อย่าตัดสินคนอื่นจากภายนอกเพราะนั่นอาจจะเป็นเเค่ส่วนหนึ่งในตัวเขา

 สวัสดีครับสำหรับคนที่ชอบรักการอ่านบทความ วันนี้จะมาพูดถึง อย่าตัดสินคนอื่นจากสิ่งที่คุณเห็นเพราะนั่นอาจจะเป็นแค่ส่วนหนึ่งในตัวเขา ทักษะการตัดสิน (Judge) ถือว่าเป็นหนึ่งในอคติ (Bias) ที่มาจากจิตวิทยาอคติในการตัดสินใจ (Cognitive Bias) พูดง่ายๆ ก็คือทุกคนเกิดล้วนเกิดมามีพื้นฐาน สังคม การเลี้ยงดู การอบรมสั่งสอน ประสบการณ์ชีวิต ความเจ็บปวด ฯลฯ ที่แตกต่างกัน ดังนั้นไม่มีทางเลยที่คนคนนั้นจะตัดสินแล้วถูกแบบ 100% หรือผิดแบบ 100% แล้วสิ่งที่ตัดสินพวกเขาว่าถูกหรือผิดก็คงเป็นกฏหมายหรือกฏกติกา ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้คนปฏิบัติตัวให้อยู่แต่ในกรอบๆนั้น ถ้าใครออกนอกกรอบก็ถือว่าผิด จะยกตัวอย่างในกรณีของนักเขียนเพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น  มีอยู่วันนึงมีเพื่อนในกลุ่มมาขอยืมเงินจำนวนนึงกับผมแต่ผมไม่สาสารถให้ได้เพราะจำเป็นต้องใช้เงิน ก็เลยโกรธแล้วเพื่อนไม่พอใจเลยไปบอกคนอื่นว่าผมใจร้าย ทั้งๆที่เขาไม่รู้เลยว่าผมจำเป็นต้องใช้เงิน เลยตัดสินว่าเป็นคนไม่มีน้ำใจ ถูกมองว่าผิดแบบนี้เป็นต้น

2. คุณจะกลายเป็นคนหูเบาไปเลย 

ถ้าสมมุติว่าเราชอบอยู่กับกลุ่มเพื่อนสัก กลุ่มนึงแล้วปรากฏว่าเพื่อนกลุ่มนี้ชอบนินทาคนอื่นหรือชอบตัดสินคนอื่น การอยู่กับคนพวกนี้จะพลอยให้คุณกลายเป็นคนที่ตัดสินคนอื่นไปด้วยเพราะอะไรรู้ไหมครับก็เราเห็นด้วยกับพวกเขา เขาพูดอะไรมาเราก็จะเออ ออ คล้อยตามอารมณ์ของพวกเขา ทั้งๆที่คุณไม่รู้จักคนนั้นเลยด้วยซ้ำคิดว่าดีแล้วหรอครับไปตัดสินนินทาแบบนั้น

3.คนที่คุณตัดสินว่าเขาไม่ดี เขาจะรู้ว่าเรานินทาเขา

เวลาเราอยู่สังคมที่หูเบาหรือสังคมที่ชอบตัวสินคนอื่น มันเป็นความสัมพันธ์ที่เลวร้ายมาก จะยกตัวอย่างของนักเขียนนะครับ สมมุติเราเป็นคนที่ชอบตัดสินคนอื่นแล้วก็ไปบอกใครต่อใครว่าเขาเป็นแบบนั้น เป็นแบบนี้ เขาไม่ดีแบบนั้น ไม่ดีแบบนั้น แต่เชื่อไหมครับคนที่ผมเล่าให้เขาฟัง เขาอาจจะมองต่างจากผมเพราะเขารู้จักคนที่ผมกำลังนินทาอยู่แต่ผมกลับไม่รู้จักเขาจริงๆ แน่นอนครับเขาไม่ฟังสิ่งที่ผมเล่าแน่นอน แล้วเขาจะเอาสิ่งที่ผมเล่าไปบอกคนนั้นด้วยที่นี้ครับก็จะเกิดปัญหาตามมาแน่นอน เขารู้ว่าผมตัดสินเขาแบบนั้นแบบนี้ เขาจะมองผมด้วยอคติเชิงลบไม่อยากรู้จักผม ทำให้กลายเป็นคนเกลียดกันไปเลย

