อื่นๆ

😸 อยากจะ "เลี้ยงแมว" ต้องเตรียมความพร้อมอะไรบ้าง ?

591
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
😸 อยากจะ "เลี้ยงแมว" ต้องเตรียมความพร้อมอะไรบ้าง ?

ในช่วงที่ทุกคนจะต้องกักตัวอยู่แต่ในบ้านไม่สามารถออกไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระแบบนี้ อาจทำให้หลายคนเกิดความรู้สึกเหงาจนอยากจะหาสัตว์เลี้ยงรู้ใจเอาไว้อยู่เป็นเพื่อนสักตัว และการเลี้ยงแมวก็ดูน่าจะเป็นคำตอบที่ดีเพราะว่าแมวนั้นไม่ต้องการพื้นที่มากเหมือนกับสุนัข แถมยังเลี้ยงแบบระบบปิดในบ้านได้อีกด้วย

แต่การจะเลี้ยงแมวสักตัวนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป เพราะถึงแม้ว่าแมวจะเป็นสัตว์ที่ดูไม่ค่อยใส่ใจกับเจ้าของเท่าไรนัก แต่จริง ๆ แล้วแมวก็มีความต้องการความรักความเอาใจใส่ไม่แพ้กับสุนัขเลย ดังนั้นก่อนที่จะเลี้ยงแมวสักตัวก็จะต้องเตรียมความพร้อมทั้งสถานที่และอุปกรณ์เกี่ยวกับเจ้าแมวเหมียวกันพอสมควรเลยละค่ะ

1นิสัยของแมว

แมวแต่ละตัวนั้นมีนิสัยใจคอที่ค่อนข้างแตกต่างกันพอสมควร สำหรับผู้เขียนเองปัจจุบันก็ได้เลี้ยงแมวทั้งหมด 6 ตัว ซึ่ง 2 ตัวเป็นพ่อและแม่แมว ส่วนอีก 4 ตัวนั้นเป็นลูกที่เกิดจากคู่พ่อแม่แมวที่ผู้เขียนเลี้ยงไว้ และถึงแม้ว่าแมวทั้ง 6 ตัวนั้นจะถูกเลี้ยงมาในสภาพแวดล้อมเดียวกันและได้รับการดูแลเหมือนกันทุกประการ แต่ไม่มีแมวตัวไหนที่มีนิสัยเหมือนกันเลย แต่ละตัวจะมีลักษณะนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์ บางตัวจะค่อนข้างให้ความสนใจในเจ้าของ เข้ามาอ้อนมาคลอเคลียตลอด วิ่งมาต้อนรับเมื่อเรากลับบ้าน บางตัวนั้นจะเข้าหาเฉพาะเมื่อเรามีขนมหรืออาหารที่มันสนใจ แมวบางตัวอาจมีนิสัยทำลายข้าวของ เช่น ขวดเฟอร์นิเจอร์ กัดกระดาษทิชชูเล่น แต่บางตัวก็ค่อนข้างเรียบร้อย เป็นต้น

Advertisement

Advertisement


2การเลี้ยงแมวต้องเตรียมอะไรบ้าง

และเนื่องจากเราไม่สามารถคาดเดานิสัยของเจ้าเหมียวที่เราจะนำมาเลี้ยงได้ อีกทั้งการฝึกแมวให้เชื่อฟังและเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการก็ดูจะเป็นไปได้ยากเพราะแมวนั้นไม่ค่อยจะตอบสนองกับการรับคำสั่งจากมนุษย์สักเท่าไรนัก ดังนั้นเพื่อที่เราจะสามารถอยู่ร่วมกับแมวที่เรารักได้อย่างมีความสุข การเตรียมตัวและทำความเข้าใจในความต้องการของแมวนั้นจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น ซึ่งในบทความนี้ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงเฉพาะการเลี้ยงแมวในระบบปิด หรือเลี้ยงเฉพาะในบริเวณบ้านนะคะ

