อื่นๆ

"เด็กพิเศษปฐมวัย" เรียนที่ไหนดี ??

2.9k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
"เด็กพิเศษปฐมวัย" เรียนที่ไหนดี ??

เด็กแต่ละคน เกิดมาไม่มีใครเหมือนใคร พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูมีหน้าที่สร้างสายสัมพันธ์ และแต่งแต้มความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ให้แก่เด็กแต่ละคน ... แต่หลายครั้งที่พยายามจนสุดมือ แต่ลูกกลับไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง เพราะหลายบ้านประสบปัญหาลูกเจ็บป่วยด้านพัฒนาการ หรือเป็นเด็กที่มีความต้องการเป็นพิเศษ ทำให้การพัฒนาลูกเป็นไปด้วยความยากลำบาก นำมาซึ่งความทุกข์ของพ่อแม่ 

นอกจากความเจ็บป่วยของลูกที่ต้องรับมือแล้ว พ่อแม่ยังต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่ตามมาอีกมากในการบำบัดรักษาลูก เพื่อให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีขึ้น หลายบ้านหมดเงินไปหลักหมื่นจนถึงหลักล้าน พาลูกไปทุกที่ ที่เขาว่าดี เพื่อให้ลูกมีชีวิตที่ดีใกล้เคียงกับเด็กปกติ ... เราเป็นแม่คนหนึ่งที่พาลูกไปมาหลายที่มากค่ะ จากประสบการณ์ส่วนตัว และจากการสื่อสารกับผู้ปกครองหน้าห้องฝึกเด็กพิเศษ พบว่า

Advertisement

Advertisement

พาลูกไปหลายที่ รักษากันมาหลายปี แต่พัฒนาการของลูกยังไม่ดีขึ้น เพราะขาดความต่อเนื่องในการพัฒนา ซึ่งการฝึกจากผู้เชี่ยวชาญเพียงสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง ครั้งละ 45 นาที - 1 ชั่วโมง น้อยเกินไปที่จะพัฒนาเด็กพิเศษได้ อีกทั้งพ่อแม่ขาดความเข้าใจเรื่องการพัฒนาเด็กพิเศษ คาดหวังจากห้องฝึกเพียงอย่างเดียว แต่ไม่นำกลับไปฝึกต่อที่บ้าน ... แม้แต่เด็กปกติยังต้องฝึกกันหลายครั้งกว่าจะโยนลูกบอลลงตะกร้าได้ เด็กพิเศษก็เช่นกันค่ะ ต้องฝึกฝนทุกวันและสม่ำเสมอ เพื่อให้โยนลูกบอลลงตะกร้าได้ในที่สุด และเขาจะโยนเก่งขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยนะคะ

เร่งเรียนจนเกินไป ข้อนี้ขอขีดเส้นใต้เน้นมาก ๆ อยากให้พ่อแม่ทำความเข้าใจว่า เด็กพิเศษแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนมาพร้อมกับพรสวรรค์เขาจึงไปต่อสายวิชาการได้ แต่เด็กพิเศษอีกไม่น้อยที่ไปสายวิชาการไม่ไหว แต่ลูกยังมีหนทางอื่นไปต่อได้อีก ดังนั้น พ่อแม่ต้องเลือกว่าจะพัฒนาลูกให้มีทักษะชีวิตที่ดี เอาตัวรอดได้ในวันที่เราไม่อยู่ หรือจะเร่งเรียนโดยไม่รู้ว่าปลายทางของลูกจะเป็นอย่างไร ... เราเคยรู้จักเด็กคนหนึ่ง ป่วยหนักกว่าลูกเรามาก แต่พ่อแม่เร่งรัด เรียนโรงเรียนสามภาษา ฝึกเสร็จแล้วกลับไปเรียนพิเศษต่อ สองปีต่อมาเด็กคนนี้ป่วยหนักกว่าเดิม ให้เรียนไม่เรียน อาละวาดหนัก ทำร้ายคนในครอบครัว

Advertisement

Advertisement

หาที่เรียนไม่ได้ เด็กพิการบางประเภทมีโรงเรียนในระบบที่รองรับ แต่ในกรณีของเด็กสมาธิสั้น และเด็กออทิสติก หาที่เรียนยากมากนะคะ เรียนในชั้นเรียนปกติก็ยาก เพราะมีความแตกต่างเรื่องพฤติกรรม ถ้าได้พบคุณครูที่มีความเข้าใจในความเจ็บป่วยและช่วยพัฒนาก็ถือเป็นโชคดีของลูก แต่ถ้าคุณครูไม่เข้าใจ เพื่อนไม่เข้าใจ ลูกเราจะอยู่ยากมากนะคะ หรือแม้แต่พาลูกเข้าสู่ห้องเรียนการศึกษาพิเศษแล้ว ถ้าลูกไม่ได้รับการฝึกหรือกระตุ้นพัฒนาการ นั่งเรียนไปวัน ๆ ก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อลูกแต่อย่างใด

