ไลฟ์แฮ็ก
เผยเคล็ดลับ 5 วิธี Move on เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนใหม่ ไม่วนลูปแน่นอน!
สวัสดีจ้าสาวๆ และหนุ่มๆ ทุกคน พบกับโลลิอีกเช่นเคยนะคะ เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ยยย ชีวิตช่วงนี้ดีรึเปล่าาาา ถ้าจะให้โลลิเดา ร้อยละ 90 ของคนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ชีวิตช่วงนี้คงหนักน่าดูเลยสิเนอะ คงกำลังเศร้าๆ เหงาๆ ลืมเขาไม่ได้อยู่แน่ๆ ฮันแน่~ ปฏิเสธไม่ออกล่ะสิ ไม่อย่างนั้นพวกคุณคงไม่ได้มานั่งอ่านบทความของโลลิที่พาดหัวข้อสำหรับคนอกหักโดยเฉพาะอยู่แน่ๆ ยกเว้นจะอ่านเพื่อความบันเทิงเฉยๆ อิอิ ><
จะยังไงก็แล้วแต่ วันนี้โลลิจะมาเผยเคล็ดลับเด็ด 5 วิธีในการ Move on สำหรับคนที่เพิ่งเลิกกับแฟน หรือเลิกมานานแล้วแต่ยังลืมเขาไม่ได้ หรือแอบชอบแล้วก็ยังเลิกชอบไม่ได้สักที เห้อ ความรักหนอความรัก ต่อให้เคยมีความสุขที่ได้รักเขาแค่ไหน แต่ถ้าต้องมานั่งเจ็บซ้ำๆ มันก็ไม่ดีหรอกเนอะ สู้เอาเวลามาเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วเริ่มต้นใหม่ดีกว่า ดังนั้นอย่ารอช้า! เราไปเริ่มกันเล้ย~!
Advertisement
Advertisement
ก่อนที่โลลิจะเผยเคล็ดลับการ Move on โลลิอยากให้ทุกคนได้รู้จักกับความรัก การตกหลุมรักกันก่อนค่ะ เพื่อที่จะเข้าใจอะไรได้มากขึ้น และ Move on ได้เร็วขึ้น เป็นไปได้อย่าข้ามเลยนะคะ เยอะนิดหน่อย แต่เชื่อสิ เพื่อนๆ ทุกคนจะเข้าใจมันมากขึ้นอย่างแน่นอน ความรักเหมือนจะเป็นเรื่องที่ซับซ้อน การตกหลุมรักเองก็เหมือนจะเป็นเรื่องที่อธิบายได้ยาก เพราะบางทีมันก็ดูจะเกิดขึ้นยาก (เพราะเราก็ไม่ได้ตกหลุมทุกคนที่เรารู้จัก หรือบางคน ต่อให้ดีแค่ไหน เราก็ไม่ได้รู้สึกอะไร) แต่เหมือนบางทีมันก็เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย (ทำไมกับบางคน เพียงแค่ไม่กี่วินาที เราก็ตกหลุมรักเขาได้แล้ว หรือต่อให้เค้าทำเราเจ็บ แต่เราก็ยังรักเขา) หลายคนอาจเกิดความสับสนและไม่เข้าใจหัวใจและความรู้สึกของตัวเอง แต่รู้ไหมว่าจริงๆ แล้วความรักนั้นเข้าใจได้ไม่ยากเลย เพราะมันมี Key ของมันอยู่!