11) อาหารและน้ำดื่ม

การที่แมวจะมีสุขภาพดีและแข็งแรงนั้นก็เริ่มมาจากการได้กินอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน เจ้าของสามารถเลือกให้อาหารเม็ดสลับกับอาหารสดได้ สำหรับอาหารเม็ดควรเลือกให้เหมาะกับช่วงวัยของแมว ซึ่งจะแบ่งออกเป็นสูตรต่าง ๆ ได้แก่ อาหารสำหรับลูกแมว แมวที่กำลังตั้งท้อง แมววัยโต ไปจนถึงอาหารสำหรับแมวที่เป็นโรคไต นอกจากอาหารเม็ดนั้นก็จะมีอาหารเปียกที่ทำจากเนื้อสัตว์บด และขนมแมวเลีย ส่วนการให้อาหารสดหรือเจ้าของเลือกทำอาหารให้แมวกินเอง ควรให้อาหารประเภทที่ไม่ผ่านการปรุงรสเพราะอาจเสี่ยงทำให้แมวเป็นโรคไต และควรปรับเปลี่ยนมื้ออาหารให้หลากหลายเพื่อให้แมวได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนค่ะ

Advertisement

Advertisement

สำหรับน้ำสะอาดนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เจ้าของจะต้องจัดหาน้ำสะอาดวางไว้ตรงมุมประจำของบ้านอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้เจ้าเหมียวสามารถเดินมาหาน้ำกินได้ทุกเวลาที่มันต้องการ ทั้งนี้บางบ้านอาจใช้น้ำพุแมวซึ่งจะมีคุณสมบัติในการกรองสิ่งเจือปนในน้ำออก ทำให้น้ำนั้นมีความสะอาดอยู่เสมอ แต่สำหรับบ้านไหนที่มีเวลาเปลี่ยนน้ำบ่อย ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำพุแมวก็ได้ค่ะ

12) ที่ขับถ่าย

ปกติแมวจะมีนิสัยชอบขับถ่ายในดินหรือทรายและฝังกลบเพื่อไม่ให้เกิดกลิ่น หากไม่เตรียมที่สำหรับขับถ่ายไว้ให้แมวตั้งแต่ทีแรกอาจจะทำให้แมวมีนิสัยถ่ายเรี่ยราดตามมุมต่าง ๆ ของบ้านซึ่งจะกลายเป็นภาระเจ้าของต้องตามเก็บกวาดทำความสะอาด ดังนั้นเจ้าของจะต้องเตรียมห้องน้ำแมวให้พร้อมและมีขนาดใหญ่พอดีกับตัวแมว โดยห้องน้ำแมวในปัจจุบันจะมีหลายชนิดด้วยกัน เช่น แบบกระบะธรรมดาที่เราจะต้องตักอึแมวออกด้วยตัวเอง ห้องน้ำแมวแบบกึ่งอัตโนมัติที่มีกลไกช่วยในการแยกอึแมวออก ไปจนถึงห้องน้ำแมวแบบอัตโนมัติที่จะทำการกำจัดอึแมวให้ทันทีเมื่อแมวเข้าไปขับถ่าย

Advertisement

Advertisement

สำหรับทรายแมวนั้นก็จะมีหลายชนิดและหลายกลิ่นด้วยกัน แต่ละชนิดก็จะมีลักษณะและคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป เช่น ทรายแมวเบนโทไนท์ ทรายแมวจากเศษไม้สน ทรายแมวซิลิกาเจล เป็นต้น การเลือกทรายแมวนั้นอาจจะคำนึงถึงความสามารถในการดูดซับของเหลว การเก็บกลิ่น ความฟุ้งกระจาย เป็นต้น

13) การดูแลสุขภาพแมว

แมวทุกตัวจำเป็นจะต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคแม้ว่าเราจะเลี้ยงแบบระบบปิดในบ้านก็ตาม ดังนั้นหากเราไม่ทราบประวัติการได้รับวัคซีนของแมวที่เรากำลังจะเลี้ยงขอแนะนำให้พาเจ้าเหมียวไปรับวัคซีนจากสัตวแพทย์ ซึ่งได้แก่วัคซีนป้องกันโรคไข้หัด โรคพิษสุนัขบ้า โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นต้น อีกทั้งเราควรที่จะทำหมันแมวเมื่ออายุถึงเกณฑ์ เพราะจะช่วยไม่ให้เจ้าเหมียวต้องทรมานในช่วงที่เป็นฮีท อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์อีกด้วย

