ข่าวสาร
เราจะรู้ได้อย่างไร ? ว่าอีกฝ่าย "จริงใจ" หรือ "หวังผลประโยชน์" กันแน่ ดูได้จากอะไรบ้าง ?

แน่นอนว่าในสังคมเราสมัยนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่หลากหลาย บางครั้งมันก็ใช้ชีวิตอยู่ได้ค่อนข้างยากลำบากเอามากๆ เพราะตัวเรานั้นไม่อาจรู้ได้เลยว่าผู้คนเหล่านั้นเขามีนิสัยแบบไหนอย่างไรกันแน่ ไม่รู้ว่าเขาจริงใจกับเราหรือเปล่า หรือแค่หลอกตักตวงผลประโยชน์จากเรา เนื่องด้วยปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลทำให้พฤติกรรมของคนเราต้องแปรเปลี่ยนไปจากเดิมมากยิ่งขึ้น การที่เราจะรู้ว่าอีกฝ่าย "จริงใจ" หรือว่า "หวังผลประโยชน์" จากเรานั้นมันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเอาซะเลย ต้องอาศัยระยะเวลาและความชำนาญในการดูที่ค่อนข้างละเอียด

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรกัน ? ว่าอีกฝ่ายนั้น "จริงใจ" หรือแค่ "หวังผลประโยชน์" กันแน่ จะมีวิธีในการดูคนเหล่านั้นอย่างไรบ้าง ? เดี๋ยวในเนื้อหานี้ผู้เขียนก็ได้นำวิธีการดูผู้คนเหล่านี้มาแชร์ให้กับเพื่อนๆ ครับ ซึ่งก็มาจากประสบการณ์ส่วนตัวโดยเฉพาะ จะมีวิธีไหนกันบ้างไปดูกันเลย
Advertisement
Advertisement
คำเตือน : เนื้อหานี้ไม่ได้เป็นการเหมารวมหรือพาดพิดถึงใครคนใดคนหนึ่งในเชิงลบทั้งสิ้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ความรู้และประสบการณ์แก่เหล่าผู้อ่าน ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการรีวิวจากความคิดเห็นส่วนตัวโดยเฉพาะ หากผิดพลาดแต่ประการใดทางผู้เขียนก็ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยครับ
1. ดูว่าเขาให้ความสำคัญมากน้อยแค่ไหน

การที่จะดูว่าอีกฝ่ายจริงใจกับเราหรือเปล่านั้น อีกหนึ่งสิ่งที่เราจะต้องดูเลยก็คือ "การให้ความสำคัญแก่กันและกัน" สอนวิธีในการสังเกตก็คือคนที่จริงใจเขาจะให้ความสำคัญกับเราเป็นอันดับแรกเสมอ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราต้องการเขา ต่อให้เขาจะงานยุ่งเพียงใดเขาก็จะมาหาเราทันที เมื่อไหร่ก็ตามที่เรากับเขามีนัดเขาก็จะยอมสละเวลาส่วนตัวเพื่อมาหาเราตามนัด แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายหาข้ออ้างเพื่อไม่มาตามที่เราขอ มีนัดแต่ก็ชอบเบี้ยวนัด ไม่ยอมรักษาเวลา แบบนี้มันก็ชี้ชัดได้ในระดับหนึ่งว่าอีกฝ่ายอาจจะกำลังตักตวงผลประโยชน์อะไรบางอย่างจากเราอยู่ก็เป็นได้ เพราะถ้าเป็นคนที่จริงใจจริงๆ เขาจะมาทำแบบนี้กับเราทำไมกัน
Advertisement
Advertisement
2. ดูว่าเขาหน้าไหว้หลังหลอกหรือเปล่า

