เพื่อนมาขอยืมเงิน...เราจะปฏิเสธยังไงดี โดยที่ไม่ให้เสียความสัมพันธ์ ? ลองใช้ 5 วิธีนี้กันดูนะ

สวัสดีครับนักอ่านที่เคารพทุกท่าน ใครที่เคยประสบกับปัญหาเพื่อนมาขอยืมเงินจากเราแล้วไม่ยอมมาคืนบ้างครับ แน่นอนว่าผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นและเป็นออกจะค่อนข้างบ่อยด้วยซ้ำ ขึ้นชื่อว่าเป็นเงินแล้วหลายคนมองว่ามันไม่เข้าใครออกใครและยังเป็นทรัพย์สินที่สำคัญที่เราทุกคนจะต้องเก็บรักษาเอาไว้เท่าชีวิตไม่ควรที่จะมาให้ใครยืมไปง่ายๆ ทุกวันนี้คนเราเองก็จำเป็นที่จะต้องใช้เงินเพื่อจับจ่ายใช้สอยประทังชีวิตให้อยู่รอดไปวันๆ แต่ก็มีบางครั้งที่พวกเพื่อนตัวดีทั้งหลายมักจะชอบมายืมเงินจากเราทั้งๆ ที่ใจเราเองก็ไม่อยากจะให้หรืออาจจะเต็มใจให้เองเพราะมั่นใจว่าเขาจะต้องรักษาคำพูดนำเงินมาคืนเราตามที่ได้นัดหมายเอาไว้อย่างแน่นอน แต่ประเด็นคือสุดท้ายเขากลับผิดคำพูดไม่ยอมเอาเงินมาคืนตามที่นัดหมายหรือได้เงินไม่ครบตามจำนวนที่ยืมไป พอเราได้ตามไปทวงถึงที่กลับเล่นลิ้นอ้างโน้นอ้างนี่พูดจาวกไปวนมาหาสาระไม่ได้ แบบนี้เป็นใครก็ต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเหมือนกันหมดทุกคนนั่นแหละครับ

1. ปฏิเสธแบบจริงจังแต่สุภาพ

ในกรณีที่เพื่อนเคยมาขอยืมเงินเราเมื่อครั้งก่อนแล้วยังไม่ได้คืนสักที ยังจะกล้ามาขอยืมเพิ่มอีก เจอแบบนี้ต้องรีบปฏิเสธออกไปทันทีแต่ก็ควรที่จะปฏิเสธด้วยถ้อยคำที่สุภาพใจเย็นแต่แฝงไปด้วยความจริงจังเช่น "ผมไม่มีให้หรอกครับ ของเก่าผมยังไม่ได้คืนเลยแล้วผมจะไปเอาจากที่ไหนมาให้คุณกันล่ะครับ" ถ้าไม่อยากเสียเงินแบบฟรีๆ จงอย่ากลัวที่จะปฏิเสธคนอื่นและอย่าใจอ่อนให้กับใครง่ายๆ โดยเด็ดขาด

2. ยอมรับแบบตรงไปตรงมา

ถ้าเราไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าหรือในบัญชีธนาคารจริงๆ เราก็บอกเขาไปตามตรงไปเลยสิ จะต้องกลัวอะไรก็คนมันไม่มีจริงๆ แล้วจะให้ทำยังไงได้ล่ะ หรือถ้าไม่เชื่อก็มาลองมาค้นกระเป๋าดูก็ได้หรือไม่ก็เอาบัญชีธนาคารให้ดูเลยเราอนุญาต และแน่นอนว่าเมื่อเราไม่มีเงินเขาจะต้องไปขอยืมคนอื่นต่อแน่ๆ ในข้อนี้ถ้าหากว่าอีกฝ่ายยังไม่เข้าใจทำตัวงี่เง่าใส่เราก็ควรถอยห่างออกมาซะเถอะ

