ไลฟ์แฮ็ก
สรุป 10 เทคนิคการอ่านใจคนจากบุคลิกท่าทางและนิสัยง่ายๆเพียงเสี้ยววินาที
เทคนิคการอ่านใจคนได้ในเสี้ยววินาที
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวทรูไอดีที่น่ารัก ผู้เขียนได้ไปอ่านเจอเทคนิคการอ่านใจคน ในหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งเป็นเทคนิคที่สามารถนำมาใช้สังเกตผู้คนในชีวิตประจำวันได้ง่ายๆ จึงอยากมาแชร์ให้เพื่อนๆได้นำเทคนิคนี้ไปลองใช้กันดูค่ะ
ถ้าจะพูดถึงเรื่องการอ่านใจคนนั้นเป็นเรื่องที่ยากและละเอียดอ่อนมากๆ แต่นักจิตวิทยาก็มีเทคนิคที่พอจะสังเกตและอ่านใจคนได้ซึ่งการสังเกตและอ่านใจคนแต่ละครั้งก็อาจจะแล้วแต่ปัจจัยและสถานการณ์หลายๆอย่างด้วยนะคะ เลามาลองดูเทคนิคการอ่านใจคนกันดีกว่าค่ะว่าจะเป็นยังไงบ้าง
ในบทความนี้จะนำเสนอเทคนิคการอ่านใจคนจากบุคลิกท่าทางและนิสัย 10 เทคนิคด้วยกันค่ะ
- การสังเกตอาการผิดหวังเพียงเสี้ยววินาที
- การสังเกตรอยยิ้มของคู่สนทนา
- การสังเกตทิศทางร่างกายของคู่สนทนาว่าชอบหรือเกลียดเรา
- การสังเกตคู่สนทนาว่าเขาอยากกลับบ้านแล้วหรือยัง
- สังเกตคนจากวิธีการเดิน
- สังเกตคนจากการแต่งกาย
- คนที่ชอบเสื้อผ้าสีดำเป็นคนอย่างไร
- การแชทคุยเป็นตัวอักษรเต็มไปด้วยคำโกหกจริงหรือไม่
- สังเกตความรู้สึกได้จากปริมาณการกิน
- การเกาแขนหรือใบหน้าขณะพูด แสดงถึงการโกหกจริงหรือไม่
Advertisement
Advertisement
1.การสังเกตอาการผิดหวังเพียงเสี้ยววินาที
เพื่อนๆเคยสังเกตตัวเองกันหรือไม่คะว่าเวลาที่เรามีเรื่องอะไรที่กระทบจิตใจ เรามักแสดงอาการที่ตอบสนองจากความรู้สึกจริงๆออกมาแต่อาจเป็นอาการเพียงชั่วขณะหนึ่ง ดังนั้นคู่สนทนาของเราก็เหมือนกันการสังเกตคู่สนทนาเพียงเสี้ยววินาทีอาจทำให้เราเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของคู่สนทนาได้ดีขึ้น ในที่นี้จะพูดถึงอาการ ไหล่ตกเพียงเสี้ยววินาที จากความผิดหวัง หลายๆคนคงรู้จักอาการไหล่ตกกันดี เรามักแสดงออกมาเมื่อมีอาการหดหู่ สิ้นหวัง นั่นเอง วิธีนี้สามารถนำไปสังเกตกันได้กับคู่สนทนาที่ปากแข็ง ปากอาจจะบอกว่าไม่เป็นไรแต่ถ้าหากเราสังเกตเห็นอาการไหล่ตกของเขา เราก็สามารถเดาได้ว่าเขารู้สึกผิดหวังอยู่ลึกๆโดยไม่บอกออกมาแค่นั้นเองค่ะ
2.การสังเกตรอยยิ้มของคู่สนทนา
