อื่นๆ
สวัสดิการ ปัจจัยจูงใจคนทำงานรุ่นใหม่ เพื่อให้งานไฉไลกว่าเดิม

ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของโลกในยุคปัจจุบัน ที่ทำให้ให้ผู้คนมีศักยภาพและความชาญฉลาดที่เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นเรื่องปกติที่ปัจจัยนี้จะนำไปสู่การเกิดความท้าทายในเรื่องของการแข่งขันในทุกสาขาอาชีพหรือกลุ่มธุรกิจที่กำลังทวีความรุนแรง ซึ่งในขณะเดียวกันท่ามกลางความท้าทายนี้ได้นำไปสู่บรรยากาศของการทำงานที่หนักหนาสาหัสขึ้น เข้มข้นมากขึ้น มีความคิดที่ลึกซึ้งและความสร้างสรรค์มากขึ้น เพื่อให้ผลของงานบรรลุความสำเร็จสูงสุดและมีชัยชนะเหนือวิกฤติการแข่งขันนี้
เวลานี้เชื่อว่าหลายองค์กรมีกลุ่มบุคลากรหรือคนทำงานรุ่นใหม่พอสมควร ซึ่งนอกจากจะเป็นกลุ่มที่มาพร้อมกับการเติบโตของเทคโนโลยีแล้ว กระบวนการคิด วิถีการทำงาน และรูปแบบการใช้ชีวิตล้วนมีความแตกต่างกับคนทำงานรุ่นเก่าเป็นอย่างมาก บางครั้งเราจึงเห็นวิธีการพัฒนาบุคลากร หรือแม้แต่รูปแบบสวัสดิการหรือการจูงใจที่เคยใช้กับคนทำงานรุ่นเก่ามาใช้กับคนงานรุ่นใหม่แทบจะไม่สามารถบังเกิดผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกันได้เลย ดังนั้นวิธีการเหล่านี้โดยเฉพาะในเรื่องของการจูงใจ ผ่านการให้สิทธิและสวัสดิการต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นให้คนทำงานรุ่นใหม่ทุ่มเทกับการทำงานและสามารถดึงเอาศักยภาพของตนออกมาใช้อย่างเต็มที่กระทั่งสามารถสร้างผลผลิตที่มีคุณค่ายิ่งให้กับองค์กร จึงถือเป็นเรื่องที่ต้องขบคิดและทบทวนเพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัยและรสนิยมความต้องการของคนทำงานรุ่นใหม่เป็นอย่างยิ่ง
Advertisement
Advertisement
หากกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ได้รับสิ่งตอบสนองที่ตรงกับจริตและความต้องการ แน่นอนว่าก็จะยิ่งสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับเนื้องานมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นจึงขอแนะนำการสวัสดิการยุคใหม่ เพื่อจูงใจให้คนทำงานรุ่นใหม่สามารถปฏิบัติภารกิจและสร้างผลของงานได้ไฉไลหรือมีคุณค่ามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งขอแบ่งออกเป็น 8 ประเภทสวัสดิการ ดังนี้
1. สวัสดิการเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านองค์ความรู้
ขอบคุณภาพประกอบจาก unsplash
ความรู้ถือเป็นพื้นฐานสำคัญยิ่งในการทำงาน คนทำงานรุ่นใหม่นี้ถือว่าความรู้เป็นสิ่งที่หาได้ทุกมุมโลก ดังนั้นแม้การพัฒนาองค์ความรู้จะเคยมีการส่งเสริมเรื่อยมาในทุกยุคสมัยของการทำงาน แต่สำหรับคนทำงานรุ่นใหม่แล้ว การที่องค์กรจะจัดหลักสูตรการฝึกอบรม หรือมอบความรู้ใดให้กับพนักงานนั้น จะต้องพิจารณายุคสมัยและความต้องการของผู้เข้ารับการฝึกอบรมนั้น ๆ เป็นสำคัญได้ หากเป็นความรู้ที่สามารถหาได้โดยทั่วไป หรือเป็นความรู้ที่ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป ไม่ทันสมัย ก็ไม่ควรบังคับให้พนักงานต้องเข้ารับความรู้นั้น ๆ โดย หัวข้อความรู้ที่เป็นที่สนใจของคนทำงานรุ่นใหม่หนีไม่พ้นที่ทักษะความรู้ในจำเป็นในศตวรรษที่ 21 นั่นก็คือในเรื่องของเทคโนโลยี การพัฒนาระบบความคิด การสื่อสาร และทักษะทางภาษาต่างประเทศ เช่น การให้ทุนเรียนต่อ หรือทุนฝึกอบรมทักษะต่าง ๆ ในต่างประเทศ ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่จะบังเกิดผลโดยตรงต่อการทำงานทั้งสิ้น
Advertisement
Advertisement
2. สวัสดิการเพื่อพัฒนาสมรรถนะความสามารถที่หลากหลาย
ขอบคุณภาพประกอบจาก unsplash
