อื่นๆ

เด็กกับการปืนต้นไม้

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เด็กกับการปืนต้นไม้

             ตอนเป็นเด็กเรามักจะเริ่มต้นการปีนต้นไม้ โดยการเริ่มขึ้นจากโคน จับไต่ไล่เกาะไปจนถึงยอดไม้ แข่งขันกับเพื่อน ใครปีนป่ายไปถึงก่อนถือเป็นผู้ชนะ หลังจากนั้นการลงจากยอดไม้สู่พื้นดินก็เป็นเรื่องของแต่ละคน จะลงช้าหรือเร็ว จะลงโดยการค่อยไต่ถอยกลับมาหรือจะกระโดดเลยก็แล้วแต่ความถนัดของตัวเอง  ซึ่งการปีนต้นไม้ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับการใช้ชีวิตของเรา่ถ่ายภาพโดยผู้เขียน

              ความเป็นมนุษย์เริ่มต้นจากความไม่รู้เดียงสา ถูกปลูกฝังความรู้สึกนึกคิด และการกระทำต่าง ๆ มาตั้งแต่ยังเด็ก เริ่มจากการฝึกคลาน ลุกนั่ง ลุกยืน แล้วเริ่มเดิน จากนั้นก็วิ่งรอบบ้าน จนผู้ใหญ่ต้องวิ่งไล่จับแทบหัวเวียน ความเป็นเด็กเล็กได้ถูกตีกรอบการกระทำต่าง ๆ ไว้ว่า “น่ารัก” ไม่ว่าจะทำอะไรผิดพลาด นั่นแสดงถึงความไม่รู้และค่อย ๆ เริ่มเรียนรู้จากการเรียนผิดเรียนถูก ่ถ่ายภาพโดยผู้เขียนความไร้เดียงสาที่หลายคนเปรียบเด็กเสมือนผ้าขาว ที่จะเติบโตขึ้นเป็นคนลักษณะนิสัยอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะได้รับการแต่งแต้มสีสันใดลงไปอย่างไร ผ้าขาวจะถูกควบคุมได้จากผู้ที่มีสีอยู่ในกำมือ แต่ความเป็นจริงของสิ่งมีชีวิตอย่างมนุษย์ ไม่มีใครสามารถแต่งแต้มสีสันที่สวยงามลงบนผ้าผืนนั้นได้หมดทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเราให้กรอบแนวคิดใหม่ที่ว่า ให้เด็กได้มีความคิดเป็นของตัวเอง สามารถเลือกที่จะคิดและทำในสิ่งที่ตัวเองชอบหรือไม่ชอบได้ และในกรอบที่เราขยายกันมากขึ้นจนไม่มีจุดสิ้นสุดว่า เขาจะคิดได้เพียงแค่ไหน จึงทำให้ โลกทุกวันนี้เปลี่ยนไปมากมาย เพราะความคิดเด็กที่ก้าวหน้าเกินไป ก้าวล้ำกว่าความเป็นเด็กที่สมควรจะเป็น่ถ่ายภาพโดยผู้เขียน

Advertisement

Advertisement

                 หลายคนอาจจะมองการณ์ไกลไปถึงอนาคต ให้เด็กได้ทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำได้ เพื่อสักวันเขาจะได้เป็นผู้ใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์ ท่ามกลางการเดินทางของช่วงวัย มันควรดำเนินไปตามเวลา อย่าให้เขากล้าเกินกว่าวัยเด็ก เพราะอะไรที่มันไม่ถูกที่ไม่ถูกทางมันจะสร้างความไม่สวยงามให้แก่ตัวเอง เราปลูกฝังการขึ้นต้นไม้จากโคนอย่างไร เราก็ควรจะสอนการโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีตามวัยที่ควรจะเป็นเช่นกัน ส่วนการปีนลงต้นไม้ นั่นคือหลังจากที่เราสอนเขาไปแล้ว เมื่อเจอสถานการณ์ที่เป็นปัญหา เขาจะสามารถแก้ไขปัญหานั้นได้ด้วยตัวของเขาเอง ปล่อยให้ทุกอย่างค่อย ๆ เคลื่อนที่ไปตามเวลา ไม่ผิดเลยที่เด็กคนหนึ่งจะฉลาดคิด รู้จักเอาตัวรอดได้เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย เพราะเขาได้รับการชี้นำให้รู้จักแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง่ถ่ายภาพโดยผู้เขียน

                 เพียงแต่ทุกวันนี้ความบริสุทธิ์ของเด็ก ๆ กลายเป็นความบริสุทธิ์ที่ไม่บริสุทธิ์ ผ้าขาวของเขาถูกแต้มสีสันลงไปมากมาย และที่มันสร้างความสวยงามให้เกิดขึ้นไม่ได้ทั้งหมดนั้น เป็นเพราะว่าผู้แต่งแต้มไม่มีความรู้ ไม่มีความเอาใจใส่ที่จะลงสีบนผ้าขาวผืนนั้นให้สวยงามได้จริง ๆ ที่ต้องแต้มสี เพียงเพราะมีสีอยู่ในมือแค่นั้นเอง สังคมปัจจุบันก็เฉกเช่นนั้น เด็ก ๆ หลายคนต้องเกิดมาท่ามกลางความไม่พร้อมของครอบครัว เมื่อมีปัจจัยหนึ่ง ปัจจัยนั้นล้วนส่งผลกระทบต่อความรู้สึกนึกคิดของเด็กน้อยอย่างมากมาย เหมือนที่บอกว่าเราค่อย ๆ สอนเขาให้รู้หลักการว่าการปืนต้นไม้ต้องเริ่มต้นจากที่ใด ก็ใช่ว่าเด็กที่เราสอนทั้งหมดนั้นจะเชื่อเรา บางคนอาจหาวิถีทางอื่น เพราะอยากลองเรียนรู้ด้วยตนเอง่ถ่ายภาพโดยผู้เขียน

Advertisement

Advertisement

                   เพราะฉะนั้นการปืนต้นไม้ อาจไม่ใช่จุดเริ่มต้นที่สวยงามของความไร้เดียงสา ปล่อยให้เขาได้เรียนรู้จากความเจริญเติบโตไปทีละนิด แล้วสักวันหนึ่งเวลาจะให้ความจริงที่ชัดเจนที่สุด

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์