อื่นๆ
ส่องวลีเด็ด “ดาบพิฆาตอสูร” เพิ่มพูนพลังบวก

จบไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ อนิเมะเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร ซีซั่น 2 ย่านเริงรมย์ (Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba Entertainment District Arc) ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนๆ เสมอมา ไม่ว่าจะเป็นเสียงพากย์ที่ลงตัวกับบุคลิกลักษณะนิสัย และสามารถสื่ออารมณ์ความรู้สึกของตัวละครออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ภาพเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นถึงฉากต่อสู้ที่สวยงามอลังการไม่แพ้ ซีซั่นก่อนหน้านี้ โดยในแต่ละตอนนั้นเรียกได้ว่าทุ่มทุนสร้างด้วยเม็ดเงินมหาศาลกันเลยทีเดียว นอกจากนี้แล้วตัวแปรสำคัญที่ผู้เขียนคิดว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้อนิเมะเรื่องนี้โด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และเป็นอนิเมะในดวงใจของใครหลายๆคน นั่นก็คือเนื้อเรื่องของอนิเมะเรื่องนี้นั่นเองครับ จึงเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ผู้เขียนมีความสนใจที่จะรวบรวมและวิเคราะห์เรื่องราวที่ประทับใจ ประโยค หรือถ้อยคำของตัวละคร ตลอดจนข้อคิดที่ได้รับจากเรื่อง "ดาบพิฆาตอสูร" ที่จะเสริมสร้างกำลังใจและก่อให้เกิดพลังพวกแก่ทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้
Advertisement
Advertisement

พยายามเข้าทันจิโร่ ข้าทำได้ดีมาตลอดข้าเป็นคนมีความสามารถ และวันนี้ หรือต่อจากนี้ หรือวันที่ย่ำแย่กว่านี้ ข้าจะไม่มีทางท้อถอยเด็ดขาด
ทันจิโร่ พูดให้กำลังใจตัวเอง ในขณะที่เขากำลังต่อสู้กับอดีตอสูรข้างแรมที่ใช้กลองเป็นมนต์อสูรโลหิตในการต่อสู้ การตีกลองเพื่อสร้างการโจมตีเสมือนกรงเล็บขนาดใหญ่ และทำให้ห้องสี่เหลี่ยมพลิกกลับไปกลับมาได้ทำให้ทันจิโร่ทรงตัวลำบาก บวกกับกระดูกที่ร้าวจากการต่อสู้กับอสูรก่อนหน้านี้ยังไม่หายดีนัก เขาได้พยายามอดทนอย่างหนักเพื่อตั้งรับการโจมตีที่หนักหน่วงจากอสูร จนในที่สุดเขามองการโจมตีออก และสามารถเอาชนะมาได้ในที่สุด
คำพูดของทันจิโร่แสดงให้เห็นถึงความพยายามและความเชื่อมั่นในตนเองอย่างแรงกล้า เมื่อเราเจอกับปัญหาหรืออุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ความเชื่อมั่นในตัวเองเชื่อว่าเราทำได้ และการพูดให้กำลังใจตัวเองนั้น คือสิ่งที่จะช่วยเสริมพลังบวกให้เรามีแรงฮึดสู้ขึ้นมา แล้วก้าวข้ามทุกปัญหาและอุปสรรคขวากหนามไปได้อย่างแน่นอน
