อื่นๆ
เข้าป่า หาเห็ด

บทความนี้เป็นความความที่ผู้เขียนภูมิใจนำเสนอที่สุด เพราะจะเป็นการเขียนเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวกับงานอดิเรกที่ผู้เขียนชื่นชอบมากที่สุด ใน 1 ปีผู้เขียนจะได้ทำงานอดิเรกนี้เพียงแค่ไม่กี่เดือน นั่นก็คือ การเข้าป่า หาเห็ด
การหาเห็ดเป็นงานอดิเรกที่สร้างความสนุก ความสุขและผ่อนคลายไปพร้อม ๆ กัน การได้ไปสัมผัสบรรยากาศของป่าสีเขียวในช่วงฤดูฝน และออกมาพร้อมกับเห็ด อาหารป่าที่ทั้งอร่อยและได้คุณค่า โดยไม่ต้องซื้อหาบอกเลยว่าฟินอย่างบอกไม่ถูก
สำหรับใครที่กำลังเริ่มต้นอยากเข้าป่าหาเห็ด แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร วันนี้ผู้เขียนมีแนวทางมาแนะนำค่ะ ก่อนอื่นสำหรับใครที่อยากลองหาเห็ดลองหาข้อมูล ป่าใกล้ ๆ บ้านดู อย่างที่สองคือต้องศึกษาข้อมูลว่าเห็ดชนิดไหนทานได้ ชนิดไหนเป็นพิษ ซึ่งวันนี้ผู้เขียนจะมาบอกอย่างคร่าว ๆ อย่างที่สามที่ต้องทำ คือการเตรียมตัวและเตรียมอุปกรณ์ การเตรียมตัวคือต้องหาเสื้อผ้าที่เหมาะในการหาเห็ด เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หมวกไหมพรม (หมวกอีโม่ง) ใส่ไว้กันกิ่งไม้ กันหนาม กันแมลง ที่สำคัญคือ กันกองทัพยุง รองเท้าควรเป็นรองเท้าบู้ท หรือรองเท้าผ้าใบ กันเหยียบต่อไม้ หนาม หรือแมลงมีพิษ ส่วนอุปกรณ์ในการหาเห็ดนั้นก็มีไม่มาก แค่เสียมและตะกร้าก็เพียงพอแล้ว
Advertisement
Advertisement
เมื่อเตรียมข้อมูลและเตรียมตัวพร้อมแล้ว ก็ถึงเวลาเข้าป่าหาเห็ด ข้อแนะนำในการเข้าป่าหาเห็ด หากเป็นป่าที่มีพิ้นที่กว้างใหญ่ ผู้เขียนแนะนำพกโทรศัพท์มือถือที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต พร้อมดูแผนที่ใน Google Map เผื่อหลงทาง และควรหาเพื่อนร่วมทางไปด้วย หากเป็นไปได้ ครั้งแรกให้หาผู้ชำนาญทางไปด้วยจะเป็นการดี เมื่อไปถึงป่า ให้สังเกตว่าบริเวณใดที่มีคนหาเยอะ ๆ ถ้าเป็นมือใหม่ให้เดินหาที่ที่คนเยอะ ๆ เพราะนั่นแสดงว่าบริเวณนั้นต้องมีเห็ดออกเยอะแน่ ๆ และกันหลงทางไปในตัว เห็ดในป่าส่วนใหญ่บริเวณใดที่เคยออกมันจะออกทุกปี บริเวณใดที่ไม่เคยออกมันจะไม่ออกเลย เพราะฉะนั้น หากในปีแรก เรารู้ว่าเห็ดตรงไหนออกเยอะ ปีต่อ ๆ ไปก็เล็งไปที่บริเวณนั้นเลย


เห็ดที่ออกในป่าจะมีหลากหลายชนิด แต่ละชนิดก็จะมีรูปร่าง พื้นที่ในการออก และลักษณะในการออกที่แตกต่างกัน อีกทั้งกลิ่นและรสชาติก็แตกต่างกันไปด้วย เห็ดชนิดแรกที่แทบจะมีแทบทุกภาค และแทบทุกป่า คือ เห็ดไค เห็ดชนิดนี้ ส่วนใหญ่ดอกจะมีความหนา ดอกใหญ่ ดอกงาม สีเขียวอ่อน เขียวเข้ม เขียวอมขาว เขียวอมเหลือง แล้วแต่บริเวณที่ออก ออกทั่วป่า แต่จะออกเดี่ยว ๆ โดด ๆ ไม่ออกเป็นกลุ่ม เห็ดไคจะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ยิ่งถ้านำไปย่างไฟ ยิ่งจะเพิ่มความหอมมากขึ้น เห็ดไคทุกชนิดสามารถทานได้
Advertisement
Advertisement


