อื่นๆ

เรื่องเล่า ของคนเคยทำธุรกิจ “เจ๊ง” !!

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เรื่องเล่า ของคนเคยทำธุรกิจ “เจ๊ง” !!

Closed

เรื่องเล่า ของคนเคยทำธุรกิจ “เจ๊ง” !!

เรื่องมันมีอยู่ว่า....

          ครั้งหนึ่ง ผมเคยตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เพราะรู้ตัวเองว่าไม่เหมาะกับการเป็นมนุษย์เงินเดือนเลย ด้วยเงื่อนไขและปัจจัยต่างๆที่มนุษย์เงินเดือนหลายๆคนเคยพบเจอ การลาออกครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกของผม แต่เป็นครั้งแรกที่ลาออก เพื่อทำธุรกิจของตัวเอง ซึ่งผมก็แอบหวั่นๆ อยู่ในใจว่าจะทำได้ดีแค่ไหน จะไปรอดหรือไม่ เพราะเกิดมาก็ไม่เคยทำธุรกิจเลย อย่างมากก็แค่ขายของตามงานนิทรรศการช่วงที่เป็นนักศึกษา เลยต้องเผื่อใจไว้หน่อย ไม่รุ่งก็ร่วง มีแค่ 2 ทางเท่านั้น เป็นไงเป็นกัน แค่ขอได้ลองลงมือทำ ถ้ารุ่งก็โชคดีไป ได้ตังค์ แต่ถ้าร่วง ก็โชคดีน้อยหน่อย ที่ไม่ได้ตังค์ แต่ได้ประสบการณ์และบทเรียนที่ได้รู้ว่าทำยังไงให้เจ๊ง!!

          ผมตระเวนหาสถานที่สำหรับเปิดร้าน จนไปพบบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ติดถนนหลังหนึ่ง อยู่ในทำเลค้าขาย แต่ก็ไม่ได้มีคนพลุกพล่านมากนัก มีรถสัญจรไปมาตลอดทั้งวัน แต่โชคร้ายที่หาที่จอดรถยากมาก ร้านค้าในบริเวณนั้นก็บอกแค่ว่า ยอดขายในแต่ละวันไม่มากนัก ไม่ถึงขั้นขายดี ยกเว้นช่วงเทศกาล ที่จะขายดีหน่อย แต่ก็อยู่ได้เรื่อยๆ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนที่อาศัยในชุมชนนั้น และมีโรงเรียนในละแวกนั้นอีก 2 แห่งระดับประถมและมัธยม ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมตัดสินใจเช่าบ้านหลังนี้ และคิดว่าธุรกิจมันต้องไปได้

Advertisement

Advertisement

            ผมและเพื่อนร่วมกันลงทุนเปิดร้านชานมไข่มุก ซึ่งช่วงนั้นก็ถือเป็นเครื่องดื่มที่กำลังอยู่ในกระแส และละแวกที่เราไปเช่าบ้าน ก็ไม่มีร้านเครื่องดื่มลักษณะนี้เลย แอบดีใจที่ไม่มีคู่แข่ง แต่อีกใจก็แอบคิดว่า อาจมีคนเคยมาเปิด แต่ไปไม่รอดหรือเปล่า ผมกับเพื่อนช่วยกันออกแบบร้าน ซื้อไม้พาเลท (Pallet) มาทำเคาน์เตอร์ โต๊ะ เก้าอี้ เอง ซื้ออุปกรณ์ต่างๆ เท่าที่ควรจะมีและหาได้ ด้วยต้นทุนที่ไม่บานปลายมากนัก เป็นช่วงเวลาที่ใช้แรงเยอะทีเดียว ทั้งเลื่อยไม้ ตอกตะปู ทาสี ปูเสื่อน้ำมันใหม่ ออกแบบทำป้ายเมนู ดีที่มีแรงงานจิตอาสามาช่วยบ้างบางคราว ไม่งั้นก็ผมกับเพื่อนก็แย่เหมือนกัน
Renovate