ในฐานะผู้ประสบเหตุเพราะมีลูกซุกซนกว่าเด็กวัยเดียวกัน กว่าจะตามหา "โรงเรียนที่เหมาะกับลูก" ก็ใช้เวลาพอสมควร แต่เมื่อได้เจอแล้วจึงอยากชวนทุกครอบครัวที่ประสบปัญหาในลักษณะใกล้เคียงมาเรียนด้วยกันค่ะ เพราะลูกเรียนแล้วมีความสุข เรียนแล้วพัฒนาการดีขึ้นมาก สามารถดูแลพื้นที่ของตนเอง ควบคุมตัวเอง ช่วยเหลือผู้อื่น มีความรับผิดชอบ รู้หน้าที่ และเคารพกติกา ฯลฯ 

Advertisement

Advertisement

โรงเรียนแห่งความสุขที่สอนเด็กพิเศษในระดับปฐมวัยที่กำลังกล่าวถึง คือ "ศูนย์การศึกษาพิเศษ โรงเรียนสาธิตละอออุทิศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต หรือราชภัฏสวนดุสิตที่เราคุ้นเคยกันในอดีต โดยศูนย์ฯ แบ่งการบริหารงานออกเป็น 3 กลุ่มงาน คือ

1. กลุ่มงานบริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มเด็กพิการและครอบครัว (Early Intervention หรือ EI) : รับสมัครเด็กปฐมวัยที่มีความพิการทุกประเภท ตั้งแต่แรกเกิด - 6 ขวบ เพื่อเข้ารับการฝึกเตรียมความพร้อมก่อนเข้าชั้นเรียน ... เด็กพิการทุกประเภท ดาวน์ซินโดรม ออทิสติก สมาธิสั้น ฯลฯ หากพ่อแม่ตั้งรับความเจ็บป่วยของลูกได้ไว ทำใจได้พอสมควร นอกจากพบคุณหมอแล้ว แนะนำให้รีบพาลูกมาพบคุณครูการศึกษาพิเศษที่นี่นะคะ เพราะสมองเด็กพัฒนาทุกวัน ยิ่งเด็กเข้าสู่กระบวนการฝึกอย่างสม่ำเสมอ วันละ 3 ชั่วโมงต่อเนื่องกันทุกวัน เด็กจะพัฒนาได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ โดยคุณครูจะจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสำหรับพัฒนาเด็กแต่ละคน และวางแผนกิจกรรมการที่กระตุ้นประสาทสัมผัส และกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ 

ลูกของเราเมื่อเดินออกจากโรงเรียนเก่า ก็ได้ EI แห่งนี้เป็นฐานในการซ่อมแซมพฤติกรรม และส่งเสริมพัฒนาการ จนทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง ความซนลดลง ตั้งใจฟังดีขึ้น พูดคุยโต้ตอบรู้เรื่อง และเมื่อลูกพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ขั้นต่อไปเป็นการเข้าชั้นเรียนตามข้อ 2. นะคะ

2. กลุ่มงานนักเรียนเรียนร่วม ระดับชั้นอนุบาล : คือ ชั้นอนุบาลของศูนย์ฯ รับสมัครเด็กอายุ 3.6 - 5 ปี ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน เด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ออทิสติก สมาธิสั้น ไม่มีความพิการซ้ำซ้อน โดยเป็นเด็กที่ผ่านการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าชั้นเรียน หรือ EI มาก่อน

ลูกเรียน EI ตั้งแต่เดือนกันยายน 2562 จนถึงกุมภาพันธ์ 2563 เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีของลูก จึงได้แจ้งความประสงค์กับคุณครู EI ว่าต้องการให้ลูกเข้าชั้นเรียนต่อที่ศูนย์ฯ แต่ก่อนที่จะเข้าชั้นเรียนต้องมีการทดสอบความพร้อมของเด็ก ตลอดจนสัมภาษณ์พูดคุยถึงแนวทางการเลี้ยงดูลูก และความคาดหวังของพ่อแม่ที่มีต่อการเรียนรู้ของลูก ... ในส่วนวิชาการเราไม่คาดหวังมาก เพราะลูกพอไปได้อยู่ แต่เราให้ความสำคัญกับพัฒนาการที่สมวัย และทักษะชีวิตที่ดีของลูกมากกว่าสิ่งอื่น ส่วนลูกจะได้เรียนร่วมระดับประถมฯ ตามข้อ 3. หรือไม่นั้น แล้วแต่ทางโรงเรียนจะพิจารณาถึงความพร้อมของลูก เพราะลูกมีเวลาเรียนร่วมระดับชั้นอนุบาลจนถึงอายุ 8 ขวบ ซึ่งเรารอได้ ณ เวลานี้ขอทำฐานพัฒนาการของลูกให้แข็งแรงที่สุด เมื่อฐานแข็งแรง ชั้นต่อไปของพัฒนาการก็จะดีตามไปด้วย