เห็ดระโงก หรือภาษาอีสานเรียก เห็ดละโงก มีลักษณะที่แปลกแตกต่างจากเห็ดชนิดอื่น ๆ คือ จะเป็นเห็ดที่เริ่มจากไข่ เหมือนไข่เป็ดฟองเล็ก ๆ เมื่อโตขึ้น ดอกจึงจะโผล่ออกนอกไข่ แผ่นที่หุ้มไข่เห็ดในตอนแรกจะกลายเป็นถุงเท้าหุ้มขาเห็ดไว้ เห็ดระโงก มีสองสี คือ สีขาว และสีเหลือง ดอกเห็ดจะเรียบลื่น กลิ่นหอมอ่อน ๆ เฉพาะตัวไม่มีใครเหมือน ออกเป็นคู่หรือเป็นหมู่ บริเวณป่าโล่ง ๆ เห็ดชนิดนี้เป็นเห็ดที่ควรระวัง เพราะมีเห็ดพิษบางชนิดที่ตอนเป็นไข่ จะมีลักษณะเหมือนกับไข่เห็ดระโงกมาก เพราะฉะนั้น ควรผ่าดูตรงกลางว่าบริเวณขาเห็ดมีร่องหรือกลวงตรงกลางหรือไม่ ถ้าขาเห็ดไม่กลวง แต่ตันและแข็งแสดงว่าเป็นเห็ดพิษ ไม่ควรนำมารับประทาน



เห็ดน้ำหมาก เห็ดแดง และเห็ดก่อ เห็ดสามชนิดนี้จะมีลักษณะคล้าย ๆ กัน คือ มีสีแดงอมชมพู หรือสีโอโรส เป็นเห็ดที่มีสีสันสวยงามมาก เห็ดน้ำหมาก ดอกจะบางและเล็กกว่าเห็ดแดง ออกเดี่ยว ๆ โดด ๆ หรือเป็นหมู่ก็ได้ ออกทั่วป่า เห็ดแดงจะมีดอกที่หนา แข็ง และใหญ่กว่าเห็ดน้ำหมาก ออกเดี่ยว ๆ โดด ๆ ออกในป่าทั่วไปที่ไม่ทึบมาก เห็ดแดงจะมีสองชนิด ชนิดแรกขาจะขาวจับหรือแตะก็จะไม่เปลี่ยนสี เวลานำไปทำอาหารจะมีรสหวานอร่อย อีกชนิดขาจะขาวแต่เมื่อแตะบริเวณขาของมัน มันจะเปลี่ยนเป็นสีแดง หลายคนบอกเป็นเห็ดพิษ แต่เห็ดชนิดนี้ทานได้ เพียงแต่จะมีรสชาติเฝื่อนและมีกลิ่นเหมือนยางไม้ ทานมาก ๆ จะเกิดอาการเมา คนจึงไม่นิยมนำมาทาน เห็ดก่อ ลักษณะคล้ายกับเห็ดแดง คือ หนา แข็ง และใหญ่กว่าเห็ดน้ำหมาก ต่างกันตรงที่เห็ดก่อดอกเล็กจะมีสีขาวคล้ายเห็ดไค แต่เมื่อโตขึ้นจะมีสีแดงคล้ำกว่าเห็ดแดง และออกเป็นกลุ่มหรือเป็นหมู่ เห็ดก่อจะออกเป็นบริเวณกว้างและออกที่เดิมในทุก ๆ ปี เพราะฉะนั้นถ้าฤดูกาลเห็ดก่อบริเวณไหนที่เคยออก เรียกได้ว่าบริเวณนั้นถูกคนเขี่ยเหมือนพรวนดินให้ป่ากันเลยทีเดียว เห็ดน้ำหมาก เห็ดแดง และเห็ดก่อจะไม่มีกลิ่น เห็ดทั้งสามชนิดรสชาติหวานเล็กน้อย
Advertisement
Advertisement




