อื่นๆ
สาระน่ารู้เกี่ยวกับกระต่าย : EP. 6 กระต่ายพันธุ์ไหน ที่ได้รับความนิยม
_0.png)
พบกันอีกครั้งกับ สาระน่ารู้เกี่ยวกับกระต่าย เราเดินทางกันมาถึง EP.6 แต่กว่าจะมาถึง กว่าอีพีนี้จะคลอดได้ ผู้เขียนคิดอยู่นานว่าจะเขียนดีไหม ด้วยเหตุผลที่ว่า สายพันธุ์กระต่ายที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้มีอยู่มาก พันธุ์นั้นก็ดี พันธุ์นี้ก็ใช่ เลยเลือกไม่ถูกว่าจะนำพันธุ์ไหนมาเขียนให้คนที่อยากเลี้ยงกระต่ายอ่านว่าควรจะเลือกกระต่ายพันธุ์ไหนดี แต่จากการสำรวจและสอบถามผู้ที่เลี้ยงกระต่าย ว่าสายพันธุ์ไหนที่ควรจะเลี้ยง และได้รับความนิยม หลังจากที่รวบรวมข้อมูลอยู่นานพอสมควร ก็ได้เวลาแล้วที่จะนำมาให้ทุกคนได้อ่าน ส่วนจะมีพันธุ์ไหนบ้างนั้นไปดูกันเลย
1. พันธุ์ฮอลแลนด์ลอป (Holland Lop) หรือที่ชอบเรียกกันว่า พันธ์ุหูตก ลักษณะของกระต่ายพันธุ์นี้จะมีหูที่ตกเป็นเอกลักษณ์ เป็นกระต่ายพันธุ์หูตกที่เล็กที่สุด มีกะโหลกกลม และมีขนนุ่มลื่น ด้วยความหูตกและความน่ารักของสายพันธุ์นี้ จึงได้รับความนิยมสำหรับคนที่เลี้ยงกระต่าย ทำให้ราคาของสายพันธุ์นี้ก็เอาการอยู่เหมือนกัน
Advertisement
Advertisement
ภาพจาก Pixabay
2. พันธุ์เนเธอร์แลนด์ ดวอร์ฟ (Netherland Dwarf) นิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า ND หรือกระต่ายแคระ ลักษณะของกระต่ายสายพันธุ์นี้อยู่ที่ขนาดของลำตัวที่เล็ก หูตั้ง ดูน่ารัก มีนิสัยตื่นตัวร่าเริง ยิ่งตัวเล็ก ๆ ยิ่งน่าฟัดจริง ๆ แต่อย่าสับสนกับพันธุ์โปลิสนะเพราะมีลักษณะคล้ายกัน
ภาพจาก Pixabay
3. พันธุ์มินิเร็กซ์ (Mini Rex) ชื่อพันธุ์เป็นภาษาลาติน แปลว่า ราชากระต่าย (สมชื่อราชาแห่งกระต่าย เพราะสวยจริง ส่วนตัวผู้เขียนชอบพันธุ์นี้มาก ๆ) กระต่ายสายพันธุ์นี้มีลักษณะเด่นที่ขน มีลักษณะขนเป็นกำมะหยี่ ทั้งหนาและแน่น ขนสวยนุ่มมือมาก คนจะชอบ เพราะเลี้ยงไปแล้วเชื่อง เหมาะสำหรับเด็กเล็ก เพราะปัญหาเรื่องขนน้อย ด้วยความสวยงามของลักษณะกระต่ายพันธุ์นี้จึงเป็นอีกหนึ่งสายพันธ์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้สายพันธุ์อื่น ๆ เลย
Advertisement
Advertisement
ภาพจาก Pixabay
4. พันธ์อิงลิช ลอป (English Lop) ลักษณะเด่นของกระต่ายพันธุ์นี้คือมีใบหูที่ยาว คนที่เลี้ยงสายพันธุ์นี้จะต้อดูแลหูเป็นพิเศษ เพราะกระต่ายอาจจะเหยียบหูของตัวเอง แต่ด้วยลักษณะที่โดเด่น จึงทำให้คนชอบเลี้ยงเช่นเดียวกัน
ภาพจาก Pixabay
5. พันธ์หิมาลายัน (Himalayan rabbit) เป็นกระต่ายที่มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาหิมาลัย จึงได้ชื่อว่าหิมาลายัน ลักษณะเด่นของกระต่ายพันธุ์นี้ คือ มีสีแต้มที่ขน อยู่ที่หู จมูก เท้า และหาง ส่วนที่เหลือเป็นสีขาว ค่อนข้างหาซื้อได้ยาก แต่ด้วยความสวยของมัน กระต่ายพันธุ์นี้จึงได้รับความสนใจมากเลยทีเดียว
ภาพจาก Pixabay
6. พันธ์เท็ดดี้แบร์ (Teddy bear) เป็นกระต่ายขนฟู ๆ ตัวขนาดกลาง ดูแล้วน่ารักน่าเอ็นดู มีหลายสี มักจะพบเห็นได้ง่าย เพราะว่านิยมนำมาขายตามท้องตลาด ได้รับความนิยมเช่นกัน แต่มีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่งคือต้องขยันแปรงขนให้เขาบ่อย ๆ เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาว่างแปรงขน
Advertisement
Advertisement
ภาพจาก Pixabay
7. พันธุ์วู้ดดี้ทอย (woody toy) เป็นกระต่ายที่มีขนฟู นุ่ม ขนาดตัวค่อนข้างเล็ก จะคล้าย ๆ กับเท็ดดี้แบร์ น่ารักน่าเลี้ยงไม่แพ้กัน
ภาพจาก Pixabay
8. พันธุ์ดัช (Dutch Rabbit) เป็นกระต่ายอีกสายพันธุ์ที่มีลักษณะเด่นไม่แพ้สายพันธุ์อื่น จะมีขนสีขาวตั้งแต่ขาหน้า บริเวณปากจนถึงหน้าผาก มาจนถึงคอและหลัง และปลายเท้าหลัง ส่วนอื่นจะเป็นสีอื่นหมด ได้รับความนิยม แต่ราคาก็ค่อนข้างสูง
ภาพจาก Pixabay
9. พันธุ์โปลิส (polish) มีลักษณะขนเป็นเงาตามที่มาของชื่อ เป็นกระต่ายที่มีขนาดเล็ก หูสั้น หลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นพันธุ์เนเธอร์แลนด์ ดวอร์ฟ เพราะว่ามีลักษณะที่คล้ายกัน
ภาพจาก Pixabay
10. พันธ์ไทย (Thai Rabbit) เป็นกระต่ายพื้นบ้านของไทยเลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศประเทศไทย มีลักษณะลำตัวที่ใหญ่ มีหลากหลายสี ราคาค่อนข้างถูก
ภาพจาก Pixabay
นอกจากนี้ยังมีสายพันธุ์อื่นที่ผู้เขียนไม่ได้กล่าวถึง ด้วยความนิยมและราคา ผู้เขียนจึงเลือกมาเพียงเท่านี้ แต่ก็อย่างว่าถ้าเราถูกใจกระต่ายตัวไหนสายพันธุ์ไหนก็เลี้ยงได้หมด ก็มันน่ารักนี่นา สุดท้ายใครที่อยากเลี้ยงกระต่ายไม่ว่าจะสายพันธุ์ไหน ก็อย่าลืมดูแลเอาใจใส่น้องดี ๆ นะ น้องจะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ
จบลงไปแล้วกับ EP.6 และคงจะเป็นอีพีสุดท้ายสำหรับสาระน่ารู้เกี่ยวกับกระต่าย ถ้าหากมีอะไรเกี่ยวกับกระต่ายที่เป็นประโยชน์กับคนที่เลี้ยงกระต่าย และสำหรับคนที่อยากเลี้ยงกระต่ายอีก ผู้เขียนจะนำมาแบ่งปันให้ทุกคนได้อ่านกันนะ ขอบคุณแรงบันดาลใจจากน้องกระต่ายทุกตัวที่ทำให้เกิดทุกบทความเกี่ยวกับกระต่ายขึ้นมาได้ และที่สำคัญขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่านบทความ ยังไงก็ขอฝากบทความดี ๆ ทุก ๆ บทความของ True ID ด้วยนะจ๊ะ
ภาพประกอบปกจาก Pixabay
ออกแบบปกโดย PANGKHAM
ความคิดเห็น