ทุกคนเคยฝืนยิ้ม หรือ ยิ้มแบบหลอกๆกันบ้างไหมคะ การยิ้มหลอกดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องง่ายๆเราก็แค่ทำมุมปากให้ยิ้มแค่นั้นใช่ไหมคะ แต่ว่าวันนี้ผู้เขียนมีเทคนิคการสังเกต คนแกล้งยิ้มหลอกๆมาฝากกันค่ะ นักจิตวิทยาได้กล่าวไว้ว่า รอยยิ้มที่แท้จริงนั้นแก้มต้องยกขึ้นด้วย พร้อมกับในตาอิ่มเยิ้ม และมุมปากที่ยิ้มแย้ม ถ้าหากใครที่ยิ้มแล้วแก้มไม่ยก ให้เดาไว้ก่อนเลยว่าเขาไม่ได้อยากรู้สึกยิ้มแค่ยิ้มพอเป็นพิธีแค่นั้นเองค่ะ
Advertisement
Advertisement
3.การสังเกตทิศทางร่างกายของคู่สนทนาว่าชอบหรือเกลียดเรา
ในการสนทนากันทุกครั้งคู่สนทนาต้องหันหน้าเข้าหากันอยู่แล้วใช่ไหมคะ แต่ถ้าหาก เราสังเกตดีๆ ถ้าคู่สนทนามีท่าทางแปลกๆเช่น อยากถอยห่าง หันหนีไปทางอื่นก็อาจแสดงได้ว่าเขาไม่อยากที่จะคุยกับเราแล้วหรือเขาไม่ชอบเรานั่นเอง
4.การสังเกตคู่สนทนาว่าเขาอยากกลับบ้านแล้วหรือยัง
เคยเป็นกันบ้างไหมคะอยากกลับบ้านใจจะขาดแล้ว แต่ไม่กล้าบอกเพื่อน ไม่กล้ากลับก่อนเพื่อนเพราะเกรงใจ คงจะดีไม่น้อยถ้าหากเพื่อนเข้าใจ และรู้จักสังเกตว่าเราอยากกลับบ้านเต็มทีแล้ว เรามาดูวิธีการสังเกตกันค่ะ ให้เราสังเกตคนที่ก้นไม่ติดอยู่กับที่เริ่มมีอาการขยับไปมาบ่อยๆ และสังเกตปลายเท้าถ้าหากเขาอยากกลับบ้านแล้วปลายเท้าจะหันไปทางประตูทางออกโดยอัตโนมัติจริงหรือไม่ลองไปสังเกตกันดูนะคะ
5.สังเกตคนจากวิธีการเดิน
Advertisement
Advertisement
สงสัยกันใช่ไหมคะว่าเราจะสังเกตวิธีการเดินกันยังไง เพื่อนๆลองสังเกตดูผู้คนที่เดินผ่านไปมา คนที่เดินเชื่องช้า เราจะมองเห็นถึงความเฉื่อยชา และเหนื่อยล้าใช่ไหมคะ ตรงกันข้ามถ้ามองคนที่เดินกระชับฉับไว ก็ดูมีแรงแข็งขันดูดีขึ้นมาอีกระดับ นั่นละค่ะเราจะเห็นว่าบุคลิกการเดินก็เป็นสิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่เราอาจจะไม่ได้ใส่ใจ ถ้าหากเราอยากรู้ว่าเขาเป็นคนเชื่องช้า หรือกระฉับกระเฉง ลองไปสังเกตวิธีการเดินของเขากันดูนะคะ
6.สังเกตคนจากการแต่งกาย
เขาว่ากันว่านิสัยคนเราสะท้อนออกมาผ่านเครื่องแต่งกายดังนี้ค่ะ คนที่สวมเสื้อผ้าเป็นระเบียบเรียบร้อยจะมีความมั่นใจตัวเอง และไม่ค่อยกังวล คนที่ชอบสวมเสื้อผ้าที่จัดจ้านมักชอบให้ตัวเองเป็นที่น่าสนใจ ส่วนคนที่ไม่ให้ความสำคัญกับการแต่งกายอาจเป็นคนที่ ไม่กระตือรือร้น หรือให้ความสนใจผู้อื่นมากกว่าสนใจตัวเอง
7.คนที่ชอบเสื้อผ้าสีดำเป็นคนอย่างไร