เห็ดผึ้งหวาน (ผึ้งข้าว ผึ้งขาว) เห็ดผึ้งชาด เห็ดผึ้งนกยูง เห็ดผึ้งสายไหม เห็ดที่กล่าวมาจัดอยู่ในตระกูลเห็ดผึ้ง ผู้เฒ่าผู้แก่เคยบอกไว้ว่าเห็ดผึ้งทุกชนิดสามารถทานได้ไม่มีพิษ ลักษณะพิเศษของเห็ดผึ้งทุกชนิด คือเมื่อนำไปทำอาหาร ขาเห็ดจะออกหวานกรุบกรอบ ส่วนดอกเห็ดจะออกยุ่ย นุ่มลิ้น และมีรสชาติหวาน เห็ดผึ้งไม่มีกลิ่น ชอบออกในป่ารกทึบ ตามโคนต้นไม้ เป็นกลุ่มหรือเป็นหมู่


เห็ดโคนหรือเห็ดปลวก ตระกูลเห็ดปลวกก็มีหลากหลายชนิด เช่น เห็นปลวกแดง เห็ดปลวกตาบ เห็ดปลวกใหญ่ (เห็ดปลวกข้าวไร่ เห็ดปลวกข้าวดอ เห็ดปลวกใหญ่) เห็ดปลวกไก่น้อย เป็นต้น เห็ดโคนหรือเห็ดปลวกทุกชนิดทานได้ เห็ดชนิดนี้เกิดจากการก่อตัวของปลวก จนเกิดเป็นดอกเห็ด ส่วนใหญ่จะออกเป็นกลุ่มหรือหมู่ใหญ่มาก ๆ ยกเว้น เห็ดปลวกตาบ ที่ออกเดี่ยว ๆ โดด ๆ แต่ดอกใหญ่มาก เรียกได้ว่า ถ้าใครเข้าป่าแล้วเจอเห็ดปลวกวันนั้นเหมือนถูกหวยเลยก็ว่าได้ เพราะบางกลุ่มหรือบางหมู่เก็บได้เป็นหาบก็มี เห็ดปลวกจะแตกต่างจากเห็ดอื่น ๆ คือ จะมีขาแทงลงไปใต้ดิน ต้องใช้เสียมขุดถึงจะได้ และขาเหล่านี้มีรสชาติหวานอร่อยที่สุด เห็ดปลวกจะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว บางคนเจอเห็ดปลวกได้เพราะกลิ่นนี่ล่ะ เป็นเห็ดที่ผู้เขียนยกให้เป็นราชินีเห็ดป่าเลย เพราะรสชาติความอร่อยของมันชนะทุกเห็ด สามารถนำมาทำอาหารได้ทุกเมนู ราคาก็จะสูงกว่าเห็ดอื่น ๆ


ในความเป็นจริงเห็ดป่ายังมีอีกมากมาย หลากหลายชนิด แต่ผู้เขียนแนะนำเห็ดที่ดูง่าย คนนิยมรับประทาน และหาได้ทั่ว ๆ ไป ตามตัวอย่างข้างต้น หากใครที่กำลังเริ่มอยากสัมผัสความฟินจากการหาเห็ดป่า ลองหาป่าใกล้ ๆ บ้าน ชวนเพื่อนบ้านหรือเซียนเห็ด (ผู้มีความรู้ด้านเห็ด) ถือเสียม ถือตะกร้าเข้าป่าดู ครั้งแรกอาจะจะยังเก้ ๆ กัง ๆ กับการกลัวหลงป่า และกลัวเก็บเอาเห็ดพิษกลับบ้าน แต่ผู้เชี่ยวชาญที่เข้าป่ากับเราจะบอกเราเองว่า เห็ดชนิดไหนทานได้ ทานไม่ได้ เพื่อนร่วมป่าทุกคนที่เราเจอระหว่างทาง จะเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดให้กับเรา ทุกคนพร้อมที่จะแนะนำเรา ท่านอาจจะได้พบกับมิตรภาพใหม่ ๆ จากป่า และกลายเป็นเซียนเห็ดในอนาคต แต่ขอเตือนก่อนว่าวงการหาเห็ดนี้ เข้าแล้วออกยากมาก มาเป็นสมาชิกเก็บเห็ดด้วยกันนะคะ


ภาพประกอบทั้งหมด โดยผู้เขียน
ความคิดเห็น






