หลักคิดดี ๆ "อย่าย้ำรอยอดีต" จงอยู่กับปัจจุบัน

วันเวลาทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ทั้งหมดมีความเกี่ยวพันกับชีวิตเราจะมองอดีต ปัจจุบัน และอนาคตอย่างไร จึงจะเป็นประโยชน์ เป็นเรื่องน่าคิด เราควรให้ความสำคัญกับชีวิตและเวลาไว้ค่ะ อย่างเช่น แนวคิดทางพุทธศาสนาที่เราเคยร่ำเรียนกันมาว่า “อดีตนั้นล่วงเลยไปแล้วในอนาคตอย่าไปมัวกังวล ปัจจุบันนั้นสำคัญอย่างยิ่ง จงทำประโยชน์ให้เกิดขึ้นทุกขณะค่ะ” 

                                                                                  ขอบคุณภาพจาก freepik.com

เราควรมองมาที่ปัจจุบัน หรือปัจจุบันขณะเป็นสำคัญให้มีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ทำไมต้องเน้นแบบนี้ ก็เพราะว่า “วันวานเป็นเพียงความฝัน และวันพรุ่งนี้เป็นเพียงภาพนิมิต แต่วันนี้ที่ได้ใช้ชีวิตผ่านไปด้วยดีจะทำให้วันวานเป็นความฝันถึงความ ผาสุก และวันพรุ่งนี้เป็นนิมิตแห่งความหวัง”

เพราะฉะนั้นเราไม่ควรวิตกกังวลเรื่องในอนาคตให้มากนักว่าจะเป็นยังไงและไม่ย้ำรอยอดีตที่ผ่านไปแล้วมันไม่มีหวนกลับคืนมาอีก ปัจจุบันนี้ต่างหากที่เราควรจริงจัง ใส่ใสให้มาก อยู่กับปัจจุบันอย่างรู้ตัวและมีสติค่ะ

                                                                                  ขอบคุณภาพจาก freepik.com

บางคนเวลาผิดหวังก็มานั่งเศร้า เฝ้าระลึกถึงความเสียหาย โทษตัวเองว่าหมดความหมาย ไร้ค่า ที่จริงชีวิตคนเราย่อมมีปัญหา ชีวิตคือปัญหา ทุกอย่างเราต้องเผชิญหน้า ยามใดที่จิตใจเป็นสุขดูเหมือนเวลาจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชีวิตยามรักช่วงสดใสรื่นรมย์ซะเหลือเกิน ยามพลาดรักหรือผิดหวังในเรื่องการงานไม่ประสบความสำเร็จ ปล่อยให้จิตใจอยู่ในห้วงทุกข์ หดหู่ เหี่ยวเฉา เหมือนดอกไม้แห้งหรือกิ่งไม้สดที่ถูกตัดโค่นนำมาอยู่กลางแดด ย่อมแห้งเกี่ยวเช่นเดียวกับจิตใจในขณะที่มีทุกข์ 

                                                                                  ขอบคุณภาพจาก freepik.com

ที่จริงแล้วทุกข์เป็นสิ่งที่เราทำเองและทดสอบความคิดจิตใจคนควรมองปัญหาให้เป็นประโยชน์ เป็นบทเรียนล้ำค่า ราคาแพง มองอุปสรรคให้เป็นอุปกรณ์เครื่องสอนใจ อย่าทำให้ผิดซ้ำรอยเดิม แต่จะเสริมสร้างความแกร่งให้ชีวิต ถ้าใจเรายอมแพ้คุณก็จะแพ้ ถ้าใจสู้คุณอยู่ได้ 

หากจะคิดถึงอดีตก็จงคิดหรือมองเพื่อนาคตว่าจะทำยังไงที่จะคิดแต่สิ่งที่ดีงาม เป็นสุข จะเพิ่มคุณค่าให้ชีวิต ส่วนที่เลวร้ายรอยอดีตที่เป็นรอยซ้ำหรือจุดเจ็บในดวงใจปล่อยไปซะบ้าง เหมือนข้อคิดที่ว่าเอาความขมขื่นไปทิ้งแม่น้ำ... น้ำล้างแผลใจต้องใช้น้ำที่สะอาด คือความที่ดีต่อตัวเอง ตัวเรายังไม่ไร้ค่า เงินทองยังหาได้ ถ้ายังมีลมหายใจอยู่และใจสู้ จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด และเชื่อมั่นอยู่เสมอ เราลิขิตชีวิตเราได้อยากสำเร็จให้ใจคิดถึงความสำเร็จและลงมือทำเดี๋ยวนี้ วันนี้ อดีตก็คืออดีต 

                                                                                  ขอบคุณภาพจาก freepik.com

• เราจะทำยังไงกับวันนี้ ขณะนี้ นี่คือหน้าที่ของเราค่ะ เวลาปัจจุบันคือเวลาสร้างทางชีวิตให้สดใส เรามีหน้าอะไรอยู่ก็จงรีบทำซะในวันนี้ ด้วยความเพียรพยายามอยู่อย่างมีสติว่า ชีวิตเราสั้นนัก ใครจะรู้ว่าความตายจะมาถึงเมื่อไหร่อย่าปล่อยเวลาให้ล่วงไปอย่างไร้ประโยชน์  
• เราจะมีชีวิตอยู่อย่างคนมีสติ ทุกขณะที่คิด ทุกภารกิจที่ทำ และทุกคนที่จะพูดจะคิดดี พูดดี และทำดีไว้เสมอ ๆ
• เราจะมีชีวิตอย่างคนที่ตื่นตัว ว่องไว กระฉับกระเฉง จะเป้นคนวัยหนุ่มหรือชราย่อมไม่แพ้กันหรอก หากจิตใจใฝ่พัฒนา บางคนร่างกายแก่ แต่ใจหนุ่ม ยังมุ่งมั่นเรียนรู้ คนหนุ่มหากใจไม่มุ่งมั่น ขยันในหน้าที่ก็เสมือนแก่แล้ว 

“ทุกเวลา ทุกนาทีอย่าใส่ความแก่ทางความคิด ทำจิตใจให้หดหู่ ซึมเศร้า ดูเหมือนคนไร้เป้าหมาย คนเราจะดีได้อยู่อย่างมีความหวังและพากเพียรเรื่อยไป ชีวิตหนทางใหม่จะสดใสแน่นอน” 

เพราะฉะนั้นแล้ว ทุกวันจงคิดถึงภาระหน้าที่ ยินดีทำงานด้วยความเบิกบานด้วยความรับผิดชอบ นำตัวเอง มีวินัยในตัวเอง ร่างกายก็จะสะอาดต้องหมั่นขัด หมั่นถู จิตใจจะมุ่งมั่นต้องหมั่นปลุกใจตัวเอง ให้กำลังใจตัวเอง  

“วันนี้ ที่นี่และเดี๋ยวนี้ จงเร่งทำภารกิจหน้าที่ให้ดี บริบูรณ์ สมบูรณ์ เต็มที่ทุกวัน เติมฝันให้เป็นจริง ลบรอยอดีตแล้วมาวาดหวังในสิ่งใหม่จะดีกว่า วันนี้จะตื่นตัว ตั้งใจทำงาน”  

หวังว่าทุกคนจะชอบบทความที่เราเขียนนะคะ เพื่อเป็นการให้ทุกคนได้ข้ามผ่าน ปล่อยวางอดีต และทำปัจจุบันให้ดีที่สุดนะคะ 

ขอบคุณภาพปกจาก freepik.com