รูปแบบการเรียนในส่วนนี้เข้มข้นมาก ลูกของเราจะได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการตั้งแต่เช้าจรดเย็น ลูกเรียนรู้แบบนี้ทุกวันต่อเนื่องตลอดภาคการศึกษา ลองจินตนาการตามนะคะว่า เด็กพิเศษที่เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สนุกสนาน เมื่อสมองแจ่มใส เขาไปต่อได้จริง ๆ นะคะ

3. กลุ่มงานบริการสอนเสริมนักเรียนเรียนร่วม ระดับชั้นประถมศึกษา : เด็กพิเศษหลายคนที่สามารถเรียนรู้ได้ จะได้รับการประเมินจากศูนย์ฯ เพื่อส่งไปสอบสัมภาษณ์เข้าเรียนร่วมระดับชั้นประถมฯ โรงเรียนสาธิตละอออุทิศ ... สำหรับขั้นตอนการคัดเลือกก็เหมือนเด็กทั่วไปเลยค่ะ คือ ประเมินจากพัฒนาการที่สมวัย การช่วยเหลือตนเอง การฟังและการปฏิบัติตามคำสั่ง รวมทั้งสัมภาษณ์เด็ก/พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดู ... เด็กจากศูนย์ฯ ที่ได้ไปเรียนร่วมระดับชั้นประถมฯ จะมีคุณครูจากศูนย์ฯ ช่วยเป็นพี่เลี้ยงที่ดูแลช่วยสอนเสริม รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาให้พ่อแม่จนเด็กจบ ป.6 

หนึ่งปีที่ลูกได้เรียนที่ศูนย์ฯ และได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของศูนย์ฯ รู้สึกถึงความตั้งใจในการพัฒนาเด็กทุกคน ความใส่ใจในรายละเอียดของทุกกิจกรรมการเรียนรู้ คุณครูเป็นที่พึ่งของครอบครัว ให้คำแนะนำที่เหมาะสม และชี้แนะหนทางไปต่อให้ที่เหมาะกับเด็กแต่ละคน 

สำหรับบ้านที่มีเด็กพิเศษ และกำลังหาที่ฝึกอย่างสม่ำเสมอ หรือต้องการเข้าชั้นเรียนระดับอนุบาล ขอแนะนำ "ศูนย์การศึกษาพิเศษ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต" นะคะ เพราะเด็ก ๆ ที่นี่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ดีมากจริง ๆ นะคะ ... เวลาในแต่ละวันของเด็กพิเศษมีคุณค่าเสมอ เด็กพิเศษมีรูปแบบการเรียนรู้ที่พิเศษกว่าเด็กทั่วไป แต่เขาพัฒนาได้ มาพัฒนาลูกไปด้วยกันนะคะ 

Note : บ้านที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษที่อาศัยอยู่จังหวัดอื่น หากยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรเกี่ยวกับโรงเรียนที่รองรับเด็กพิเศษ ขอแนะนำให้ติดต่อไปที่ “ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัด” ที่แต่ละท่านอาศัยอยู่นะคะ

  • เครดิตภาพประกอบ
  • ภาพปกโดย Canva.com
  • ภาพที่ 1 ภาพโดย jcomp จาก Canva / Freepik
  • ภาพที่ 2 ภาพโดย rawpixel.com จาก Canva / Freepik
  • ภาพที่ 3 ภาพโดย rawpixel.com จาก Canva / Freepik
  • ภาพที่ 4 ภาพโดย jcomp จาก Canva / Freepik
  • ภาพที่ 5 ภาพโดย jcomp จาก Canva / Freepik

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
sakooclub
sakooclub
อ่านบทความอื่นจาก sakooclub

เน€เธ™โ‚ฌเน€เธ˜ย‚เน€เธ˜เธ•เน€เธ˜เธ‚เน€เธ˜ย™เน€เธ™โ‚ฌเน€เธ˜เธƒเน€เธ˜เธ—เน€เธ™ยˆเน€เธ˜เธเน€เธ˜เธ‚ เน€

ดูโปรไฟล์

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์