เริ่มทำธุรกิจ ไม่ง่ายเลย

            ธุรกิจเป็นรูปเป็นร่าง ภายในระยะเวลา 1 เดือนเศษๆ ในระหว่างนั้น ผมก็ซื้อคอร์สเรียนชงชานม ชงเครื่องดื่มและการต้มไข่มุก ซึ่งก็ถือเป็นการเปิดโลกเหมือนกัน จริงๆแล้ว ไม่ได้มีขั้นตอนอะไรซับซ้อนเลย แต่ก็ถือเป็นการลงทุนเพื่อให้ได้ความรู้มา จากนั้นก็เริ่มเข้าสู่สนามจริงละ เปิดร้านวันแรก ตื่นเต้นมาก ตื่นตั้งแต่เช้ามืด เพื่อมาต้มชา ต้มไข่มุก เตรียมของให้เรียบร้อย เพื่อเปิดร้านตอน 9 โมง แต่ก็เกือบเปิดร้านไม่ทัน พอถึงเวลาเปิด ก็มีร้านค้าใกล้เคียงมาอุดหนุนเอาฤกษ์เอาชัย ใจชื้นขึ้นมาหน่อย สูตรชงเครื่องดื่มก็เหมือนกับที่ผมไปเรียนมา แต่วัตถุดิบที่ใช้มันต่างกันเท่านั้น แล้วผลที่ได้ก็คือ Feedback ไม่ค่อยดีนัก หวานเกิน จืดเกิน มีแต่กลิ่นนมข้น ผมก็ได้แต่เก็บ Feedback นั้นมาแก้ไข ค่อยๆปรับ เปิด YouTube บ้าง Google บ้าง สูตรไหนที่เค้าว่าดี ผมลองชงหมด แล้วหาเหยื่อมาชิม 555 แต่ก็ช่วยได้เยอะครับ โดยเฉพาะเครื่องดื่มประเภทชา ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำให้มีกลิ่นหอมและยังมีความเข้มข้นของชาในปริมาณที่พอดี ผมกับเพื่อนก็ปรับปรุง พัฒนาสูตรไปเรื่อยๆ จนเริ่มมีลูกค้าประจำ และก็เป็นความโชคดีอีกอย่างที่ลูกค้าก็คอยบอกเราเสมอ ว่ารสชาติเครื่องดื่มแต่ละแก้ว ยังเหมือนเดิมหรือมีอะไรเปลี่ยนไปมั้ย โชคดีกว่านั้นที่ผมดันจำได้ว่าลูกค้าแต่ละคนชอบดื่มอะไร แบบไหน ซึ่งการจดจำลูกค้าได้ ก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลยครับ ถือเป็นความใส่ใจต่อลูกค้า ถ้ามองในมุมกลับ หากคุณเป็นลูกค้าของร้านกาแฟร้านหนึ่ง แล้วบาริสต้าทักทายและจำเมนูของคุณได้ทุกครั้งที่ไปใช้บริการ คุณจะรู้สึกประทับใจแค่ไหนครับ สิ่งนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดลูกค้าได้ดีมากกว่ารสชาติของเครื่องดื่มเสียด้วยซ้ำ เพราะจริงๆแล้ว เครื่องดื่มมีสูตรการทำที่ไม่ต่างกันมาก วัตถุดิบก็หาได้จากแหล่งเดียวกัน อีกทั้ง คำว่า “อร่อย” ของแต่ละคน ก็ไม่เหมือนกัน เครื่องดื่มที่อร่อยและดีที่สุด ก็คือ เครื่องดื่มที่ลูกค้าชอบ และต้องไม่ลืมการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า ตั้งแต่ลูกค้าก้าวเท้าเข้ามาในร้าน จนออกจากร้าน ทุกวินาทีคือประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับ ลูกค้าจะซื้อซ้ำมั้ย ก็น่าจะวัดกันตรงนี้แหละครับ

Advertisement

Advertisement

Coffee Shopเหมือนจะไปได้ดี แต่....

            ธุรกิจของผมและเพื่อน มีลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ จากปากต่อปาก ทั้งเรื่องรสชาติและความเป็นกันเองของเราที่มอบให้กับลูกค้า แต่เรื่องนี้มันก็มีโชคร้ายอยู่หน่อย ก็ตรงที่เชื้อโควิด 19 ทวีความรุนแรงมากขึ้น โรงเรียนถูกสั่งปิด ไม่ให้เด็กมาโรงเรียน อีกทั้ง การระมัดระวังเรื่องระยะห่าง ก็ส่งผลกระทบกับร้านค้าทั้งหมด และร้านของผมก็ได้รับผลกระทบนั้นเต็มๆ เพราะลูกค้าหลักคือเด็กนักเรียน ประกอบกับผมพึ่งลงทุนเช่าเครื่องผลิตน้ำแข็งด้วย แม้ผมจะเข้าร่วมกับธุรกิจ Delivery หลายเจ้า แต่ไม่ได้ทำให้ยอดขายกลับมาเท่าเดิม ในที่สุดก็แบกรับต้นทุนไม่ไหวจริงๆ รวมเวลาที่ดำเนินธุรกิจทั้งสิ้น 5 เดือน ก็ต้องม้วนเสื่อกลับบ้าน แล้วกลับเข้าสู่วงจรมนุษย์เงินเดือนอีกครั้ง เพื่อหารายได้มาดำรงชีวิตไปก่อน
Shop

เรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า....

Advertisement

Advertisement

            ทุกวันนี้ ผมยังจำความรู้สึกของการเป็นผู้ประกอบการได้ดีครับ เหนื่อย นอนน้อย คิดและทำทุกอย่างในร้านทั้งหมด เวลาพัก เวลากินข้าวก็แทบไม่มี ส่วนวันหยุดนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย หยุด 1 วันนี่คือขาดรายได้ไปเลยครับ แต่ถ้ามาคิดดูดีๆแล้ว ผมก็ได้เห็นคุณค่าของการทำงานเพื่อตัวเอง ทำมาก ได้มาก ทำดีลูกค้าก็ชอบ ได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์จากทั้งลูกค้าและผู้ประกอบการคนอื่น และได้รู้ว่าการทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่จะลงมือทำ อยู่ที่ว่าเรารักที่จะทำและอยู่กับธุรกิจนั้นได้นานแค่ไหน แค่เราต้องเชื่อมั่นในตัวเองว่าสิ่งที่เราทำมันต้องไปต่อได้ ทำด้วยใจ หมั่นปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพให้ดีอยู่เสมอ เพราะคนที่เค้าชอบของดีๆมีคุณภาพ เค้า “ดูออก” นะครับ :)

ภาพประกอบที่ 1 จาก: SummerButRain / Canva

ภาพประกอบที่ 2 จาก:  Blue Bird / Pexels

ภาพประกอบที่ 3 จาก: Zeynep / Pexels

ภาพประกอบที่ 4 จาก: Lisa / Pexels

*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"* ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`

คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkq

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQ

ร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์

Advertisement

Advertisement

ติดกระแส

Advertisement

Advertisement

Advertisement

ข้อตกลงและเงื่อนไข|Copyright © True Digital & Media Platform Company Limited. All rights reserved