Advertisement
Advertisement

ไม่เป็นไรเซนอิทซึ แค่นี้ก็ดีแล้ว ได้แค่ท่าเดียวก็ยอดเยี่ยมแล้ว ถึงจะได้แค่กระบวนท่าเดียว ก็จงขัดเกลาฝีมือซะ จงขัดเกลาให้ถึงจุดสุดยอด
ณ หุบเขานาตะงุโมะ เซนอิทซึที่กำลังเผชิญหน้ากับพี่ชายอสูรแมงมุม เขาถูกแมงมุมกัดโดยไม่รู้ตัว พิษของแมงมุมนั้นจะทำให้ผู้ที่ถูกกัดกลายเป็นแมงมุมภายในเวลา30นาที และตกเป็นทาสบริวารของ พี่ชายอสูรแมงมุม พิษจะค่อยๆออกฤทธิ์ตามลำดับ ในขณะนั้นเอง เซนอิทซึ ที่กำลังหวาดกลัวต่ออสูร และท้อแท้สิ้นหวังที่ตนจะต้องกลายเป็นแมงมุมน่าขยะแขยง ได้แต่ตัดพ้อ ร้องไห้คร่ำครวญ ก่อนจะหมดสติไปเขาก็ได้นึกย้อนถึงอดีตก่อนที่จะมาเป็นนักดาบ คำพูดของปู่จิโกโระนั้นช่วยเขาไว้ได้เสมอเมื่อเขาต้องเผชิญกับความอ่อนแอในจิตใจ ในขณะที่เขาหลับอยู่นั้นความกลัว ความขี้ขลาดหายไปจนหมดสิ้น บรรยากาศเปลี่ยนไป เขาดูเป็นคนละคนแตกต่างจากเดิมราวฟ้ากับเหว และใช้กระบวนท่าที่ 1 เอาชนะพี่ชายอสูรมาได้ทั้งๆที่เขายังคงหมดสติอยู่อย่างนั้น
Advertisement
Advertisement
ถึงจะได้แค่กระบวนท่าเดียว ก็จงขัดเกลาฝีมือซะ จงขัดเกลาให้ถึงจุดสุดยอด คำสอนนี้ของปู่จิโกโระ สามารถนำมาปรับใช้ได้ในชีวิตจริง และยังเป็นแรงผลักดันให้เราได้ทำในสิ่งที่ชอบและถนัดแม้ว่าเราจะไม่ใช่คนที่เก่งรอบด้าน ก็จงศึกษาค้นคว้าในด้านที่สนใจ ขัดเกลาจนเกิดเป็นความชำนาญในที่สุด

ข้าดูเหมือนคนมีพรสวรรค์งั้นรึ? ถ้าคนอย่างข้าดูเป็นแบบนั้นล่ะก็ คนอย่างแกคงไม่เคยเจอเรื่องทุกข์ยากเลยล่ะสิ แกมีอายุหลายร้อยปีแต่กลับกักขังตัวเองอยู่ในที่พันนี้ จะไม่รู้เรื่องราวโลกภายนอกเลยก็ช่วยไม่ได้ ประเทศนี้มันกว้างใหญ่ มีคนมีฝีมือเดินกันขวักไขว่ มีคนประหลาดที่เต็มไปด้วยปริศนา คนที่จับดาบเพียง 2 เดือน ก็ไต่เต้าจนเป็นเสาหลักได้ ตัวข้าเนี่ยนะผู้ถูกเลือก? อย่ามาพูดบ้าๆน่า คิดว่าที่ผ่านมามีคนต้องสังเวยชีวิตเพื่อข้าไปเท่าไหร่กัน
ข้อความข้างต้น คือ สิ่งที่เสาหลักเสียง อุซุย เทนเง็นกล่าวกับอสูรข้างขึ้นที่ 6 กิวทาโร่ที่เอาแต่ชื่นชมว่าเขาเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ เป็นนักล่าอสูรที่ไม่มีแม้รอยแผลเป็นบนร่างกาย ถึงจะถูกโจมตีด้วยอาวุธของกิวทาโร่ที่มีพิษร้ายแรงและไม่เคยมีใครรอดชีวิตไปได้ แต่ทว่าเทนเง็นยังคงยืนหยัดสู้ได้อย่างสง่างาม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่กิวทาโร่จะมองว่าเขาเป็นมนุษย์ที่ถูกเลือกเป็นคนที่มีพรสรรค์ แต่หารู้ไม่ว่าเส้นทางชีวิตของเทนเง็นก่อนจะไต่เต้ามาเป็นเสาหลักของหน่วยพิฆาตอสูรนั้นสุดแสนจะทรหด พ่อที่ใจร้อนเพราะอยากจะฟื้นฟูตระกูลนินจาที่กำลังตกต่ำ จึงเคี่ยวกรำฝึกซ้อมพวกเขาอย่างหนัก เขาเป็นเพียงนินจา 1 ใน 2จากพี่น้อง9คน ที่รอดชีวิตมาได้
