อื่นๆ
เมื่อความสุขที่เคยมี ตอนนี้.. เริ่มหายไป
เราอาจจะเคยสงสัยหรือโทษตัวเองในบางครั้ง ว่าทำไมเมื่อทุกอย่างรอบตัวของเราเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเราไม่สามารถที่จะก้าวผ่านตามกระแสความเปลี่ยนแปลงนั้นทัน กลายเป็นว่าเราเริ่มทำอะไรได้ช้ากว่าคนอื่นๆจึงกลายเป็นความรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมา มาอ่านบทความดีๆเพื่อเสริมสร้างกำลังใจขึ้นมากันเถอะ
1. มันผิดด้วยหรือ? ที่ฉันพอใจตัวเองในตอนนี้
เมื่อทุกอย่างในชีวิตเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วอย่างก้าวกระโดด โดยที่เรายังคงพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ในทุกวัน จนกลายเป็นว่าเรากลับเป็นฝ่ายไล่ตามคนอื่นไม่ทันเอง
เมื่อสังคมต้องการเดินให้ทันตามเข็มนาฬิกา และคอยผลักดันให้เราก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ " มันคงเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าฉันรู้สึกอึดอัดเมื่อต้องทำตัวให้ทันสังคมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นการแต่งกาย การทำทรงผม หรือรูปลักษณ์ภายนอกที่ต้องดัดแปลงไปเรื่อยๆ การไหลตามค่านิยมในหมู่ผู้คนเป็นสิ่งที่ฉันไม่ถนัดเอาซะเลย ฉันแค่อยากใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความสบายใจในแต่ละวันเท่านั้น "
Advertisement
Advertisement
ก็เลิกสนใจความคิดที่ต้องเป็นเหมือนคนอื่นไปซะสิ เราไม่สามารถหาเหตุผลได้ว่าสิ่งที่เราพยายามทำอยู่นั้น เราทำไปเพื่อใคร? แต่ถ้าหาเหตุผลว่าทำเพื่อตัวเอง เราให้คำตอบมันได้แน่ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เราไม่ต้องเปลี่ยนตามไปซะทุกอย่างหรอก เลือกในสิ่งที่ตัวเองไขว่คว้าได้ เลือกในสิ่งที่ตัวเองเอื้อมถึง พาตัวเองไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีๆ แค่นั้นก็สร้างความสุขในทุกๆวันได้แล้ว
2. ความคาดหวังที่ต้องสู้ด้วยตัวเอง
มันก็ไม่แปลกเท่าไหร่หรอกที่จะถูกคาดหวังไว้ตั้งแต่แรกเกิดน่ะ อย่างน้อยก็ต้องมีคุณพ่อคุณแม่หรือเครือญาติฝ่ายปกครองที่ต้องหวังให้เราเป็นไปตามที่พวกเขาคิดอยู่แล้ว
" หนูไม่ได้อยากเป็นราชการ แต่คนในครอบครัวต่างต้องการสวัสดิการดีๆ " มีจำนวนคนในสังคมไม่น้อยเลยที่จะถูกคาดหวังให้เราเป็นนั่นเป็นนี่โดยเฉพาะข้าราชการเมื่อเรียนจบหรือทำอะไรสักอย่างที่เป็นผลดีต่อพวกเขา โดยที่เราลงความเห็นว่า.. เราไม่ชอบสิ่งนั้นเลยสักนิด ชีวิตที่เต็มไปด้วยความคาดหวังมันช่างชวนให้เหนื่อยใจจริงๆ แต่ถึงคนในครอบครัวจะไม่ได้ปรารถนาสิ่งนั้น แต่สังคมก็คาดหวังให้เราเป็นสิ่งที่เราไม่ต้องการอยู่ดีนั่นแหละ เมื่อทุกอย่างเหมือนจะง่ายแต่ก็ไม่ง่าย เพราะต้องอยู่ในเกณฑ์กำหนด เราก็ไม่สามารถปฏิเสธได้แต่ยอมทำตามสิ่งเหล่านั้น จนเราอาจจะลืมการเป็นตัวเองไปเลยก็ได้
Advertisement
Advertisement
มันไม่ผิดอะไร ถ้าเราเลือกที่จะแตกต่าง ในเมื่อทุกอย่างในชีวิตถูกสังคมกำหนดไว้หมดแล้ว ก็แยกตัวและสร้างสีสันของตัวเองขึ้นมาสิ พิสูจน์ให้ทุกคนได้รู้ พิสูจน์ให้สังคมได้เห็น ว่าเราสามารถแตกต่างจากคนอื่นได้และทำมันได้ดี โดยไม่ต้องเป็นเหมือนคนอื่นๆ เป็นตัวเองทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ เป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น
3. เพราะฉันไม่เก่งอะไรสักอย่าง
มองไปทางไหนก็มีแต่คนเก่งๆกันทั้งนั้น ทุกคนมีสิ่งที่รัก ทุกคนมีสิ่งที่อยากทำ แต่ว่าฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองต้องการทำอะไรกันแน่? เพราะไม่มีอะไรที่ฉันถนัดเลย...