นอกเหนือจากเวทีหรือโอกาสในการเพิ่มทักษะหรือความรู้แล้ว ความสามารถหรือศักยภาพในด้านอื่น ๆ ที่แตกต่างหลากหลาย ซึ่งอาจไม่เกี่ยวกับภารกิจประจำโดยตรงก็ควรได้รับโอกาสการพัฒนาหรือส่งเสริมต่อยอดด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การดนตรี ศิลปะ กีฬา การทำอาหาร การถ่ายภาพ หรือกิจกรรมสร้างสรรค์ต่าง ๆ ที่แม้ไม่อาจส่งผลต่อการทำงานให้บรรลุผลสำเร็จโดยตรง แต่การให้โอกาสทั้งในรูปแบบของเงินทุน หรือเวลาเพื่อให้คนทำงานรุ่นใหม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้นอกเหนือจากงานประจำ จะทำให้บุคลากรคนทำงานรุ่นใหม่มีทักษะในเรื่องของการคิดสร้างสรรค์ เกิด Passion หรือแรงขับในการทำงานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ถ้าหากองค์กรสามารถตั้งเป็นชมรม หรือคณะทำงานเพื่อรวมเอาผู้ที่มีความหลากหลายทางศักยภาพเข้ามารวมกลุ่มกันเพื่อเป็นทีมงานพิเศษรองรับภารกิจพิเศษต่าง ๆ ก็ย่อมได้เนื่องจากทีมนี้จะต้องเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์หรือการคิดนอกกรอบอย่างแน่นอน ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งสำหรับการทำงานในยุคปัจจุบัน
Advertisement
Advertisement
3. สวัสดิการเพื่อสุขภาพร่างกาย
ขอบคุณภาพประกอบจาก unsplash
นอกเหนือจากสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาล หรือการประกันสุขภาพ หรือการประกันชีวิตที่หลายองค์กรมีให้พนักงานเป็นพื้นฐานแล้ว สวัสดิการที่คนทำงานรุ่นใหม่ต้องการนั้นคือสิ่งที่สามารถสร้างภูติต้านทานหรือความแข็งแรงให้กับร่างกาย เช่น สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สนามกีฬา ฯลฯ ซึ่งอาจมีในที่ทำงาน หรือมีบัตรสมาชิกให้กับพนักงานเพื่อเข้าใช้บริการในสถานที่ต่าง ๆ เพราะสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่คนทำงานรุ่นใหม่หลายคนถือว่าเป็นกิจกรรมเพื่อจัดการกับความตึงเครียดระหว่างวัน แถมยังเป็นการทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
4. สวัสดิการเพื่อความงาม
ขอบคุณภาพประกอบจาก unsplash
เนื่องจากในยุคปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าบุคลิกภาพของพนักงานเป็นเรื่องสำคัญและสามารถสะท้อนความเป็นไปขององค์กรได้พอสมควร คนทำงานรุ่นใหม่นอกจากพลังทุ่มเทที่มีอย่างเปี่ยมล้นให้กับการทำงานแล้ว ความละเมียดละไมกับรูปลักษณ์ภายนอกก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิถีของคนรุ่นใหม่ เช่น การให้สิทธิเข้าคลินิกเสริมความงาม ตามจำนวนหรืออัตราที่เหมาะสม เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นการบ่งบอกถึงความเป็นตัวเองและการดูดีอยู่เสมอถือเป็นการสร้างความมั่นใจของคนรุ่นใหม่เพื่อให้สามารถแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
5. สวัสดิการเพื่อการเดินทางท่องเที่ยว
ขอบคุณภาพประกอบจาก unsplash
Life style หรือรูปแบบการใช้ชีวิตของคนทำงานรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน หนีไม่พ้นเรื่องการท่องเที่ยวเนื่องจากการเดินทางในที่ง่ายและสะดวกสบายขึ้นไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เพื่อผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานที่หนักหน่วงมาโดนตลอด เช่น การมีเงินทุนให้เปล่า หรือเงิน Pocket Money หรือเงินกู้แบบไม่มีดอกเบี้ย หรือการช่วยชำระค่าวีซ่าเดินทางท่องเที่ยวให้กับพนักงาน ฯลฯ เพื่อให้คนทำงานรุ่นใหม่เดินทางไปพักผ่อน ปีละไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง เพราะสำหรับคนรุ่นใหม่แล้วการได้เดินทางท่องเที่ยวนอกจากจะเพื่อผ่อนความความเครียดแล้วยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ อีกด้วย
6. สวัสดิการค่าตอบแทนพิเศษ
ขอบคุณภาพประกอบจาก unsplash
หลายครั้งที่เงินเดือนอาจไม่ใช่สิ่งดึงดูดคนทำงานเสมอไป การที่องค์กรมีค่าตอบแทนพิเศษที่น่าสนใจก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงาน เช่น ค่าตอบแทนพิเศษสำหรับการออกค่าเดินทางมาทำงานหากมีการใช้บริการขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า หรือรถโดยสารชนิดต่าง ๆ นอกจากจะเป็นการช่วยลดปัญหาการจราจรในภาพรวมแล้ว ยังเป็นการประหยัดค่าเดินทางให้กับพนักงานอีกด้วย หรือการให้ค่าตอบแทนพิเศษแก่พนักงานที่ไม่เคยมาสาย ขาด หรือลาเลยพักผ่อนเลยในช่วง ครึ่งปี หรือหนึ่งปี รวมทั้งการให้ค่าตอบแทนให้แก่พนักงานที่มีผลการปฏิบัติงานดีเยี่ยม หรือสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับองค์กร เป็นต้น ซึ่งเกณฑ์การให้ค่าตอบแทนพิเศษนี้จะต้องเป็นจำนวนเงินที่มากพอหรือสามารถสร้างแรงจูงใจแก่พนักงาน คนทำงานรุ่นใหม่ได้อย่างแท้จริงด้วย
7. สวัสดิการเพื่อการแข่งขัน
ขอบคุณภาพประกอบจาก unsplash
นอกเหนือจากการก้มหน้าก้มตาทำงานแล้ว การเปิดเวทีที่สร้างความท้าทายให้คนทำงานรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์กรผ่านเวทีการแข่งขันหรือเพื่อสร้างความท้าทายจึงเป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน อาทิ การจัดประกวดแนวนโยบายเพื่อขับเคลื่อนองค์กร ประกวดวิสัยทัศน์องค์กร ประกวดแผนธุรกิจองค์กร ประกวดค่านิยมองค์กร ฯลฯ โดยมีเงินทุน หรือโอกาสในการก้าวหน้า เป็นรางวัลจูงใจ
8. สวัสดิการพื้นที่สร้างสรรค์
ขอบคุณภาพประกอบจาก unsplash
บางครั้งการนั่งทำงานที่โต๊ะทำงานทั้งวันอาจทำให้เงินไม่เดิน หรือพนักงานคิดอะไรไม่ออก ทั้งการส่งเสียงพูดคุยกันของเพื่อนร่วมงาน เสียงเจ้านายด่าเพื่อนร่วมงาน เสียงแม่บ้านเข้ามาเก็บขยะใต้โต๊ะ ฯลฯ การมีพื้นที่ (Space) ที่มีบรรยากาศที่เงียบสงบ หรือบรรยากาศสบาย ๆ ท่ามกลางต้นไม้ใบหญ้าในที่ทำงาน หรือการทำห้องบรรยากาศดี ๆ เหมือนอยู่ที่บ้านหรือร้านกาแฟที่ทำให้คนทำงานรุ่นใหม่ได้ใช้ความคิดเพื่อให้งานบรรลุ หรือแม้แต่การมีพื้นที่สาธารณะขององค์กรเพื่อให้พนักงานทุกคนสามารถปล่อยของ เช่น ขายของนอกช่วงเวลางาน หรือการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เป็นต้น
ในส่วนของตัวผู้เขียนเองก็ปฏิบัติงานประจำอยู่ในองค์กรแห่งหนึ่ง ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาก็พบว่าองค์กรของผู้เขียนมีการพัฒนารูปแบบของการจัดสวัสดิการเป็นประจำทุกปีเพื่อจูงใจให้พนักงานโดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีสัมฤทธิผลสูงสุด เช่น การจัดสวัสดิการในเรื่องของระยะเวลาการทำงานที่มีรอบการเข้า - ออกการปฏิบัติงานถึง 3 รอบระยะเวลา คือได้แก่ 7.30 – 15.30 น. 8.30 – 16.30 น. และ 9.30 – 17.30 น. ซึ่งสร้างความยืดหยุ่นในเรื่องของการเดินทางเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการการให้เงินกู้ในกรอบวงเงินต่าง ๆ ตามแต่วัตถุประสงค์ของการกู้โดยปราศจากดอกเบี้ย การให้ทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ รวมถึงการให้เงินกู้เพื่อการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นศูนย์ เป็นต้น ซึ่งล้วนสร้างแรงบันดาลใจและความตั้งใจในการทำงานให้กับผู้เขียนเป็นอย่างยิ่ง
ขอบคุณภาพประกอบจาก unsplash
เหนือสิ่งอื่นใดการให้สวัสดิการเพื่อจูงใจคนรุ่นใหม่เหล่านี้ คือตัวอย่างเพียงบางส่วนซึ่งอาจไม่ตรงตามความต้องการของคนทำงานรุ่นใหม่ทั้งหมด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการจัดสวัสดิการควรขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละองค์กรด้วย สิ่งสำคัญคือความสอดคล้องกับบริบทของสังคมในยุคปัจจุบัน หากมีการจัดสวัสดิการที่มากมายแต่ไม่สามารถตอบสนองหรือถูกจริตความต้องการของคนรุ่นใหม่ ก็ไม่มีทางที่จะจูงใจคนรุ่นใหม่ให้อยู่กับองค์กรหรือแสดงศักยภาพให้ออกมาอย่างเต็มที่ได้ เพราะปัจจัยที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งเพื่อจุดประกายพนักงานให้สามารถปฏิบัติงานออกมาได้อย่างมีคุณภาพกระทั่งทำให้องค์กรมีชัยชนะท่ามกลางสภาวะการแข่งขันได้ นั่นก็คือ “แรงจูงใจ” ของพนักงานทั้งมวลนั่นเอง
ขอบคุณภาพหน้าปกจาก unsplash
ความคิดเห็น