อุซุย เทนเง็น ได้สะท้อนให้เราเห็นถึงความพยายามและความอดทนของตน กว่าที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ไม่ได้เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ แต่หากมีความมุ่งมั่นพยายามก็จะก้าวข้ามขีดจำกัดความสารถได้เช่นกัน

"จงใช้ชีวิตอย่างภาคภูมิ" ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับความอ่อนแอและความขลาดกลัวของตน จงปลุกไฟในตัวให้ลุกโชนกัดฟันแล้วมุ่งหน้าต่อไป หากหยุดฝีเท้าแล้วหมอบคู้กาลเวลาจะไม่หยุดรอ ไม่มีสิ่งใดเศร้าหมองไปพร้อมกับนายหรอกนะ
เป็นส่วนหนึ่งในคำสั่งเสียของ เสาหลักเพลิง เรนโงคุ เคียวจูโร่ หลังจากที่พวกทันจิโร่และเคียวจูโร่เอาชนะอสูรข้างแรมที่หนึ่ง "เอนมุ" มาได้นั้น จู่ๆ อสูรข้างขึ้นที่สาม "อาคาสะ" ก็ปรากฎตัวขึ้น พร้อมกับพุ่งการโจมตีไปที่ทันจิโร่ที่กำลังบาดเจ็บอยู่ ขณะนั้น ในทันที แต่เคียวจูโร่สามารถอ่านการโจมตีได้ทัน จึงสามารถปัดการโจมตีและปกป้องพระเอกของเราเอาไว้ได้ เกิดการต่อสู้ระหว่างเสาหลักและอสูรข้างขึ้น เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด ทันจิโร่ และอิโนะสุเกะ ทำได้เพียงยืนมองการต่อสู้ ไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยได้เลย เพราะแม้แต่การเคลื่อนไหวของทั้งสองพวกเขาก็ยังมองไม่ทัน จนในที่สุดเคียวจูโร่ก็สามารถรั้งอาคาสะไว้ได้ถึงเช้า อสูรไม่สามารถอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ได้ จึงพยายามตะเกียงตะกายหนีไปในที่สุด แต่เคียวจูโร่นั้นบาดเจ็ดสาหัสและเสียเลือดมาก เขารู้ตัวเองดีว่าจะต้องตายในไม่ช้า จึงได้สั่งเสียกับพวกทันจิโร่เป็นครั้งสุดท้าย เขายิ้มออกมาอย่างเปล่งประกายด้วยความภาคภูมิ ก่อนจะสิ้นลมหายใจไปในที่สุด ถึงเขาจะไม่สามารถเอาชนะอสูรข้างขึ้นที่สาม แต่เขาก็สามารถปกป้องชีวิตของทุกคนเอาไว้ได้ และเชื่อเหลือเกินว่าเคียวจูโร่นั้นสามารถเอาชนะใจแฟนคลับทั่วทุกมุมโลกได้อย่างแน่นอน
จงใช้ชีวิตอย่างภาคภูมิ คือถ้อยคำที่มักจะใช้อวยพรแก่เหล่าหลักล่าอสูรให้มีกำลังใจก่อนออกไปปฏิบัติหน้าที่ในทุกครั้ง ให้ยึดมั่นในความดี มุ่งมั่นทำในสิ่งที่ถูกต้อง ตระหนักในหน้าที่และจุดยืนของตน อย่าให้จุดยืนนั้นต้องมัวหมอง ให้เราใช้ชีวิตอย่างสง่างาม

ผม เกิดมาเพื่อมีความสุข
