อะไรมันก็ไม่แน่

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกๆท่าน

• มีคำกล่าวกันมานานแล้วว่า สิ่งที่แน่นอนที่สุด คือความไม่แน่นอน แม้จะฟังดูแล้วเป็นกล่าวพื้น ๆ ธรรมดา ๆ แต่คำ ๆ นี้กินความหมายกว้างขวางระดับจักรวาลเลยทีเดียว หากผู้ใดนำมาพิจารณาอย่างแยบคายลึกซึ้งแล้ว จะมีคุณูปการต่อการมองโลก มองชีวิต อย่างมากมายมหาศาล เพราะว่า ความไม่แน่นอน หรืออนิจจังนั้นเป็นธรรมดาที่มีอยู่ในทุกสรรพสิ่ง ทั้งรูปและนาม แต่ที่เกิดเป็นปัญหาสร้างความทุกข์ให้กับคนเรานั้นก็เพราะ ไม่ใคร่มีใครระลึกใส่ใจไว้ให้เสมอ ๆ พอมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นอย่างกะทันหันตัว " สติ " ก็มาช่วยไว้ไม่ทัน  หรือไม่ก็ โทสะ โลภะ โมหะ เข้าครอบครองจิตใจ จนมีกำลังเหนือกว่าสติ เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ เกิดการฆ่าแกงกันขึ้นอยู่บ่อย ๆ ในสังคม มีข่าวการฆ่าผู้อื่นหรือฆ่าตัวเอง ข่าวผู้คนมีจริตวิกลผิดเพี้ยนเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิต

 สถานการณ์ของโลกขณะนี้ หลายคนต้องเสื่อมลาภ เสื่อมยศ มีความทุกข์ และถูกนินทา แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนนี่แหละ ที่พอเป็นความหวังอยู่ว่า ไม่แน่มันอาจจะเปลี่ยนเป็นดีขึ้น หรือความโชคร้ายในวันนี้ อาจนำไปพบความโชคดีในวันข้างหน้า เหมือนอย่างนิทานสอนใจเรื่องนี้ ที่แม้จะเป็นเพียงนิทาน แต่ก็ให้เห็นสัจธรรมของความไม่แน่นอน ได้อย่างชัดเจน เรื่องมีอยู่ว่า

• ครั้งหนึ่งในชนบทของเมืองจีนสมัยโบราณ  หัวหน้าครอบครัวของบ้านหลังหนึ่ง  ได้ไปเห็นม้าในตลาดซื้อขายม้า  เขาชอบม้าตัวนี้มาก มีความต้องการจะซื้อม้าตัวนั้นให้ได้ มันเป็นม้าป่าลักษณะดีที่ถูกจับมาจากป่า เขาได้รวบรวมเงินทั้งหมดและได้หยิบยืมเงินจากญาติพี่น้องจนได้ซื้อม้าตัวนั้นมาสมใจ ภรรยาของเขาไม่ค่อยจะพอใจนัก เพราะเห็นว่าซื้อม้ามาในราคาแพง เขาเอาม้าขังไว้ในคอก ปรากฏว่าพอรุ่งเช้าม้าตัวนั้นก็แหกคอกหนีเข้าป่าไปเสียแล้ว เขาเสียใจมาก เพราะต้องหมดเงิน ซ้ำยังเป็นหนี้จากเงินที่หยิบยืมมาอีก เขาได้ไปปรับทุกข์กับผู้เฒ่าผู้ซึ่งเป็นบัณฑิตของหมู่บ้าน โดยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผู้เฒ่าฟังว่า เขาช่างโชคร้ายเสียจริง ๆ หมดทั้งเงิน เสียทั้งม้า ผู้เฒ่าได้ปลอบเขาว่าอย่าเพิ่งเสียใจเพราะ " อะไรมันก็ไม่แน่ "

เวลาผ่านไป ๓วัน  ม้าตัวนั้นก็กลับมาหาเขา แต่ไม่ได้กลับมาเพียงลำพัง แต่มันได้พาเพื่อนม้าป่ามาอีก ๗ตัว เขาดีใจมาก รีบไปบอกข่าวกับผู้เฒ่าบัณฑิตถึงความโชคดีของเขาที่ได้ม้าเพิ่มมาอีกหลายตัว เขาช่างโชคดีอะไรเช่นนี้ ผู้เฒ่าได้บอกกับเขาว่าอย่าเพิ่งดีใจเพราะ " อะไรมันก็ไม่แน่ "

อันว่าม้าป่านั้นจะต้องได้รับการฝึกก่อนถึงจะใช้งานได้ เขาได้ให้ลูกชายวัยหนุ่มของเขาเป็นผู้ฝึกม้า ปรากฏว่าลูกชายของเขาถูกม้าสะบัดตกจากหลังม้าขาหัก เขาจึงมาปรับทุกข์กับผู้เฒ่าบัณฑิตอีกครั้ง และพร่ำบ่นว่าเขาโชคร้ายเสียจริง ๆ เพราะใกล้จะถึงฤดูเพาะปลูกแล้ว เขาคงไม่ได้ลูกชายมาช่วยในการไถพรวนดิน ผู้เฒ่าจึงปลอบเขาว่าอย่าเสียใจเพราะ " อะไรมันก็ไม่แน่ " 