ปัญหาใหญ่ที่ต้องตั้งคำถามกับตัวเองอยู่เสมอ " นี่ฉันสามารถทำอะไรได้บ้างไหมนะ คนอื่นๆที่มีงานอดิเรกเหมือนกันก็ทำออกมาได้ดีเยี่ยม แตกต่างจากฉันที่ทำได้ทุกอย่าง แต่ดันไม่เก่งเลยสักนิด " ไม่ว่ายังไงก็คงไม่สามารถหยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นได้ ตราบใดที่ยังคงถูกสังคมแบ่งชั้นแบ่งเกณฑ์กันอยู่ น่าแปลก..ที่เรามักจะมองผลงานของตัวเองพอไปวัดไปวาได้ แต่พอเทียบกับคนอื่นมันช่างไกลแสนไกลซะเหลือเกิน จนคิดไปว่าฉันคงไม่ถนัดด้านนี้จริงๆ และไม่มีด้านไหนที่ฉันถนัดแบบสุดฝีมือเลย " ฉันหยุดที่จะโทษตัวเองไม่ได้ที่ไม่เก่ง ฉันจึงรู้สึกผิดหวังและไม่อยากทำมันอีกต่อไป "
Advertisement
Advertisement
ในความจริงแล้ว โลกนี้ไม่มีใครเก่งหรือไม่เก่ง ไม่มีใครผิดหรือถูก ไม่มีคนโง่หรือฉลาด ทุกอย่างล้วนมีสองด้านเสมอ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะต้องเอาตัวเองไปเทียบทัดกับใคร เมื่อความแตกต่างคือรสชาติของชีวิต เราก็ควรจะต้องทิ้งความผิดหวังและพยายามสร้างความมั่นใจขึ้นมาอีกครั้ง อย่างปีกัซโซ่ก็ยังออกแบบมาได้น่าตลกเลยใช่ไหมล่ะ? แต่เมื่อเขาหลงรักและอยากสร้างผลงานที่เขาชอบ และต้องการจะทำมันให้สำเร็จ เขาก็สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของรูปภาพให้ออกมามีชีวิตได้จนผู้คนต่างชื่นชม แม้ว่าก่อนหน้าจะถูกหัวเราะเยาะก็ตาม คุณค่าไม่ได้อยู่ที่ผลงานแต่อยู่ในคำตอบที่เราต้องการต่างหากล่ะ ถ้าชอบก็ไม่มีคำว่า ' ทำไม่ได้ ' แต่ ' ต้องทำให้ได้ ' ต่างหากล่ะ
4. เพราะฉันกลัวที่จะผิดหวัง
ความพ่ายแพ้เป็นสิ่งที่ฉันไม่ชอบเลยสักนิด มันทำให้ฉันอ่อนแอและมีน้ำตา จนกลายเป็นว่าเมื่อฉันทำอะไรที่ผิดพลาดไป ฉันเลยรู้สึกกลัวที่จะต้องผิดหวังขึ้นมา
" มันพูดยากเหลือเกินที่ในใจลึกๆฉันก็รู้สึกกลัวที่จะพ่ายแพ้ จนกลายเป็นว่าฉันไม่ได้รู้สึกยินดีกับใครเลย " เมื่อมองเห็นคนรอบตัวที่เริ่มทำอะไรประสบความสำเร็จจนเป็นชิ้นเป็นอันแล้ว แต่กลายเป็นว่าจากที่ฉันเคยทำได้ดีกว่านี้ ก็เริ่มรั้งท้ายและต้องเป็นฝ่ายไล่ตามคนอื่นแทน มันทำให้ฉันรู้สึกผิดหวังกับตัวเองอยู่ลึกๆ เมื่อฉันก็พยายามไม่ได้น้อยกว่าใคร จนกลายเป็นว่าฉันไม่สามารถฝืนยิ้มยินดีให้กับคนอื่นได้และต้องปิดบังความเศร้าของตัวเองไว้อยู่ตลอด จนแปรเปลี่ยนเป็นความคาดหวังและต้องกดดันตัวเองเพื่อให้ไล่ตามคนอื่นทันต่อไป
ทิ้งความสิ้นหวังนั่นไปซะ มันไม่ผิดหรอกที่ตัวเองไม่เก่ง แต่มันผิดที่ต้องคิดว่าตัวเองกำลังลงสนามเพื่อไปวิ่งแข่งกับใคร ในเมื่อเราทุกคนเกิดมามีอะไรหลายสิ่งหลายอย่างที่แตกต่างกัน ทำไมถึงต้องเอาตัวเองไปทัดเทียบกับความเก่งกาจที่ต้องถูกเลือกจากคนอื่นด้วยล่ะ ' ทำไม่ได้วันนี้ ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ตลอดไป ' ตราบใดที่คิดว่าเราไม่เก่ง เราก็ไม่มีทางทำให้ตัวเองเก่งขึ้นได้หรอก กลับกัน.. ถ้าเราคิดว่าเราเก่ง ว่าเราทำได้ เราก็สามารถทำสิ่งนั้นขึ้นมาใหม่ได้เอง เพราะความพ่ายแพ้ไม่ใช่ความสิ้นหวัง แต่นั่นคือบทเรียนที่จะทำให้เราเรียนรู้ถึงชีวิตที่ไม่ได้มีแค่ดีอย่างเดียว จังหวะชีวิตมีขึ้นมีลงมีเอียงมีซ้ายมีขวา เพราะงั้นเราก็อย่าได้หวาดกลัวที่จะต้องล้มลงเลย สิ่งที่เราควรหวาดกลัว คือตัวเองตอนที่ล้มเลิกความหวังไปต่างหาก