คนที่ชอบพูดจาโกหก หลอกลวง หน้าไหว้หลังหลอก แน่นอนว่าคนประเภทนี้มักจะหาความจริงใจไม่ค่อยจะได้เลย ซึ่งในการที่เราจะสังเกตอีกฝ่ายว่าเขาจริงใจกับเราไหมจะต้องใช้ทักษะในการดูที่ค่อนข้างละเอียด โดยวิธีการดูก็คือในช่วงแรกๆ ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีอะไรมากมายนัก อีกฝ่ายมาเหมือนจะเป็นมิตรที่ดี มีปฏิสัมพันธ์กับเราดีหมดทุกอย่าง เหมือนกับว่าเราคือเพื่อนสนิทคนหนึ่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องรอดูต่อไปยาวๆ ถ้าหากเมื่อไหร่ที่เขามีพฤติกรรมที่ดูผิดแปลกไปจากเดิม เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือแล้วล่ะก็ ต่อหน้าทำอย่างแต่ลับหลังทำอีกอย่าง อันนี้แทบจะไม่ต้องสืบต่อ เขาอาจไม่ได้จริงใจอย่างที่คิด คนที่จริงใจจะต้องปฏิบัติกับเราแบบตรงไปตรงมา ทั้งต่อหน้าและลับหลัง มีความเสมอต้นเสมอปลายไม่มีเปลี่ยนแปลง
Advertisement
Advertisement
3. ดูตอนที่เราประสบความสำเร็จ

ในข้อนี้ถ้าหากเราลองสังเกตให้ดีๆ ในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตที่เราได้ประสบความสำเร็จ มีหน้าที่การงานที่มั่นคง มีทรัพย์สินเงินทองที่มากมายมหาศาล จะมีคนอยู่ 2 แบบคือคนที่จริงใจกับคนที่หวังผลประโยชน์ โดยคนที่จริงใจนั้นจะคอยแสดงความยินดีด้วยใจจริง เป็นแรงซัพพอร์ตให้กันและกัน ไม่เคยคาดหวัง ไม่คิดอิจฉาต่อกัน ไม่คิดหาผลประโยชน์แต่อย่างใดเลยแม้แต่น้อย ส่วนคนที่หวังผลประโยชน์นั้นจะสังเกตได้จากลักษณะน้ำเสียงการพูดจาที่ดูไพเราะน่าฟังแบบผิดปกติ การกระทำที่มันดูดีแปลกๆ เข้ามาทำทีเป็นตีสนิทด้วยเพื่อหวังประจบสอพลอให้เกิดความน่าเห็นใจ แล้วก็ถือโอกาสนี้ตักตวงผลประโยชน์จากเราเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ จะเห็นได้ว่าคน 2 แบบนี้ปฏิบัติแตกต่างกัน ดังนั้นลองสังเกตคนรอบตัวกันดูให้ดีๆ นะ
4. ดูตอนที่เราให้ความช่วยเหลือ

วิธีการสังเกตในข้อนี้ก็คือเมื่อเราให้ความช่วยเหลือกับคนคนหนึ่งอาจจะเป็นคนที่อยู่ใกล้ตัวเราก็ดีเช่นคนในครอบครัว เพื่อน หรือคนรัก เขาจะมี Reaction กลับมาไหม เขาจะตอบแทนในสิ่งที่เราทำหรือเปล่า อันนี้ก็ว่าสำคัญเป็นอย่างมาก ถ้าให้การช่วยใครก็แล้วแต่แล้วเขามี Reaction กลับมา เขาตอบแทนเราอยู่ตลอด นั่นแปลว่าเขาจริงใจกับเรา ถ้าเราช่วยใครแล้วอีกฝ่ายไม่มี Reaction อะไรกลับมาเลย เหมือนเราช่วยไปฟรีๆ อีกฝ่ายเป็นผู้รับเพียงอย่างเดียว แบบนี้ยิ่งต้องระวังตัวให้มากเป็นพิเศษ เพราะเราไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ เขาอาจหวังผลประโยชน์อะไรจากเราหรือเปล่า ทางที่ดีแนะนำเลยว่าอย่าเพิ่งใจดีมากเกินไป ควรเห็นแก่ตัวบ้างก็ดี อาจจะทำดีบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อเป็นการทดสอบคนก็ทำได้
5. ดูตอนที่เราลำบากหรือมีปัญหา