Advertisement
Advertisement
(ขอบคุณรูปจาก https://love.campus-star.com/relationship/18003.html)
ความใกล้ชิด สนิทสนม
ความใกล้ชิดสนิทสนมทำให้ก่อเกิดเป็นความรักได้ การได้รู้จักตัวตนของอีกฝ่าย ได้เข้าใจในตัวเขามากขึ้น ได้เห็นความชอบ ทัศนะคติที่ใกล้เคียงกัน ในการทดลองของ Dr. Arthur Aron นักจิตวิทยาของมหาวิทยาลัย Brook และทีม ได้ทำการทดลองทางจิตวิทยา โดยการทำให้คนแปลกหน้ามีความรู้สึกคุ้นเคย สนิทกันมากขึ้น และตกหลุมรักกันภายใน 45 วินาที เขาได้ให้คู่อาสาสมัครเข้าห้องทดลอง นั่งหันหน้าเข้าหากันแล้วผลัดกันถาม-ตอบคำถามทั้งหมด 36 ข้อ เพื่อให้พวกเขาสนิทกันมากขึ้น คำถามในการทดลองครั้งนี้มีทั้งเกี่ยวข้องกับเรื่องราวในชีวิตประจำพื้นๆ เช่น ‘ใครที่คุณอยากเชิญมาเป็นแขกร่วมรับประทานอาหารมื้อเย็นด้วยกัน’ ‘ก่อนจะโทรหาใครสักคนคุณซ้อมก่อนพูดไหม และทำไม’ จนไปถึงคำถามที่เห็นถึงทัศนคติ ความคิด จิตใจ เช่น ‘คุณให้ความสำคัญสิ่งใดมากสุดในมิตรภาพของคุณ’ ‘ความรักใคร่มีบทบาทอย่างไรกับชีวิตคุณ’ หรือแม้แต่คำถามที่ทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์กับคู่ของตัวเอง อย่าง ‘บอกสิ่งที่คุณชอบเกี่ยวกับตัวเขา’ หลังจากนั้นก็ให้สบตากัน 4 นาที โดยห้ามพูดอะไร ผลปรากฏว่าหลังจากการทดลองในครั้งนั้น ได้มีหนึ่งในคู่ผู้เข้าร่วมการทดลองแต่งงานกันจริงๆ หลังผ่านไป 6 เดือน!
Advertisement
Advertisement
ประสบการณ์อดีต สิ่งที่เราขาดและต้องการมัน
เราทุกคนล้วนมีสเป็คเป็นของตัวเองอยู่ในใจอยู่แล้ว ซึ่งความชอบเหล่านี้มักมาจากประสบการ์ในอดีต เช่น เรามีพ่อที่เป็นคนขยันขันแข็ง เราจึงชอบผู้ชายที่ขยันขันแข็ง หรือมาจากสิ่งที่เราขาดและต้องการมัน เคยได้ยินไหมคะ “เธอมาเติมเต็มชีวิตให้กับฉัน” นั่นก็เป็นเพราะ เราขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เราต้องการมัน อาจเกิดจากในอดีตคุณขาดความรักจากพ่อแม่ โลกใบนี้และผู้คนใจร้ายกับคุณ แต่เมื่อมีใครสักคนใจดีกับคุณ ให้ความอบอุ่นกับคุณ ก็ไม่แปลกจริงๆ ที่คุณจะตกหลุมรักเขา ให้ความรักเขาหมดทั้งหัวใจ และนี่ก็อาจเป็นสิ่งที่อธิบายข้อสงสัยได้เช่นกัน ว่าทำไมกับคนบางคนที่ถึงแม้จะหน้าตาดี หรือทำดีกับคุณมากมายแค่ไหน คุณก็ไม่สามารถรักเขาได้ นั่นก็เพราะเขาไม่ได้ตรงสเป็คคุณยังไงล่ะ! หรือสิ่งดีๆ ที่เขาทำให้คุณ คุณไม่ได้ต้องการมันนั่นเอง (มนุษย์เราสามารถใช้เลาเพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้นที่จะตัดสินใจว่า คนๆ นี้เป็นได้แค่เพื่อนหรือพี่น้อง) ดังนั้น