองสามคนได้ แต่เขยกก (เขยคนแรก)จะต้องเป็นคนเสี่ยงทาย ซึ่งวิธีการ คือโยนไข่ถามดวงวิญญาณ ว่าต้องการจะอยู่ตรงนี้ไหม โยนไปทางตรงบ้าง ทางซ้าย ทางขวา จนกว่าไข่จะแตก เขยถึงจะเริ่มขุดดินเป็นคนแรก  จากนั้นหนุ่มๆทั้งหลายก็จะช่วยกันขุด หลุมต้องลึกประมาณ สองเมตร เพื่อสะดวกในการหย่อนโลงศพลง และกลบดิน

ป่าสภาพป่าช้า หนองขี้หมาจอก ในป่าแห่งนี้จะมีศพที่เสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติทั้งหมด ซึ่งถ้าเราเดินเข้าไปจะมองเห็นกองดินที่มีการปักไม้ชื่อของศพไว้ ชาตะและมรณะไว้ ให้รู้ว่าเป็นสถานที่ของใคร ซึ่งอยู่ไม่ห่างกันมากนัก และในการขุดหลุมนั้นจะใช้จอบ และกำลังคน ในการไปป่านี้จึงใช้กำลังของชายเกือบทั้งหมู่บ้าน ถ้าหากเป็นหน้าฝนอาจจะง่ายหน่อยแต่ถ้าหน้าแล้งคงต้องขุดแบบดินแข็งๆ 

Advertisement

Advertisement

ระหว่างที่รอการขุดหลุม ทุกคนก็จะนั่งล้อมรอบ นั่งให้กำลังใจ ผลัดเปลี่ยนกันเข้าไปขุดบ้างพักบ้าง นี่คงเป็นสาเหตุให้เคลื่อนศพไปก่อนเพล เพราะใช้เวลานานในการขุดหลุม ซึ่งหลังจากขุดหลุมเสร็จก็จะตัดไม้จำนวนสี่ท่อนมาวางขวางหลุมไว้แล้วนำโลงศพวางไว้ที่ปากหลุมพร้อมกับมีการนำเชือกคล้องโลงศพไว้สองเส้นใหญ่ 

ข้อห้ามข้อห้ามในการไปโคกป่าใหญ่ สิ่งแรกที่ทุกคนต้องรู้คือ ไม่ควรวิ่งตามขบวนศพให้เดินไปพร้อมกัน ห้ามตามไปทีหลัง ความเชื่อว่าถ้าหากตามไปทีหลังคุณอาจจะเป็นคนต่อไป ตามจริงน่าจะเป็นทำให้คนเชื่อว่า ไม่อยากให้ไปคนเดียว อันตรายอาจจะหลงป่าได้ โคกป่าใหญ่มีจำนวนพื้นที่กว้าง ห้ามมองหลัง ช่วงที่เดินไปนั้นเราจะเดินหน้าอย่างเดียวไม่ให้มองกลับมาด้านหลัง ซึ่งก็เหมือนกันกับชีวิตที่ต้องเดินหน้าต่อไป

       สิ่งที่ต้องเตรียมอย่างเดียวของ การตายโหง คือ หลังจากที่ศพเคลื่อนตัวออกจากบ้านไปแล้ว จะนิมนต์พระสงฆ์มาเอาบุญบ้าน หรือเรียกภาษากลาง  ทำบุญปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไปจากบ้านและทำการล้อมสายสิญจน์เพื่อไม่ให้วิญญาณเข้ามาในบ้านได้  การตายโหงกับการตายธรรมดาจะต่างกัน เชื่อกันว่าวิญญาณจะยังไม่รู้ตัวว่าตนเองนั้นเสียชีวิต  จะทำทุกอย่างเหมือนกับตอนที่ตนยังมีชีวิตอยู่ สิ่งที่จะทำให้ผู้ตายรู้คือการล้อมสายสิญจน์ไว้ เมื่อผู้ตายเข้าบ้านไม่ได้ก็จะรู้ว่าเพราะอะไร 

เขยเขยกับการเสี่ยงทาย   เมื่อเขยเสี่ยงได้สถานที่แล้ว จะต้องเป็นคนที่ลงมือขุดก่อนเป็นคนแรก จากนั้นคนอื่นๆถึงสามารถที่จะขุด   การเสี่ยงทายถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ ถือว่าผู้ตายต้องการจะอยู่บริเวณแห่งนั้น เขยจะไม่เสี่ยงทายใหม่ แม้ว่าขุดลงไปแล้วจะเจอรากไม้ ท่อนไม้ หินแข็ง ถึงสภาพดินจะเป็นอย่างไร ก็จะต้องเดินหน้าขุดต่อ มีบางศพขุดลงไปเจอรากไม้บ้าง เจอรังปลวก รังมด ก็ไม่ถอย เพราะเชื่อในสิ่งที่เขยเสี่ยงทาย ซึ่งบางคนนั้น เสียงทายโยนไข่มากกว่า 5 ครั้งก็ยังไม่ได้ที่ สิ่งที่เหลือเชื่อคือ ไม่ว่าจะโยนไข่ไปโดนก้อนหิน โดนไม้ ไข่จะไม่แตกถ้าหากผู้ตายยังไม่ถูกใจ แต่สำหรับบางคนนั้น เดินเข้าไปยังไม่โยน ไข่หล่นและแตกตรงนั้น ก็จะต้องเริ่มการขุด 