นอกจากนี้เจ้าของจะต้องคอยสังเกตสุขภาพของแมวอยู่เป็นประจำ หากแมวเริ่มมีอาการผิดปกติ เช่น ซึม มีไข้ อาเจียน ขับถ่ายผิดปกติ ตาแดงน้ำตาไหล เป็นแผลฝีหนอง ควรจะรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยหาสาเหตุและให้การรักษาต่อไปค่ะ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้จนแมวมีอาการแย่ลงหรือเอายาของคนให้แมวกินโดยเฉพาะยาพาราเซตามอล เพราะอาจเป็นอันตรายอย่างยิ่งแก่แมวค่ะ

14)การปรับเปลี่ยนบ้านให้พร้อม

แมวเป็นสัตว์ที่ชอบกระโดดขึ้นที่สูง ปีนป่าย วิ่งเล่น และบางตัวอาจจะชอบกัดและข่วนข้าวของด้วย ดังนั้นก่อนนำแมวเข้ามาเลี้ยงในบ้านเราจะต้องมั่นใจว่าเราได้เก็บข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่เสี่ยงต่อการตกหล่นแตกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และการเลี้ยงแมวในระบบปิดจะต้องคอยระวังไม่ให้เจ้าเหมียวของเราแอบออกไปนอกบ้าน เพราะนิสัยแมวโดยทั่วไปมักจะเป็นนักสำรวจที่รักอิสระ ดังนั้นหากเราอยากให้เจ้าเหมียวอยู่กับบ้านไม่ออกไปเที่ยวไหนไกล ๆ ก็จะต้องฝึกให้มันคุ้นชินตั้งแต่ทีแรกนะคะ นอกจากนี้เพื่อช่วยลดความเครียดของแมว เจ้าของอาจจะเตรียมของเล่นให้แมว เช่น บ้านแมวสำหรับปีนป่าย ที่ลับเล็บแมว เพื่อให้แมวนั้นได้ผ่อนคลายและมีกิจกรรมต่าง ๆ ทำแก้เบื่อค่ะ

1

5) การให้ความรักความเอาใจใส่

สำหรับข้อสุดท้ายนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้ข้ออื่นเลยค่ะ เพราะหลาย ๆ คนอาจจะเข้าใจว่าแมวนั้นเป็นสัตว์ที่มีความหยิ่ง ไม่สนใจเจ้าของ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นทาสแมวย่อมรู้ดีว่าเจ้าเหมียวของเรานั้นมักจะคอยแอบบอกรักเราอยู่เสมอ วิธีการแสดงออกถึงความรักของแมวนั้นจะไม่ชัดเจนเท่าสุนัข แต่หากเมื่อไหร่ก็ตามที่แมวนั้นเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ เรา คลอเคลีย นั่งมอง กระโดดขึ้นมานั่งตัก นั่นแสดงว่าแมวต้องการความสนใจจากเราและอยากให้เราเล่นกับมัน ดังนั้นหากมีเวลาเราจึงควรที่จะแสดงความรักกับเจ้าเหมียวของเราอยู่เสมอนะคะ

11catสุดท้ายนี้ หากใครที่ตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่ว่าต้องการจะเลี้ยงแมวจริง ๆ ละก็ ผู้เขียนก็ขอแสดงความยินดีและขอต้อนรับเข้าสู่โลกของทาสแมวนะคะ รับรองว่าเจ้าเหมียวของเรานั้นจะมอบทั้งความวุ่นวาย ความน่ารัก ความสุข และช่วยเติมเต็มหัวใจของเราได้อย่างแน่นอนเลยละค่ะ


ภาพประกอบถ่ายโดยผู้เขียน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์