หงุดหงิด ชีวิตเปลี่ยน [Rapid Mood Swings]

อารมณ์แปรปรวน ใจร้อนผิดปกติ หงุดหงิดง่ายมาก อาการทางอารมณ์เหล่านี้อาจเป็นไปโดยธรรมชาติ หรือเกิดจากอาการเจ็บป่วยภายในก็เป็นได้ ความแปรปรวนของอารมณ์นั้นมนุษย์ทุกคนมีอยู่แล้ว และเกิดขึ้นได้เป็นปกติ แต่หากอารมณ์แปรปรวนจนสุดขั้ว จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของตนเอง และส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง จากผลการศึกษามหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น สหรัฐอเมริกา วิจัยออกมาว่าคนที่หงุดหงิดง่าย อาการฟิวส์ขาดบ่อย ๆ ความอดทนต่ำนั้น จะมีโอกาสเป็นโรคความดันโลหิตสูงมากกว่าคนปกติถึง 2 เท่า และส่งผลไปถึงอาการเริ่มต้นของโรคไมเกรน โรคสมาธิสั้น และโรคไบโพลาร์ ได้เช่นกันด้วย

คนที่หงุดหงิดง่ายอาจจะเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย อาจจะเป็นการเปลี่ยนช่วงวัย หรือผู้หญิงช่วงมีประจำเดือน ภาวะพร่องฮอร์โมน  ความเครียดสะสม บางคนอาจเกิดขึ้นเพราะมีปัญหาบุคลิกภาพ จนขาดสติ ขาดทักษะในการควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีพอ อย่าให้อารมณ์หงุดหงิดแปรปรวน มาทำลายสภาพจิตใจของคุณ เราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะความอดทนไม่ใช่นิสัย แต่ฝึกทักษะกันได้
ขอบคุณภาพจาก pxhere

ขอบคุณภาพจาก pxhere

ขอเวลานอกให้ตัวเอง ในชีวิตประจำวัน หรือในหน้าที่การงานที่ต้องพูดคุยกับผู้คนมากมาย อาจมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน ทำให้หงุดหงิด และพออารมณ์เสียในบางเรื่องแล้วเกิดอาการจี๊ดขึ้นสมอง มีเสียงตะโกนก้องขึ้นมาในหัวว่า ทนไม่ไหวอีกแล้ว (โว้ย!!) ให้รีบเดินออกจากจุดนั้นไปอยู่อีกมุมหนึ่งไกล ๆ เลย สงบสติอารณ์ หลับตาแล้วสูดหายใจให้ลึก ๆ เข้าออก นึกถึงเรื่องอื่นที่ทำให้สบายใจ อดทนแค่ไม่กี่อึดใจ ก็จะช่วยให้มีผลดีต่อสุขภาพชีวิตระงับรับมือกับอารมณ์แปรปรวนได้เรื่องราวดี ๆ ก็จะตามมาเอง ขอบคุณภาพจาก pxhere

รีบปรับความรู้สึกให้กลับคืนมา เวลาโมโห หงุดหงิด ของขึ้นจากเรื่องราวต่าง ๆ แน่นอนล่ะว่าความคุกรุ่นยังคงมีอยู่แน่ ตัวยังสั่นเทา ไฟในหัวใจยังคงลุกโชน จนบางครั้งกลายเป็นความกดดันตัวเองว่า ต้องโกรธ ต้องโมโห จนทำให้อารมณ์เหล่านี้เข้ามาควบคุมความคิด หากอารมณ์แปรปรวนกับเพื่อนร่วมงานแล้ว อาจจะถูกมองว่าเป็นคนไร้วุฒิภาวะเอาได้ง่าย ๆ หากเป็นเรื่องครอบครัว คนใกล้ชิด อาการโกรธง่ายหายยากก็จะส่งผลเสียมากกว่าผลดี ทั้งในเรื่องทักษะการควบคุมอารมณ์ตัวเอง เพราะฉะนั้นหาทางเรียกสติกลับคืนมาให้เร็วที่สุด กลับมาพูดคุยอย่างมีเหตุมีผล จะทำให้ลดภาวะความเครียดลงได้ทั้งสองฝ่าย

ขอบคุณภาพจาก pxhere

อย่างที่บอกไปว่า อาการหงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน ไม่ใช่นิสัย สามารถฝึกฝนกันได้ แต่หากไม่ใส่ใจปล่อยเลยผ่าน จนกลายเป็นอาการของโรคต่าง ๆ แล้ว ก็จะเกินควบคุม และส่งผลกระทบตามมาอีกหลายอย่าง รีบทำความเข้าใจกับตัวเองให้เร็วที่สุด พักผ่อนให้เพียงพอ ฝึกทำใจให้สบายมองไปที่ไกล ๆ โล่ง ๆ สีเขียวของต้นไม้จะช่วยให้ความปลอดโปร่ง แต่หากมีอาการเหล่านี้มากขึ้นจนรู้สึกผิดปกติแล้วล่ะก็ เบื้องต้นควรเริ่มจดบันทึกความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ อาการหงุดหงิดขี้โมโหไว้ทุกครั้ง แล้วนำไปปรึกษาแพทย์ เพื่อหาทางแก้ให้กลับมาเป็นคนอารมณ์ดีดังเดิม   

ขอบคุณภาพปกจาก pxhere