ในความเห็นของโลลิ โลลิคิดว่ามันไม่ผิดนะคะที่เราจะไม่ได้รักและปฏิเสธคนที่รักและดีกับเรามาก แต่แค่อย่าทำร้ายเขาซ้ำก็เป็นพอ เพราะเขาชอบเราไงถึงทำดีกับเรา ถ้าเราเป็นฝ่ายชอบใครสักคน ก็คงจะทำแบบเดียวกัน อ้อ และเราก็ไม่ผิดอีกเช่นกันนะคะที่เอาแต่รักคนที่ทำร้ายเรา มันมีปัจจัยหลายๆ อย่างรวมกัน เพราะฉะนั้นแล้ว ใครก็ตามที่กำลังโทษตัวเองในเรื่องนี้อยู่ หยุดได้แล้วน้า ขอให้เข้าใจนะคะว่าคุณไม่ผิดเลย
สารเคมีในสมอง
หลังจากเกิดความสนิทชิดเชื้อ และเจอคนในสเป็คเราแล้ว เรารักก็บังเกิดขึ้น! และเจ้า ‘ความรู้สึกรัก’ นี้ก็ถูกกระตุ้นโดยสารเคมีในสมองที่ชื่อว่า โดปามีน, เซโรโทนิน, อะดรีนาลีน ซึ่งออกฤทธิ์ไม่ต่างอะไรกับยาเสพติด คุณสมบัติของสารพวกนี้จะทำให้คุณมีพลังงานเยอะกว่าปกติ ไม่ค่อยหิว (เพราะแค่มีเธอ ฉันก็อิ่มใจแล้ว) ไม่ค่อยง่วง (อยู่กับเธอแล้วอยากทำนู้นทำนี่ ไปที่นั่นที่นี่กับเธอไปหมด) อยากทำอะไรดีๆ ให้คนๆ นั้น และเมื่อเห็นเขามีความสุข คุณเองก็สุขใจเช่นกัน เพราะคุณเสพติดความรู้สึกดีๆ แบบนี้อย่างไรล่ะ คุณถึงคิดถึงเขาบ่อย อยากเจอเขา อยากอยู่กับเขา แต่ข้อจำกัดก็คือ สารเคมีนี้มีฤทธิ์อยู่กับเราแค่ 2 เดือน ถึง 2 ปีเท่านั้น และนี่คือที่มาคำว่า ‘หมดรัก’ แต่เดี๋ยวก่อนนน อย่าเพิ่งรู้สึกเจ็บจี๊ดหรือเศร้าทันทีที่เห็นคำๆ นี้นะคะ โลลิเชื่อว่าหลายคนคงมีประสบการณ์การ ‘ถูกเบื่อ’ มาบ้าง แต่ขอให้รู้ไว้ว่า การที่เขาเบื่อคุณ ไม่ใช่คุณไม่ดีพอหรือคุณไม่มีค่าเขาก็เลยเบื่อ คุณน่ะมีค่าในตัวของคุณเองเสมอ แต่บางครั้งก็เป็นเพราะความยังเด็กของเขาคนนั้นเองที่ให้สารเคมีมาควบคุมความรู้สึก อย่างไรก็ตามก็ขึ้นกับปัจจัยหลายๆ อย่างด้วยเช่นกัน
เอาล่ะ! และนี่ก็เป็นตัวอย่างพื้นฐานความรักหรือการตกหลุมรักในชีวิตของมนุษย์อย่างเราๆ โลลิหวังว่า ทุกคนคงเข้าใจตัวเองมากขึ้นนะคะ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า แล้วทำอย่างไรล่ะ เมื่อเราอกหัก ถูกทิ้ง เลิกกับแฟน? เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติธรรมชาติเลย มันอาจทำให้คุณรู้สึกเจ็บ แถมเอาแต่คิดถึงเขาไม่เลิก นั่นก็เป็นเพราะสารเซโรโทนินหลั่ง คุณไม่ต้องโทษตัวเองที่เสียใจ หรือพยายามที่จะรู้สึกดีขึ้นในเร็ววันหรอกนะคะ โลลิขอให้ทุกคนเชื่อว่าสักวันมันจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน แต่จะให้อยู่เฉยๆ รอเทพเทวดาหรือโชคชะตาประทานคนใหม่ที่มาเยียวยาคุณให้ดีขึ้นก็กระไรอยู่ ระหว่างนี้คุณต้องพึ่งตัวเองด้วย ต้องเข้มแข็งด้วยตัวเอง เกริ่นมาเยอะแล้ว ไปพบกับ 5 วิธี Move on กันเลยดีกว่า~