5. รู้สึกเหนื่อยล้า เพราะขาดกำลังใจ
จากคนไกลบ้านที่ต้องเผชิญภาวะโดดเดี่ยวนับเป็นเรื่องปกติที่ไม่ว่าเราจะกลับมาจากการทำงานที่เหนื่อยล้าขนาดไหน เมื่อพอเปิดประตูก็จะไม่พบใครสักคนที่อยู่ภายในห้อง ทำให้เราเกิดความเศร้าหลบในและคงคิดย้อนไปถึงวันที่ยังเป็นเด็ก เมื่อกลับมาบ้านก็จะได้พบหน้าของครอบครัวที่คอยรออยู่
ภาวะหมดไฟว่าน่ากลัวแล้ว เมื่อเจอภาวะเหนื่อยล้าสะสมมันช่างน่ากลัวซะกว่า เพราะเราไม่สามารถพูดบอกใครได้เลย โดยเหตุผลก็คงเป็นคำว่า " เราโตเกินที่จะบอกความเหน็ดเหนื่อยให้ใครสักคนฟัง " หรือ " เราบอกความเหน็ดเหนื่อยของเราไปจนหมด แต่ก็ไม่มีใครเข้าใจจนรู้สึกเหนื่อยกว่าเดิม " และมันคงยากที่เราจะโทรไปหาคุณพ่อคุณแม่ที่อยู่ห่างไกล เพราะเราเพิ่งเริ่มที่จะทำ แต่กับพวกท่านแล้วนำหน้าเราไปหลายปี
กำลังใจของเราไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคนที่เรารักและรักเรา รอที่จะให้เราโทรไปเล่าเรื่องพูดคุยให้ฟังมากมาย มากกว่าสิ่งใดก็คือกำลังใจไม่เคยห่างหายไปเลย เมื่อเรามองย้อนกลับไปก็ไม่ใช่ใครอื่นที่มองเราจากมา แต่เป็นคนในครอบครัวที่ไม่ว่าจะห่างไกลเกินซีกโลก ก็จะยิ้มยินดีและส่งความห่วงใยให้เราอยู่เสมอ อย่าคิดว่าต้องเผชิญกับโลกใบนี้คนเดียว เราต่างออกไปหาคำตอบให้กับชีวิต แต่เมื่อหมดกำลังใจหรือแรงผลักดัน ก็จะมีมือของคนที่อยู่ข้างหลังคอยยื่นมาให้เสมอ ไม่จำเป็นเลยว่าเราจะโตไปมากแค่ไหน แต่สิ่งสำคัญคือรอยยิ้มของคนที่เราพยายามจะทำให้สำเร็จเพื่อเขาต่างหาก
ความสุขเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นมา เลิกสนใจสิ่งนอกตัว แต่เลือกที่จะมองตัวเองด้วยความใส่ใจอยู่เสมอ พาตัวเองไปทำอะไรสนุกๆหรือเพิ่มเติมสีสันความชอบให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะผ่านไปสักกี่ปีเราก็เป็นผ้าขาวที่ต้องถูกเติมแต่งด้วยหลากหลายสีมากมาย ปลาไม่ผิดที่บินไม่ได้ นกไม่ผิดที่ว่ายน้ำไม่ได้ แต่เราเป็นได้ทุกอย่าง แค่เราลองลงมือทำ
ขอบคุณเครดิตรูปภาพจาก
ภาพปก โดย Free-Photos จาก Pixabay
ภาพที่ 1 โดย Free-Photos จาก Pixabay
ภาพที่ 2 โดย Free-Photos จาก Pixabay
ภาพที่ 3 โดย Free-Photos จาก Pixabay
ภาพที่ 4 โดย Free-Photos จาก Pixabay
ภาพที่ 5 โดย Free-Photos จาก Pixabay
ภาพที่ 6 โดย Free-Photos จาก Pixabay
ภาพที่ 7 โดย Free-Photos จาก Pixabay
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ความคิดเห็น