หน้าที่หน้าที่ของชาย  การขุดหลุมถือเป็นหน้าที่ของฝ่ายชาย ทั้งหมู่บ้านหรือทุกคนที่เป็นญาติพี่น้อง จะช่วยกันขุด รอบละสามถึงสี่คน ถ้าเหนื่อยก็สลับกัน ทำให้การเดินทางไปป่าช้า จึงมีชายจำนวนมากกว่าหญิง หญิงนั้นที่ไปได้คือต้องญาติที่สนิทจริงๆ เพราะก่อนที่จะฝั่งศพนั้นจะมีการล้างหน้าศพเป็นครั้งสุดท้าย  

     ในกรณีที่ดินแข็งไม่สามารถขุดได้นั้น สามารถรดน้ำใส่ ทำให้ขัดง่าย แต่โดยส่วนมากบริเวณป่าแห่งนี้จะเป็นดินทราย ดินร่วน การขุดหลุมจะใช้เวลาประมาณอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง 

ลึกพอประมาณลึกเพียงพอสำหรับการฝั่ง  หลังจากที่ขุดลึกพอประมาณ ก็จะนำท่อนไม้ ซึ่งมีการเดินหาตามป่า กิ่งไม้ที่เหมาะสมและแข็งแรงจะมารองรับน้ำหนักของโลงศพได้ นำมาวางขวางโลงศพ ก่อนที่จะนำหย่อนลงไปในหลุม พร้อมกับเชือกจับโยงสองเส้น ซึ่งเวลานี้จะใช้กำลังคนจำนวนมาก ใช้ความสามัคคีในการหย่อนโลงศพลงไปฝนก้นหลุม  ช่วยกันจับกันดึง

     วิธีการนำศพลงหลุม เริ่มตั้งแต่การยกโลงศพขึ้นพร้อมกัน ซึ่งจะมีกลุ่มที่ดึงเชือกและกลุ่มที่ถอดไม้ออก เมื่อยกโลงขึ้นถอดไม้ออก จะค่อยๆวางโลงศพลง โดยเชือกซึ่งเมื่อถึงแล้วก็จะวางลงและทิ้งเชือกลงตามไปด้วย ก่อนนำศพลง มีการเปิดโลงศพทำพิธีล้างหน้าศพ โดย น้ำมะพร้าว ความเชื่อเรื่องน้ำมะพร้าวนั้นถือเป็นน้ำบริสุทธิ์ ใช้ล้างหน้าศพ หลังจากเปิดฝาโลง ลูกชายจะเป็นคนที่คาบผ้าเช็ดหน้าที่ปิดหน้าของผู้ตาย คาบแล้วสะบัดทิ้งไปด้านข้าง ของตนเอง  การล้างหน้าศพจะเริ่มจากคนในครอบครัวที่อาวุโสที่สุด ไล่ลงมาเรื่อยๆ จนถึงคนอายุน้อย จนถึงญาติ เมื่อล้างหน้าศพเรียบร้อยก็จะทำการ ปิดหน้าโดยผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าขนหนู เพื่อว่าในตอนที่ตักดินกลบหน้าจะไม่ทำให้ดินโดนผู้ตาย ป้องกันฝุ่นให้ 

สิ่งของนำสิ่งของใส่ลงไปในหลุมด้วย  สิ่งไหนที่ต้องการให้ผู้ตายนำไปก็จะหย่อนลงไปด้านข้างด้วย พวงหรีดทั้งหมดจะนำลงไปไว้ในหลุม ก่อนที่จะทำการกลบดิน การกลบดินศพ คนแรกที่จะกลบคือเขย เขยจะนำมือกำดินและโยนลงหลุมเพื่อทำการฝั่ง จากนั้นทุกคนก็จะช่วยกัน เขยจะต้องทำทุกอย่างก่อน ดินที่อยู่ขอบหลุมไม่นานก็ลงไปปิดปากหลุมจนมิด เสมอกันโดยใช้เวลาไม่นาน ร่างของผู้ตายอยู่ใต้พื้นดิน กลับคืนสู่ธรรมชาติ ไม่มีแล้วร่างกายที่เดินเหินหมดสิ้นเหลือไว้เพียงแต่ชื่อและความดี 