1. ออกไปท่องเที่ยวผจญภัยบ้าง
เมื่อเราออกไปเปิดโลก ท่องเที่ยวผจญภัยพบสิ่งใหม่ๆ จะทำให้เราเลิกคิด วนเวียนอยู่แต่กับสิ่งเดิมๆ ได้ผ่อนคลายมากขึ้น สมองโล่งขึ้น ไปปลดปล่อยความรู้สึกแย่ๆ ในที่สักทีที่ไม่มีใครรู้จักคุณ (หรือจะไปกับคนที่คุณรัก เช่น พ่อแม่ เพื่อน ก็ได้นะ) คุณอาจไปเที่ยวปีนเขา ล่องเรือ ตั้งแคมป์ในป่า ถ่ายรูปธรรมชาติ ไปเที่ยวต่างประเทศ พบปะผู้คนที่ไม่รู้จักคุณ หาเพื่อนใหม่ หรือถ้าใครไม่อยากไปไกลขนาดนั้นอาจไปสวนสนุกสักที่ เล่นเครื่องเล่นเหวี่ยงๆ กรี๊ดให้มันหลุดโลกไปเลย กลับมาคุณจะเป็นคนใหม่ ที่เข้าใจอะไรมากขึ้น อาจได้เห็นถึงความผิดพลาดในตัวเราและเขาที่ผ่านมา เมื่อคุณรู้ตัวและเข้าใจ คุณก็จะเจ็บน้อยลง ไม่ต้องเชื่อโลลิก็ได้ แค่ลองทำดู :-)
2. หางานอดิเรกที่ตัวเองชอบทำ Focus กับแผนอนาคต
การได้ทำในสิ่งที่ชอบจะทำให้เรารู้สึกมีค่ามากขึ้น ที่ผ่านมาคุณอาจจะเสียเวลาไปกับการทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเองเพื่อคนที่คุณรัก หรืออาจจะฝืนทนกับความสัมพันธ์ที่มันเป็นพิษ (Toxic Relationship) เพื่อพยายามรักษาชีวิตคู่ การเลิกกันในครั้งนี้อาจจะเป็นโอกาสดีก็ได้ที่จะทำให้คุณได้ทำในสิ่งที่คุณอยากทำจริงๆ เสียที จากนั้น ลองวางแผนอนาคตคุณในการพัฒนาความสามารถในหน้าที่การงานหรืองานที่คุณชอบสิ หรือถ้าคุณไม่รู้ว่าสิ่งที่คุณชอบทำมันคืออะไร นี่ก็เป็นโอกาสดีอีกเช่นกันที่จะปล่อยให้ตัวเองได้มีเวลาค้นหาตัวเองบ้างว่าแท้จริงแล้วคุณชอบอะไร
ลองทำมันหมดทุกอย่าง เช่น ทำอาหาร อ่านหนังสือ วาดภาพ ร้องเพลง อะไรที่ทำแล้วไม่ชอบก็ไม่ต้องฝืน เมื่อถึงตอนที่คุณค้นพบความชอบของคุณ คุณก็จะรู้สึกว่าตัวเองมีค่ามากขึ้น และอาจไม่ต้องการเขาคนนั้นกลับมาอีกแล้วก็ได้
3. หันมาสนใจคนที่รักคุณ
ลองคิดดูซิ ในขณะที่คุณรักผู้ชายหรือผู้หญิงคนหนึ่ง คุณละเลยใครในชีวิตไปบ้าง พ่อแม่ เพื่อนฝูง ที่คอยอยู่เคียงข้างปลอบใจคุณเสมอ ลองหันมามองพวกเขา ใส่ใจพวกเขาดูบ้าง การได้อยู่กับคนที่รักคุณก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะทำให้คุณรู้สึกมีค่ามากขึ้นเช่นกัน บางครั้งถ้าคุณเศร้าแล้วอยากอยู่คนเดียวขึ้นมาก็ไม่ผิด อาจจะไปอยู่กับตัวเองสักพักแล้วค่อยกลับมาหาเพื่อนๆ ใหม่ แต่อย่านานเกินไปล่ะ
4. ออกกำลังกาย ดูแลรูปร่างหน้าตาตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ
การออกกำลังกายก็ช่วยให้คนเราดีขึ้นได้นะ เหมือนเป็นการสะบัดความเศร้าออกจากชีวิตในขณะที่คุณขยับร่างกาย การดูแลหน้าตา รูปร่างตัวเองให้ดีก็สำคัญเช่นกัน มันเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้คุณหลงรักตัวเองมากขึ้น ลองออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อท้อง หรือเปลี่ยนลุคการแต่งหน้า เปลี่ยนทรงผมดูสิ มันช่วยให้คุณหันมารักตัวเองมากขึ้นจริงๆ นะ
5. ทำความดีเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน
เมื่อคุณมีความรัก หรือกำลังอยู่ในความสัมพันธ์กับใครสักคนอยู่ คุณอาจไม่รู้ตัวว่าคุณพยายามทำตัวเองให้เป็นฝ่ายรับ คาดหวังว่าเขาจะหันมาสนใจบ้าง คาดหวังว่าคนรักของคุณจะทำอย่างนู้นทำอย่างนี้ เป็นแบบนั้นเป็นแบบนี้ให้กับคุณ คุณลองหยุดคาดหวังและเป็นฝ่ายให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนบ้างสิ ไม่จำเป็นต้องให้อะไรยิ่งใหญ่ ลองเริ่มจากทำความดีเล็กๆ น้อยๆ ให้คนอื่นในชีวิตประจำวัน เช่น เปิดประตูค้างให้คนข้างหลัง เก็บของให้ พาคนแก่ข้ามถนน เป็นที่ปรึกษามากกว่าเอาแต่บ่นในชีวิตอันพังพินาศ
คุณอาจไม่ได้รับรางวัลตอบแทนอะไรมากมายนอกจากคำขอบคุณและรอยยิ้ม แต่ลองจินตนาการดูสิ ว่าถ้าคุณได้รับมันทุกวัน ใจคุณจะเบิกบานแค่ไหน เมื่อคุณทำมันจนเป็นนิสัยมันอาจชักนำคุณให้ได้ทำความดียิ่งใหญ่ และจากนั้น สิ่งดีๆ จะเข้ามาหาคุณเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ยกับ 5 วิธี Move on ที่กล่าวมา สิ่งที่โลลิอยากจะแนะนำเพิ่มเติมก็คือ ตอนที่เพิ่งอกหักหรือเลิกกับแฟนมาใหม่ๆ อย่าเพิ่งรีบมีใครในตอนที่คุณอ่อนแอ ให้ทำตัวเองให้แข็งแรงก่อน คิดและทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่คุณกลับมาโสดเป็นเหมือนช่วงเวลาที่ทดสอบจิตใจคุณ เพราะคุณอาจเห็นคู่รักนุ้งนิ้งกัน เพื่อนๆ ที่ถามว่าเมื่อไรจะมีคนใหม่ หรือแฟนเก่าคุณที่ไปมีคนใหม่ได้แล้ว ขอให้ทุกคนทำใจให้สงบนะคะ เป็นไปได้ก็ไม่ต้องส่อง ไม่ต้องรับรู้อะไร
ถ้าคุณรู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจคุณ ลองหาเพลงเศร้าสักเพลงที่ตรงกับอารมณ์คุณตอนนั้นมาฟัง ให้มันพูดแทนความในใจของคุณ คุณจะรู้สึกว่าอย่างน้อยก็มีใครสักคนที่เข้าใจ และที่สำคัญอย่าหมดศรัทธาในความรักนะคะ ^^ ไม่ต้องเรียกร้องแต่ก็อย่าต่อต้าน โลลิรู้ว่ามันยาก แต่ถ้าทำได้และวันหนึ่งที่คุณเข้มแข็งมากพอ คุณจะพร้อม ความสัมพันธ์จะไม่กลับไปแย่วนลูปอีก ขอให้ทุกคนหาจุดลงตัวที่ทำให้ตัวเองไม่เจ็บได้เร็วๆ นะคะ วันนี้คงต้องขอตัวลาเพื่อนๆ ไปก่อน สวัสดีค่า // ไหว้งามๆ อย่างนางสาวไทย
By. Loli
ความคิดเห็น