เพื่อนๆชอบใส่เสื้อผ้าสีไหนกันบ้างคะ ใช่สีดำหรือป่าวนะ นักจิตวิทยาได้กล่าวว่าคนที่ชอบสวมเสื้อผ้าสีดำ มักมีนิสัยแข็งกร้าวหรือมั่นใจในตัวเองมาก ตรงกันข้ามกับคนที่ชอบสวมเสื้อผ้าสีขาวจะมีนิสัย อ่อนโยน ถ้าหากคนที่รู้จักเราชอบสวมเสื้อผ้าสีดำอยู่แล้วล่ะก็ลองสังเกตกันดูนะคะว่าเป็นจริงอย่างที่นักจิตวิทยาบอกหรือป่าว
8.การแชทคุยเป็นตัวอักษรเต็มไปด้วยคำโกหกจริงหรือไม่
ว่ากันว่าคนเราโกหกกันได้ง่ายๆโดยไม่ได้รู้สึกผิดเมื่อคู่สนทนาไม่ได้อยู่ต่อหน้า เช่นเดียวกับการแชทคุยเป็นข้อความถ้าหากคิดจะโกหกเราก็จะพิมพ์คำโกหกได้แบบไม่รู้สึกผิดเท่าไหร่นักต่างจากการสนทนาที่อยู่ต่อหน้ากันลองโดยสิ้นเชิง เพราะคู่สนทนาไม่สามารถสังเกตท่าทางหรือสายตาของเราได้ ลองไปสังเกตกันดูนะคะ
9.สังเกตความรู้สึกได้จากปริมาณการกิน
ข้อนี้ผู้เขียนเห็นด้วยสุดๆไปเลยค่ะ เพราะว่าเวลามีความสุขจะสังเกตว่าตัวเองกินอะไรก็อร่อยไปหมดเลย ดังที่นักจิตวิทยาได้กล่าวว่าคนเราเมื่อมีความสุขจะกินอาหารได้มาก ในทางกลับกันหากรู้สึกเบื่อจะกินหรือดื่มอะไรได้น้อยลง จริงไหมคะ
10. การเกาแขนหรือใบหน้าขณะพูด แสดงถึงการโกหกจริงหรือไม่
เอ๊ะ ข้อนี้ดูเหมือนว่าผู้เขียนจะสังเกตเห็นอยู่บ่อยๆนะคะ แต่ไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่าเป็นอาการประหม่าเท่านั้น คนที่โกหกมักมีอาการประหม่าทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นจึงทำให้เกิดอาการคันได้นั่นเอง แต่ถ้าหากคนที่โกหกบ่อยๆจนชินแล้วอาจจะไม่แสดงอาการนี้ให้เราได้เห็นก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามนักจิตวิทยาก็ให้ความเห็นว่าการเกาตามร่างกายอาจแสดงถึงอาการประหม่ามากกว่าการโกหก คนที่เวลาพูดชอบเกาตามร่างกายเขาอาจจะประหม่าจริงๆไม่ได้โกหกเสมอไปก็ได้
***เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับเทคนิคการใจคนทั้งสิบข้อนี้ นำไปลองสังเกตกันดูจริงหรือไม่คอมเมนต์บอกกันได้นะคะ***
อ้างอิงจาก หนังสืออ่านใจคนได้ในเสี้ยววินาที เขียนโดย โยชิฮิโตะ ไนโต
รูปภาพหน้าปกภาพโดย Tiểu Bảo Trương จาก pixabay
รูปภาพประกอบ
- ภาพที่1 Photo by kira schwarz from Pexels
- ภาพที่2 Photo by Mustafa ezz from Pexels
- ภาพที่3 Photo by Szymon Shields from Pexels
- ภาพที่4 Photo by Khoa Võ from Pexels
- ภาพที่5 Photo by Dmitriy Ganin from Pexels
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ความคิดเห็น