ดอกไม้ดอกไม้ประดับบนหลุมฝั่ง เมื่อกลบดินเรียบร้อย เพื่อป้องกันไม้ให้สัตว์มาขุดหรือทำสิ่งไม่ดีกับหลุมศพ มีการนำไม้จำนวนมากมาวางไว้บนดิน และตามด้วยดอกไม้สด ตกแต่งด้านบน เพื่อป้องกันหากศพเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพของธรรมชาติ และย่อยสลายตามกาลเวลา จะไม่ทำให้ดินแตกดันขึ้นมา
ข้าว

ข้าวปลาอาหาร สิ่งที่ไม่ลืม คนเราตอนอยู่น้ำอาหารคือสิ่งสำคัญ หลังจากที่จากโลกนี้ไป สิ่งนี้ก็สำคัญที่ไม่มีใครลืม อาหาร เต็มกระติบข้าว มัดใส่ถุงรวมกัน เพื่อให้ผู้ตายนำไปทานในยามที่หิว เมื่อญาติพี่น้องส่งครั้งสุดท้ายก็จะเดินทางกลับทิ้งไว้เพียงคนเดียว ซึ่งจะต้องกลับพร้อมกันทั้งหมด ไม่ให้มีใครหลงเหลืออยู่ การเดินทางออกจากป่าช้า เมื่อเสร็จพิธีทุกคนจะเดินทางกลับบ้านผู้ตาย เพื่อทานข้าวร่วมกันเป็นการขอบคุณ ก่อนเข้าบ้านจะมีการรดน้ำมนต์ปัดสิ่งชั่วร้ายออก 

การเดินออกจากป่าช้า วิธีการจะต้องหักกิ่งไม้ หรือใบไม้ในป่า กวาดตามตัวขึ้นลงสองถึงสามรอบ จากนั้นจะโยนทิ้งแล้วเดินออกจากป่า โดยห้ามหันกลับไปมองหลุมฝั่งศพโดยเด็ดขาด เดินออกมาห้ามหันกลับไปมองด้านหลังจนถึงบ้าน  เมื่อถึงบ้าน หน้าที่ของเขยจะต้องทำคือปัดกวาดบ้าน และล้างสิ่งไม่ดีออก และนั่งฉีกไก่ร่วมกันเหมือนการทำศพปกติ ซึ่งหลังจากที่นำศพออกจากบ้านแล้ว นิมนต์พระมาทำบุญบ้านได้ แต่ถ้าหากยังไม่นำศพไปฝังจะไม่มีพิธีกรรมใดทางศาสนา 

สัญลักษณ์ทำสัญลักษณ์ทิ้งไว้  การเสียชีวิตแบบนี้จะไม่มีการทำบุญแจกข้าวให้ จนกว่าเวลาผ่านไป 5 ปี เพราะถือว่าเสียชีวิตไม่ปกติ  ไม่มีการขุดกระดูกขึ้นมาทำพิธี ไม่มีการทำอะไร นำมาฝังแล้วก็จบสิ้นกัน รอเวลาครบห้าปี การทำบุญจึงต้องเดินทางเข้าไปทำพิธีเรียกวิญญาณ จึงต้องทำสัญลักษณ์ไว้เพื่อจดจำ ซึ่งสัญลักษณ์นี้จะอยู่นาน 5 ปี จึงต้องทำกับต้นไม้เล็กๆ และทำตรงโคนต้นด้านล่างสุด จนกว่าจะครบห้าปี จะกลับมาหาใหม่

ความตายไม่มีใครรู้ล่วงหน้า ไม่มีใครคาดคิดว่าจะสิ้นลมหายใจวันไหน เมื่อวันนั้นมาถึงคนอยู่ก็ต้องต่อสู้กับชีวิตต่อไป เพราะชีวิตเราไม่ได้หยุดอยู่ที่คนรักของเราเสียชีวิต ทุกคนมีบุญมีกรรมต่างกัน การได้อยู่ด้วยกันมีเวลาดีๆร่วมกันเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว จึงมีคำกล่าวว่า ชีวิตนี้สั้นนักทำแต่สิ่งที่ดีให้กันอย่าสร้างความทุกข์ให้ใคร ให้สร้างความสุขและมอบสิ่งที่ดีให้กัน

  ภาพถ่ายทั้งหมดเป็นของผู้เขียน (อุ้งเท้าแมว)

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
อุ้งเท้าแมว
อุ้งเท้าแมว
อ่านบทความอื่นจาก อุ้งเท้าแมว

รักอิสระ มีพื้นที่ส่วนตัว ชอบเดินทางท่องโลกกว้าง

ดูโปรไฟล์

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์