3. อ้างว่าเป็นกฎของที่บ้าน

เมื่อเพื่อนหรือใครก็แล้วแต่มาขอยืมเงินเราไม่ว่าจะในสถานการณ์ไหนก็ตาม เราก็อ้างไปเลยว่ามันเป็นกฎเหล็กของที่บ้านอย่างเช่น "พ่อกับแม่สั่งไว้ว่าจะต้องไม่ให้ใครมายืมเงินเราเด็ดขาด ไม่งั้นท่านจะว่าเราได้นะ" ก็บอกเขาไปตามนั้นได้เลยมันไม่ได้เสียหายอะไร การอ้างแบบนี้จะช่วยทำให้ดูมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นไม่ว่าเราจะอยู่ในช่วงวัยไหนก็ตามก็สามารถที่จะอ้างออกไปได้เช่นกัน

4. อ้างว่าครอบครัวลำบาก

การมีฐานะที่ลำบากอ้างก็ถือเป็นข้ออ้างที่จะใช้ปฏิเสธเพื่อนที่มาขอยืมเงินเราได้เหมือนกัน เช่นสมมติเราอ้างไปว่า "ฐานะทางบ้านเราก็ค่อนข้างลำบากพอตัวไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากนัก เรามีพ่อแม่ที่ต้องดูแล มีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากมาย ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะ" อะไรประมาณนี้ เชื่อได้เลยว่าเมื่อเขาได้รู้แบบนี้เขาคงจะไม่กล้าขอยืมเพิ่มอีกแน่นอน

5. อ้างว่าเงินเราอยู่กับแฟน

ในกรณีที่เรานั้นมีแฟนหรือว่าแต่งงานแล้วก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ที่เราจะต้องเอาเงินให้แฟนไปใช้ในชีวิตประจำวันให้แฟนได้ชื่นใจ ถึงแม้ว่าเราจะปฏิเสธที่ให้เงินแฟนไม่ได้ก็ตามแต่นี่ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข้ออ้างที่เราจะใช้พูดกับเพื่อนที่ชอบมาขอยืมเงินเราได้เช่นกัน อย่างเช่นเราบอกเขาไปว่า "ต้องขอโทษด้วยนะ...พอดีว่าเราได้ให้เงินกับแฟนไปใช้หมดแล้วน่ะ" ให้เขาได้รู้ว่าเงินไม่ได้อยู่ที่เรา เทคนิคนี้คนที่มีแฟนลองนำไปใช้กันดูนะ

เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับเทคนิคทั้ง 5 ข้อที่ได้นำเสนอไป ซึ่งโดยส่วนตัวของผู้เขียนแล้วคิดว่าเงินมันเป็นของเราควรที่จะเก็บไว้ใช้จ่ายเอง ไม่ควรที่จะมาให้คนอื่นมายืมไปแบบฟรีๆ ถึงเขาจะมองว่าเรานั้นขี้เหนียวหรือเห็นแก่ตัวยังไงก็ช่างเขาไม่ต้องไปใส่ใจเพราะกว่าเราจะได้เงินมาแต่ละบาทมันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายๆ เลย การปฏิเสธดังที่กล่าวไปนั้นนอกจากเราจะไม่เสียเงินสักบาทแล้วยังได้รักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพื่อนได้อีกด้วย ดังนั้นถ้าหากใครที่มีประสบการณ์แบบนี้ก็ลองนำทั้ง 5 ข้อนี้ไปใช้กันดูนะครับ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อยครับ

เครดิตรูปภาพประกอบจากเว็บไซต์ : Pexels.com

• ภาพหน้าปก :Karolina Grabowska
• ภาพที่ 1 :Alexander Mils
• ภาพที่ 2 :cottonbro
• ภาพที่ 3 :Karolina Grabowska
• ภาพที่ 4 :Karolina Grabowska
• ภาพที่ 5 :cottonbro

*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*

ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`

คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkq

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQ

ร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565