4. เราทุกคนก็ล้วนต่างมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน

ในสังคมเราก็จะพอเจอผู้คนมากมาย ทุกคนก็ต่างความคิด ต่างความเชื่อ มีทัศนคติที่แตกต่างกัน ถูกสอนมาไม่เหมือนกันไม่ว่าเราจะอยู่ในสังคมของโรงเรียน มหาลัย หรือในที่ทำงาน เราก็จะเจอคนที่เดตกต่างกันออกไป ทุกคนล้วนมีจุดเด่นของตัวเองเราควรเปิดใจมองเห็นข้อดีของเขา ไม่ใช่ข้อเสียของเขา แล้วก็ชมเชยเขาให้เขารู้สึกดีมีกำลังใจหรือขอความช่วยเหลือจากเขา พวกเขาก็ยินดีที่จะช่วยเหลือคุณเพราะเรามีพลังงานดีๆที่ส่งต่อกัน มันจึงทำให้เรามีอารมณ์ที่เป็นสุขทั้งคู่

5. เราต้องยอมรับในตัวตนของคนอื่น ว่าแตกต่างจากเรา

​​​​​​เราทุกคนล้วนมาจากฐานะที่แตกต่างกัน เราก็ควรยอมรับในตัวตนของเขาไม่ดูถูก ไม่ว่าจะเรื่องไหนก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น ในสังคม เรื่อง การแต่งตัวบางคนแต่งตัวดูหรูหรา แต่งตัวดูแพง แต่กลับมีบางคนที่ใส่เสื้อผ้าเก่าๆ อย่างนี้ก็ไม่ควรไปตัดสินว่าเขามีฐานะยากจน บางทีเขาอาจจะชอบแต่งตัวแบบธรรมดาแต่ไม่ดูถูกหรือไม่ตัดสินคนอื่น ลองคิดดูนะครับว่า ระหว่างคนรวยกับคนจน มันต่างกันแค่ฐานะ แต่ความเป็นมนุษยธรรมก็ไม่ได้แตกต่างกัน คนเรามีคุณค่าในตัวเองไม่ได้ขึ้นอยู่ฐานะ อำนาจ หรือ ยศ เราเป็นมนุษย์ที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้เหมือนกัน 

6. คนเราดีได้ก็เลวได้ รวยได้ก็จนได้ 

​​​​บนโลกใบนี้ ก็มีทั้งคนที่ดีแล้วก็คนไม่ดี บางคนก็กลับตัวเป็นคนดีได้เป็นที่ยอมรับของสังคม ได้มีโอกาสปรับปรุงตัวเอง เราอาจจะเห็นข่าวมากมายที่นักธุรกิจประสบความสำเร็จอันสูงสุดของชีวิต แล้ว อยู่ ๆ ก็ตกลงมาในจุดที่ต่ำสุดของชีวิต หรือ คนจนที่พยายามเปลี่ยนตัวเองจนกลายเป็นมหาเศรษฐีก็มีมาก ดังนั้นนะครับผมถึงได้บอกพวกคุณว่าเราอย่าได้ไปตัดสินคนอื่นจากมุมมองของคุณเลย อย่าไปเปรียบเทียบว่าเขาดูแย่ ดูด้วยกว่าเรา มันไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกมีค่าขึ้นหรอกครับมันทำให้เราดูแย่ซะมากกว่า ระวังไว้นะครับอย่าไปวิพากษ์วิจารณ์จนลืมพัฒนาตัวเอง พวกเขาเหล่านี้อาจจะแซงหน้าคุณไปแล้วก็ได้

นักเขียนก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความอันนี้จะให้อะไรกับผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อย ขอบคุณครับที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ครับ ไว้รอติดตามในเรื่องต่อๆไปนะครับ

ภาพปก : 849356 / pixabay

รูปที่1 : 13smok / pixabay

รูปที่2 : OpenClipart-Vectors / pixabay

รูปที่3 : Javaistan / pixabay

รูปที่4 : mary1826 / pixabay

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !