อื่นๆ

สาวโสด เค้กแต่งงาน และความเชื่อโบราณแสนสนุก

413
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
สาวโสด เค้กแต่งงาน และความเชื่อโบราณแสนสนุก

Cover Image by SplitShire on Pixabay


คุณว่าไฮไลท์ของงานแต่งงานอยู่ตรงไหน ถ้าเป็นสมัยก่อนงานแต่งงานไทย ๆ อาจอยู่ที่พิธีรดน้ำสังข์ แต่สมัยนี้อะไร ๆ ก็เป็นฝรั่ง ฉันว่าไฮไลท์น่าจะย้ายไปอยู่ตรงช่วงบ่าวสาว “ตัดเค้กแต่งงาน”

ในความเป็นจริงแขกเหรื่อน้อยคนสุด ๆ ที่จะกินเค้กแต่งงาน ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเค้กแต่งงานอร่อยไหม เอ๊ะ! แล้วทำไมเราถึงต้องมีเค้กแต่งงานล่ะ

เค้กแต่งงานมีที่มาจากไหน เล่ากันว่าสมัยโบราณ งานแต่งงานฝรั่งเรียบง่ายไม่มีเค้กอะไรวุ่นวายเหมือนสมัยนี้ แขกเหรื่อจะนำก้อนขนมปังติดมือมาคนละก้อน แล้วมาวางรวมกันเป็นชั้น ๆ พอเรียงกันสูงขึ้น ๆ ก็เริ่มเกิดประเพณีสนุก ๆ ให้คู่บ่าวสาวปีนขึ้นไปจูบกันเหนือยอดขนม ถ้าทำสำเร็จชีวิตแต่งงานจะโชคดี

ต่อมาในยุคกลางเริ่มนิยมนำขนมเค้กคนละชิ้นไปมอบให้บ่าวสาวแทนขนมปัง ต่อมาพ่อครัวชาวฝรั่งเศสริเริ่มนำน้ำตาลมาตกแต่งเค้กให้สวยขึ้น จึงเกิดกลายเป็นความนิยมใหม่ในการตกแต่งเค้กสูง ๆ ด้วยน้ำตาลจนงดงามอลังการขึ้นเรื่อย ๆ

Advertisement

Advertisement

เนื้อเค้กสมัยก่อนนั้นเป็นฟรุ๊ตเค้กสีเข้ม เพราะนอกจากจะหนักแน่นแล้วสีน้ำตาลยังบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ จนมาภายหลังนี่เอง ที่คนอเมริกันหันมานิยมเค้กสีขาวเพื่อให้รับกับชุดเจ้าสาวที่แสนบริสุทธิ์

เค้กแต่งงานImage by SvetikSys on Pixabay


ตามประเพณีดั้งเดิมนั้น เค้กแต่งงานจะยังไม่ถูกตัดจนกว่าเมื่อถึงเวลางานเลิก และคนที่มีสิทธิตัดเค้กต้องเป็นเจ้าสาวคนเดียว เพื่อเป็นนัยยะว่าความบริสุทธิ์ของเจ้าสาวกำลังจะหมดสิ้นในคืนนี้

แต่ปัจจุบันธรรมเนียมตัดเค้กเปลี่ยนไป เจ้าบ่าวต้องช่วยเจ้าสาวตัดเค้ก และต้องกินชิ้นแรกด้วยกัน เพื่อเป็นความหมายว่ามีอะไรต้องแบ่งปันกันตลอดนับแต่บัดนี้

ส่วนยอดเค้กนั้น สมัยก่อนบ่าวสาวจะช่วยกันตัดเก็บแช่ตู้เย็นไว้เพื่อฉลองในวันที่ได้ลูกคนแรก แต่ปัจจุบันนิยมเก็บไว้แล้วนำออกมาฉลองอีกครั้งในวันครบรอบแต่งงานปีแรก

Advertisement

Advertisement

เค้กแต่งงานImage by Dorigo on Pixabay


นอกจากประเพณีเค้กแต่งงานส่วนที่เกี่ยวกับบ่าวสาว ฉันยังได้ยินมาว่าในละแวกนิวออร์ลีนส์ เขามีประเพณีเค้กแต่งงานที่เกี่ยวกับเพื่อนเจ้าสาวด้วย โชคดีที่ไม่มีการแย่งชิงกันเหมือนช่วงเจ้าสาวโยนช่อดอกไม้ ประเพณีนี้น่ารักมากเรียกว่า “Cake Pull”  หรือ “Ribbon pull”

โดยก่อนที่เจ้าสาวจะลงมือตัดเค้ก เธอจะเชิญเพื่อนสาวโสดของเธอมายืนล้อมรอบโต๊ะเค้ก ซึ่งเค้กนี้ผู้อบเค้กจะซ่อนเครื่องรางทำด้วยเงินไว้ในเนื้อเค้ก แล้วผูกริบบิ้นแดงตรงปลายก่อนนำไปใส่ในเค้กโดยให้ชายริบบิ้นห้อยออกมา

เพื่อนเจ้าสาวImage by Strawstrider on Pixabay


เมื่อเจ้าสาวนับหนึ่งถึงสาม เพื่อนเจ้าสาวโสด ๆ จะเลือกดึงริบบิ้นพร้อมกัน ใครดึงได้ริบบิ้นที่ผูกติดกับสัญลักษณ์ใด เท่ากับคนนั้นได้รับคำทำนายว่าจะประสบกับสิ่งนั้น  โดยสัญลักษณ์ 8 อย่าง 8 ความหมายที่ถูกใช้บ่อยที่สุดในเค้กมีดังนี้ 

Advertisement

Advertisement

  • แหวน - จะได้แต่งงานเป็นรายต่อไป
  • หัวใจ  - จะได้พบรัก
  • ใบโคลเวอร์  - จะมีโชคลาภ
  • โทรศัพท์  - จะมีข่าวดี
  • สมอ  - จะได้ผจญภัย
  • ดอกไม้  - ความรักจะเริ่มเบ่งบาน
  • เหรียญเพนนี -  จะยากจน
  • ปลอกนิ้วสำหรับเย็บผ้า - จะขึ้นคาน

ดังนั้นไฮไลท์น่าจะอยู่ที่ใครจะได้ “แหวน” นี่ล่ะ เขากระซิบกันว่าส่วนใหญ่มันจะอยู่ในริบบิ้นอันที่ใกล้ตัวเจ้าสาวมากที่สุด

เพื่อนเจ้าสาวImage by Starflames on Pixabay


แม้สาวไทยไม่มีโอกาสสนุกกับเค้กเสี่ยงทาย เพราะไม่มีใครยอมอบเค้กทำนายอนาคตแบบนี้ให้ดึง แต่อย่าเพิ่งใจเสีย เพราะยังมีความเชื่อโบราณอีกหนึ่งอย่าง เผื่อคุณผู้อ่านสาวโสดจะแอบไปเล่นสนุกในงานแต่งงานคนเดียวได้

คราวหน้าหากได้รับเค้กแต่งงาน ขอให้สาวโสดแอบนำเค้กกลับบ้าน แล้วให้นำเค้กแต่งงานชิ้นเล็ก ๆ ใส่กล่องไว้ใต้หมอน ก่อนที่จะนอนหลับแล้วฝันหวาน

เชื่อกันว่าคนที่คุณได้เห็นในฝันคืนนั้น นั่นคือเจ้าบ่าวในอนาคตของคุณ!

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์