เขาว่ากันว่าการจะดูธาตุแท้ของคนได้ชัดเจนนั้นแน่นอนว่าเราจะต้องดูในช่วงที่ตัวเรานั้นตกที่นั่งลำบากหรือมีปัญหาจริงๆ เท่านั้น เพราะว่าในช่วงเวลานี้แหละคือช่วงที่เหมาะที่สุดที่เราจะได้รู้ว่าใครกันแน่ที่จริงใจหรือหวังผลประโยชน์ คนเรามันจะมีสักกี่คนเชียวที่จะคอยอยู่เคียงข้างเราในวันที่เราลำบากแบบนี้ โดยวิธีการสังเกตก็คือเวลาเรามีปัญหาแล้วก็มีคนคอยหยิบยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ คอยอยู่เคียงข้างกันไม่จากไปไหน นั่นหมายความว่าเขาจริงใจกับเราแบบ 100% แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เรามีปัญหาไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ แล้วอีกฝ่ายหนีหายเงียบไปเลย พอไปขอความช่วยเหลือก็กลับถูกปฏิเสธกลับมา นั่นมันก็ชัดเจนแล้วว่าเราไม่ควรที่จะไปต่อกับคนคนนั้น ควรตัดใจแล้วลืมๆ มันไปซะ
- แชร์ประสบการณ์ตรงจากผู้เขียน
ด้วยความที่เราเองก็เคยผ่านการเข้าหาสังคมที่หลากหลายมาแล้ว มันเลยทำให้เราได้รับรู้ถึงนิสัยบางอย่างของคนคนนั้นได้มากในระดับหนึ่ง มันทำให้เราได้เห็นถึงธาตุแท้ของคนคนนั้นได้มากขึ้นว่าแท้ที่จริงแล้วเขาเป็นคนแบบไหนยังไงกันแน่ คนที่จริงใจกับเราบอกเลยว่ามีน้อยมาก ส่วนใหญ่ที่เจอคือมีแต่คนที่เห็นแก่ตัว ชอบหาผลประโยชน์เข้าตัวเองทั้งสิ้น ถ้าถามว่ารู้สึกโกรธไหม ? ก็ต้องบอกเลยว่าแอบโกรธอยู่บ้าง แต่ถึงกระนั้นเราก็ต้องขอบคุณคนเหล่านั้นที่ทำให้เราได้เห็นถึงนิสัยใจคอที่แท้จริง และที่สำคัญคือมันยังเป็นตัวช่วยให้เราได้ตัดคนที่ไม่จริงใจออกไปจากชีวิตได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

และนี่ก็คือเนื้อหาทั้งหมดในบทความนี้ครับ ซึ่งก็แชร์จากประสบการณ์ส่วนตัว ก่อนอื่นผู้เขียนต้องบอกก่อนว่านี่มันไม่ใช่สูตรที่ตายตัว และทุกข้อที่กล่าวมามันก็ไม่สามารถที่จะการันตีได้แบบ 100% ว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนแบบไหน ดังนั้นเราจะต้องอาศัยระยะเวลาในการดูสักหน่อย ของแบบนี้อาจจะต้องใช้เวลาในการสังเกตนานอยู่พอสมควรกว่าจะได้รู้ถึงธาตุแท้ของคนคนนั้นอย่างแท้จริง อย่าเพิ่งไปปักใจเชื่ออะไรทั้งสิ้น คอยดูต่อไปก่อน ถ้าทุกอย่างมันชี้ชัดแล้วเราจึงค่อยคิดแก้ปัญหาและตัดสินใจว่าควรจะไปต่อดีไหม ? แต่ถึงยังไงก็ลองนำวิธีที่ผู้เขียนบอกไปนำไปพิจารณากันดูครับ หวังว่าเนื้อหานี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณครับ
เครดิตรูปภาพประกอบทั้งหมดจากเว็บไซต์ : Freepik.com
- ภาพหน้าปก : cookie_studio
- ภาพที่ 1 : freepik
- ภาพที่ 2 : drobotdean
- ภาพที่ 3 : teksomolika
- ภาพที่ 4 : drobotdean
- ภาพที่ 5 : freepik
- ภาพที่ 6 : senivpetro
- ภาพสุดท้าย : rawpixel.com
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
กำลังใจสำหรับผมนั่นคือแรง Support จากทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านบทความของผม ฝากนักเขียนคนนี้ด้วยนะครับ
ความคิดเห็น






