อื่นๆ
เรื่องผีสุดหลอน สนามเด็กเล่น

เป็นธรรมดาที่โรงเรียนประถมหลายๆโรงเรียนจะมีสนามเด็กเล่นอยู่ภายในโรงเรียน ซึ่งแต่ละโรงเรียนก็อาจจะมีเครื่องเล่นที่แตกต่างกันไป

โรงเรียนของฉันนั้นเป็นโรงเรียนที่อยู่ในตัวเมือง นักเรียนที่นี่เยอะ ตึกก็เป็นตึกอิฐตึกปูนไม่ใช่ตึกไม้ จึงทำให้บรรยากาศของโรงเรียนแห่งนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
ฉันเรียนอยู่ที่นี่มาได้นานพอสมควร โรงเรียนของฉันมีสนามเด็กเล่นที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กมาก ขนาดพอที่จะให้เด็กยี่สิบถึงสามสิบคนเข้าไปวิ่งเล่นได้ มีเครื่องเล่นมากมายหลายอย่างและที่สำคัญมีชิงช้าที่เด็กๆชอบพากันไปนั่งเล่นด้วย

ฉันไม่เคยเข้าไปเล่นในสนามเด็กเล่นนั้นเลยตั้งแต่ที่ฉันเรียนที่นี่มา บอกตรงๆก็คือฉันไม่ชอบที่ที่คนเยอะหล่ะนะ เด็กเกือบสามสิบคนวิ่งเล่นในสนามเด็กเล่นส่งเสียงเจื้อยแจ้ว ฉันไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่
เหตุการณ์สุดหลอนที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเจอก็เกิดกับฉัน วันนั้นแม่ของฉันติดธุระจึงมารับฉันช้ามาก ปกติโรงเรียนของฉันเลิกเวลาบ่ายสามโมงครึ่ง พอถึงบายสี่โมงเย็นแม่ก็มาถึงโรงเรียนรอรับฉันแล้ว ซึ่งในเวลานั้นเด็กๆในโรงเรียนก็ยังเหลืออยู่ล้นหลาม แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆเด็กๆก็จะเริ่มลดลงเพราะพวกเขากลับบ้านกันแล้ว ฉันไม่เคยกลับบ้านช้าเกินสี่โมงเย็นเลยสักครั้ง
Advertisement
Advertisement
วันนั้นที่แม่บอกว่าติดธุระแล้วจะมารับฉันช้าฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ฉันก็นั่งคุยเล่นกับเพื่อนสนิทรอแม่มารับ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนถึงสี่โมงครึ่งแม่ฉันก็ยังไม่มา ฉันก็ไม่ได้กังวลอะไรมากเพราะเพื่อนสนิทฉันก็ยังไม่กลับบ้าน จนเวลาผ่านไปแล้วผ่านไปอีกแม่ฉันก็ยังไม่มารับสักที พอถึงเวลาห้าโมงเย็นถึงเวลาที่เพื่อนฉันต้องกลับบ้าน ฉันก็เริ่มเป็นกังวลใจนิดหน่อยเพราะมันเริ่มมืดแถมเด็กๆในโรงเรียนก็เหลือกันไม่ถึงสิบคนแล้ว
บรรยากาศภายในโรงเรียนเงียบสงัด จากที่เคยได้ยินเสียงเด็กพูดเจื้อยแจ้ว ตอนนี้มันกลับไม่มีแล้ว ฉันนั่งกอดกระเป๋าอยู่ตรงไม้หินอ่อน ในใจภาวนาขอให้แม่มารับฉันเร็วๆ
เวลาผ่านไปอีกสิบนาทีฉันก็ยังนั่งอยู่แบบนั้น ฉันกลัวจึงลุกขึ้นเดินไปบริเวณรอบๆเพื่อหาว่ายังมีเด็กเหลืออยู่มั้ย จนฉันไปหยุดอยู่ที่สนามเด็กเล่น ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาน่าจะประมาณห้าโมงยี่สิบนาที ฉันเห็นเด็กผู้หญิงคนนึงนั่งอยู่ตรงชิงช้า เธอห้อยขาแกว่งไปแกว่งมา ก้มหน้าก้มตา ฉันอุ่นใจขึ้นมาเล็กน้อย พร้อมกับเดินเข้าไปในสนามเด็กเล่นนั้น ฉันไปนั่งที่ชิงช้าข้างๆเธอ ดูเหมือนเธอจะยังไม่รู้ตัวว่าฉันมา
Advertisement
Advertisement
ฉันนำมือไปแตะบนไหล่เธอเบาๆแล้วบอกว่า นี่ๆ ทำไมเธอยังไม่กลับ แม่ยังไม่มารับหรอ เธอนิ่งไร้ซึ่งการตอบกลับ ฉันจึงลองถามเธออีกครั้ง แต่ก็เป็นเหมือนเดิม เธอไม่ได้โต้ตอบฉันแต่อย่างไร ฉันถอนหายใจเล็กน้อย แล้วพูดเสียงดังๆถามเธอไปอีกรอบ ทันใดนั้น ฉันก็ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อฉัน ฉันตกใจสดุ้งพร้อมกับหันไปที่ต้นตอของเสียง นั่นแม่ฉันเอง
ฉันดีใจที่จะได้กลับบ้านสักที ฉันรีบเดินจ้ำอ้าวไปหาแม่ สิ่งแรกที่แม่พูดกับฉันทำเอาฉันงงไปนิดหน่อย แม่บอกกับฉันว่า เมื่อกี้ลูกคุยกับใครหรอ ฉันทำหน้างงๆแล้วตอบกลับแม่ไปว่า ก็เด็กคนนั้นไงคะ พร้อมชี้นิ้วไปที่เด็กคนนั้นนั่งอยู่ แม่ทำหน้าตกใจสุดขีด แม่จับมือฉันแล้วรีบพาฉันออกไปจากตรงนั้นทันที ฉันไม่เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้เลย ฉันได้แต่เดินตามแม่ไป ในหัวฉันสงสัยว่าแม่ตกใจอะไรกันแน่ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของฉัน ฉันจึงหันหน้ากลับไปมองที่ที่เด็กผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ เธอเงยหน้ามาสบตากับฉัน แล้วแสยะยิ้ม เธอหัวเราะเสียงดังลั่น จากนั้นเลือดก็ค่อยๆไหลออกมาจากปากและจมูกของเธอ ลูกตาของหลุดออกมาจากเบ้าทีละข้าง เพียงเสี้ยววินาที เธอก็ได้มาอยู่ตรงหน้าฉัน ด้วยความตกใจฉันก็ได้เป็นลมแล้วหมดสติไป
Advertisement
Advertisement

หลังจากเหตุการณ์วันนั้นแม่ของฉันได้ไปทำเรื่องย้ายโรงเรียนให้ฉันทันที ภาพที่เด็กคนนั้นโผล่มาตรงฉันด้วยสภาพที่เละยังคงติดตาฉันอยู่จนถึงทุกวันนี้ ฉันคิดว่าที่แม่ตกใจแม่ก็คงจะเห็นแบบเดียวกันกับที่ฉันเห็น

เครดิตรูปภาพ
ภาพที่ 1 apriljlamb / pixabay
ภาพที่ 3 magwood_photography / pixabay
ภาพที่ 4 PublicDomainPictures / pixabay
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ความคิดเห็น