ในโลกหลังความตายของ โทคิโท มุอิจิโร ที่เสียชีวิตจากการต่อสู้กับอสูรข้างขึ้นที่หนึ่ง "โคคุชิโบ" เขาได้พบเจอกับพี่ชายฝาแฝดของเขาอีกครั้ง พี่ชายต่อว่าเขาที่ไม่ยอมหนีจากการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด เขาเพิ่งจะอายุได้ 14ปี ไม่ควรต้องมีจุดจบแบบนี้ ตายอย่างไร้ความหมาย แล้วจะเกิดมาเพื่ออะไร มุอิจิโร่ ที่พยายามอย่างหนักเขาเพียงต้องการคำชื่นชมจากพี่ชายเท่านั้น เขาไม่สามารถทิ้งพวกพ้องแล้วเอาชีวิตรอดไปคนเดียวได้ เขาเข้าใจดีว่าเขานั้นเกิดมาเพื่ออะไร ทั้งตัวมุอิจิโร่เอง หรือว่าใคร ต่างก็เกิดมาเพื่อมีความสุขกันทั้งนั้น เราต่างก็มีช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในชีวิตที่ทำให้รู้สึกว่ามีความสุขที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้ แม้ในช่วงที่ยากลำบาก ทุกข์ทรมาน ก็ยังมีพรรคพวกที่ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสนุกสนานจึงทำให้เขากลับมายิ้มได้อีกครั้ง เขาไม่เสียใจเลยที่เอาชีวิตเข้าแลกเพื่อพวกพ้อง การตายของเขาจึงไม่ได้ไร้ความหมาย พี่ชายของเขาเข้าใจดี แต่ที่พูดออกไปแบบนั้นก็เพราะความรักที่มีต่อน้องชาย เขาปรารถนาที่จะให้น้องชายได้มีชีวิตที่ยืนยาวและอยู่อย่างมีความสุขต่อไป
คนเราเกิดมาต่างก็ตั้งคำถามแบบเดียวกันที่ว่า "เราเกิดมาทำไม" จะดีแค่ไหนกันหากเราทุกคนต่างบอกย้ำกับตัวเองอยู่เสมอว่าเรานั้น "เกิดมาเพื่อมีความสุข" แม้ว่าจะเจอเรื่องทุกข์ยากในชีวิตมามากมายเพียงใดก็ตาม หากเป้าหมายชัดเจนแล้วว่าเราเกิดมาเพื่อมีความสุข ก็จงลุกขึ้นสู้เอาชนะใจตัวเองแล้วใช้ชีวิตให้มีความสุขดั่งใจปอง
ยังมีถ้อยคำมีอีกมายที่จะเสริมสร้างพลังใจ ให้เราสู้ชีวิตและก้าวข้ามทุกๆอุปสรรคไปได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือตัวของเราเอง ว่าจะกล้าก้าวขาออกมาเผชิญหน้ากับปัญหาและอุปสรรคต่างๆในชีวิตหรือไม่ หากหยุดฝีเท้าแล้วหมอบคู้กาลเวลาจะไม่หยุดรอ หากไม่มีความพยายาม ก็จะไม่มีทางพบเจอกับความสำเร็จ จงกล้าที่จะออกมาใช้ชีวิต ทำในสิ่งที่ตนรักด้วยใจที่มุ่งมั่น เราต่างก็เกิดมาเพื่อมีความสุข จงปลุกไฟในตัวให้ลุกโชนกัดฟันแล้วมุ่งหน้าต่อไป
ขอบคุณรูปภาพจาก : Ufotabel / FB : Demon slayer:kimetzu no Yaiba / Twitter@kimetzu_off
รูปภาพหน้าปก : หน้าปก , ภาพประอบหน้าปก1, ภาพประกอบหน้าปก2
รูปภาพประกอบบทความ : ภาพ1ทันจิโร่ , ภาพ2ปู่จิโกโระ , ภาพ3เทนเง็น , ภาพ4เคียวจูโร่ , ภาพ5มุอิจิโร่
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ความคิดเห็น