ต่อมาวันรุ่งขึ้น มีพระราชสาส์นจากฮ่องเต้มายังหมู่บ้าน แจ้งข่าวกับชาวบ้านว่า บัดนี้มีข้าศึกศัตรูยกทัพมาประชิดชายแดน ฮ่องเต้ให้มาเกณฑ์เด็กหนุ่มไปเป็นทหาร เพื่อทำการรบกับอริราชศัตรู เด็กหนุ่มในหมู่บ้านทั้งหมดถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารที่ชายแดน และทุกคนได้เสียชีวิตในการรบ ในหมู่บ้านจึงเหลือแต่เพียงลูกชายของหัวหน้าครอบครัวคนนี้เพียงคนเดียว เขาไม่ได้ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร เพราะบาดเจ็บขาหักจากการตกจากหลังม้า จึงรอดตายจากสงคราม หากเขาไม่ตกจากหลังม้าจนขาหัก เขาก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร เขาอาจจะรอดหรือตาย ซึ่ง " อะไรมันก็ไม่แน่ " 

บางครั้งในชีวิตคนเราก็เหมือนกัน วันนี้อาจโชคดี แต่เพราะความโชคดีนั่นแหละ ที่ได้นำไปประสบกับโชคร้ายยิ่งกว่า และบางครั้งวันนี้เราโชคร้าย แต่โชคร้ายในวันนี้อาจพาเราไปพบกับความโชคดีในวันข้างหน้าก็ได้เพราะ  " อะไรมันก็ไม่แน่ " 

• เมื่อไม่กี่ปีมานี้ มีการเสนอข่าวทางโทรทัศน์ว่า มีนักเรียนนายร้อยตำรวจทำการฝึกกระโดดร่มแล้วเกิดอุบัติเหตุร่มไม่กาง ทำให้นักเรียนเสียชีวิตถึง ๓คน แต่ก่อนพวกเขาก็โชคดีที่สอบเข้าโรงเรียนนายร้อยได้สำเร็จ พ่อแม่และญาติพี่น้องต้องมีความยินดีปรีดาอย่างแน่นอน แต่ความโชคดีในครั้งนั้น ก็เป็นเหตุนำพวกเขามาพบกับความโชคร้ายถึงชีวิต

ก่อนหน้านั้นไปอีกหลายปี มีการจัดแข่งรถยนต์โดยกองทัพบก มีผู้คนไปชมการแข่งขันอย่างแน่นขนัด เกิดอุบัติเหตุรถแข่งหลุดโค้งออกมานอกสนาม กระแทกกับผู้ที่ไปดูการแข่งขัน หญิงสาวคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บมากพอสมควร กองทัพบกจึงตอบแทนโดยการรับเธอบรรจุเข้าเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร นี่คือตัวอย่างของความโชคร้าย ที่นำไปสู่ความโชคดีอีกตัวอย่างหนึ่ง หรือนักการเมืองบางคนโชคดีที่ได้เป็นรัฐมนตรี แต่เพราะความมีอำนาจของตำแหน่งนั่นแหละที่ทำให้เขาโชคร้ายต้องติดคุก มีให้เห็นเป็นอุทาหรณ์ ทั้งในและต่างประเทศ 

ตอนนี้โควิด-๑๙ ระบาดมาเกือบ ๒ปีแล้ว หลายคนตกงานไม่มีเงิน ธุรกิจต่าง ๆ ต้องหยุดโดยไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสฟื้นตัวอีกเมื่อไหร่หรือไม่ ก็ขออย่าให้หมดกำลังใจ หมดพลังในการยืนหยัดต่อสู้ชีวิต เพราะ " อะไรมันก็ไม่แน่ " สถานการณ์โควิด-๑๙ อาจเป็นเหตุนำพาให้เราได้ไปพบกับสิ่งที่เป็นโชคดีก็ได้ หลายคนได้มีเวลาทบทวนชีวิตที่ผ่านมา ทำให้มีความระมัดระวัง ไม่ประมาทในชีวิตอีกต่อไป  ได้มีโอกาสทำบางอย่างที่ไม่อาจวัดคุณค่าได้ด้วยเงินตรา

• แม้คืนนี้จะเป็นคืนเดือนมืดที่ยาวนาน แต่มันก็จะไม่มืดตลอดไป ดวงอาทิตย์จะต้องส่องโลกให้สว่างไสวอีกครั้ง เพียงแต่ขอให้เราประคองชีวิตไว้ในยามมืดมิดไปให้รอดด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง  พรุ่งนี้โลกอาจจะสว่างไสวกว่าเดิมก็ได้เพราะ  " อะไรมันก็ไม่แน่ "

เขียนโดย  พระยมอมยิ้ม

ภาพปก ภาพถ่ายโดย cottonbro จาก Pexels

ภาพประกอบที่1 ภาพถ่ายโดย Pixabay จาก Pexels

ภาพประกอบที่2 ภาพถ่ายโดย Pixabay จาก Pexels

ภาพประกอบที่3 ภาพถ่ายโดย Pixabay จาก Pexels

Facebook : Ajarn.JarunCorrect
Youtube : youtube
ขอบคุณที่อ่านบทความของพระยมอมยิ้มนะครับ

ร่วมเสพบทความ หนัง เพลง และซีรีส์ใหม่ ๆ สุดเพลิดเพลิน โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !