อื่นๆ
‘หัดแมว’ ฝันร้ายของทาสแมว

‘หัดแมว’ ฝันร้ายของทาสแมว
ผู้เขียน หญิงหลง
วันที่ 2/14/2020
สำหรับบทความในวันนี้ หญิงหลงไม่ได้พาทุกคนไปร้านกาแฟหรือเที่ยวที่ไหน แต่จะมาเล่าประสบการณ์ของนางทาสเกี่ยวกับโรคหัดแมวกันค่ะ
ก่อนอื่นต้องบอกว่าหญิงหลงเพิ่งสูญเสียหลานๆของหญิงหลงไปทั้งหมดเจ็ดตัวด้วยโรคหัดแมวตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์2563 มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับครอบครัวของหญิงหลงมากๆ วันนี้หญิงหลงเลยจะขอนำเสนอความรู้เรื่องโรคหัดแมวกันค่ะ

โรคหัดแมว หรือ โรคลำไส้อักเสบติดต่อในแมว เป็นโรคติดต่อ พบได้ทุกช่วงอายุของแมว แต่จะพบมากในแมวที่มีอายุน้อย หรือ แมวเด็ก และแมวที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนมาก่อน
หากแมวที่ได้รับเชื้อนี้แล้ว เชื้อจะทำการฟักตัวในร่างกายประมาณ 1-2 อาทิตย์ อัตราการเสียชีวิตอยู่ระหว่าง 25-90 เปอร์เซ็นต์

อาการของโรค: สำหรับอาการของโรคหัดแมวในระยะเริ่มแรก แมวจะมีอาการซึม เบื่ออาหาร ไม่ทานข้าวทานน้ำ และหลบซ่อนตัว บางตัวอาจมีไข้หรือไม่มีไข้ก็ได้ ในกรณีที่อาการเริ่มรุนแรงขึ้น จะมีอาการอาเจียนเป็นฟอง ถ่ายเหลว หรือ ถ่ายเป็นเลือด มีกลิ่นคาว และเมื่อทำการตรวจจะพบว่าแมวที่ได้รับเชื้ออาจมีภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ
Advertisement
Advertisement
โรคนี้ติดต่อกันได้อย่างไร: การแพร่ระบาดของโรคนี้มักจะติดต่อกันโดยสารคัดหลั่งเช่น อุจจาระ ปัสสาวะ หรือ น้ำลาย เพราะฉะนั้นเจ้าของจึงควรหมั่นทำความสะอาดภาชนะใส่น้ำและอาหาร กรง หรือ บริเวณที่แมวของท่านอยู่ให้สะอาดอยู่เสมอ นอกจากนี้หากเจ้าของไปสัมผัสกับแมวจรจัด หรือ แมวตัวอื่นที่ไม่ใช่แมวเรา ควรล้างมือให้สะอาดก่อนจะมาสัมผัสแมวของตัวเองเพราะเชื้อโรคอาจจะติดอยู่ที่มือของเรา หรือ เสื้อผ้าของเราได้

การรักษา: การรักษาโรคนี้เป็นการรักษาตามอาการ และมีตัวยาที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และยาสร้างเม็ดเลือดขาว ซึ่งยาเหล่านี้จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่หากแมวที่เรารักป่วย เราก็พร้อมสู้ค่ะ ในบางรายที่มีอาการอ่อนเพลียและไม่ทานอาหารเลย คุณหมอก็จะเติมน้ำเกลือให้ค่ะ หลานๆของหญิงหลงแต่ละตัวแอดมิทอยู่ที่โรงพยาบาลสิบกว่าวัน ก็รักษาตามอาการกันไปค่ะ อาการจะดีขึ้นหรือแย่ลงขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของแมวๆแต่ละตัวค่ะ แต่กำลังใจก็สำคัญ เจ้าของควรหาเวลาไปเยี่ยมน้องๆนะคะ หากน้องๆแอดมิทอยู่ที่โรงพยาบาล
Advertisement
Advertisement

โอกาสรอด: ต้องเรียนตามตรงว่า โรคนี้โอกาสรอดและเสียชีวิตอยู่ที่ 50/50 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างเช่น ภูมิคุ้มกันของแมวแต่ละตัว หรือ การสัมผัสเชื้อมากน้อย แต่ไม่ใช่ว่าติดโรคนี้แล้วจะต้องเสียชีวิตทุกตัวนะคะ บางตัวก็รอดนะคะอย่างหลานของหญิงหลงทั้งสามตัวไง
วิธีการป้องกัน: วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนค่ะ แต่คงต้องบอกว่าการฉีดวัคซีนเป็นการลดความเสี่ยงมากกว่าค่ะ เพราะถึงจะฉีดวัคซีนแล้วก็มีโอกาสเป็นค่ะ แต่จะมีความเสี่ยงน้อยกว่ามาก และหากติดโรค อาการจะมีความรุนแรงน้อยกว่า และมีโอกาสรอดชีวิตมากกว่าค่ะ หากพบว่าแมวตัวไหนมีอาการป่วยให้รีบแยกแมวป่วยจากแมวปกติทันที และทำการล้างภาชนะใส่อาหารและกรงเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อนะคะ

การดูแลหลังหายจากโรค: หลานๆของหญิงหลงอยู่ที่โรงพยาบาลสิบกว่าวันเลยค่ะ ก่อนกลับบ้านคุณหมอจะทำการตรวจโรคให้อีกครั้งว่ามีเชื้อเหลืออยู่หรือไม่ ถ้าปลอดเชื้อแล้วก็กลับบ้านได้ แต่ควรกักแมวป่วยแยกไว้ประมาณหนึ่งอาทิตย์ค่ะ หากหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปไม่มีความผิดปกติอะไรก็พาน้องๆไปดูอาการกับคุณหมอ ทำวัคซีนได้และกลับเข้าฝูงได้ค่ะ
Advertisement
Advertisement


สุดท้ายนี้สำหรับใครที่มีแมวกำลังเป็นหัดอยู่ หญิงหลงขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
****การทำวัคซีนให้กับแมวที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนมาก่อน ก่อนจะนำไปฉีด แมวตัวนั้นต้องมีสุขภาพที่แข็งแรงและไม่ป่วยอยู่ กินข้าวกินน้ำได้ ขับถ่ายปกติ เพราะถ้าหากแมวป่วยแล้วไปฉีดวัคซีนจะยิ่งทำให้อาการกำเริบค่ะ****
ภาพประกอบ: หลานของหญิงหลงได้ แก่ มารูโกะ ปานน้อยและเสือน้อย ทั้งสามตัวรอดชีวิตจากหัดแมว
บทความนี้ขออุทิศให้แมวทุกตัวของนางทาสที่เพิ่งเสียชีวิตจากโรคหัดไปเมื่อปลายเดือนมกราคมจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 63 ได้แก่ ส้มซ่า สีหมอก ส้มจื๊ด สามสี ด้วนน้อย สลิดน้อย และ นารูโต๊ะ
ความคิดเห็น






