อื่นๆ

เลิกกลัวที่จะต้องอยู่คนเดียว

487
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เลิกกลัวที่จะต้องอยู่คนเดียว

ก่อนหน้านี้หลาย ๆ คนมักนิยมพูดกันว่า คนดีมักจะ “กินข้าวคนเดียว” และ “กินข้าวในห้องน้ำ” เพราะกลัวที่ต้องอยู่คนเดียว 

แต่ที่จริงแล้ว สิ่งที่คนเหล่านี้กลัวมากว่าการอยู่คนเดียวก็คือ “การที่คนอื่นเห็นว่าตัวเองอยู่คนเดียว” 

คนดีมักแคร์สายตาของอื่นและ “คิดไปเอง” ว่า ถ้าอยู่คนเดียวก็จะโดนมองว่า “คนนั้นอยู่คนเดียว น่าสงสารจัง” คนนั้นแปลก ๆ นะอยู่คนเดียวตลอดเลย หรือ เขาไม่มีเพื่อนเลยคงจะเหงาน่าดู” ก็เลยกลัวว่าจะมีใครเห็นว่าตัวเองอยู่คนเดียว 

ภาพจาก pixabay.com                                                                                 ขอบคุณภาพจาก pixabay.com

คนดีจึงพยายามมีเพื่อนให้มากแม้เป็นคนที่ตัวเองไม่ชอบก็ตาม หรือทนอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่เข้ากันไม่ได้เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์นั้น ๆ การฝืนอยู่กับคนที่ไม่ชอบทำให้เราเหนื่อยง่ายค่ะเพราะไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่คนเหล่านี้มักคิดว่าอย่างน้อยก็ยังดีกว่าอยู่คนเดียว 

Advertisement

Advertisement

การอยู่คนเดียวหรือปล่อยให้คนอื่นเห็นว่าเราอยู่คนเดียวเป็นเรื่องดีน่าอายขนาดนั้นเลยหรอ? คนที่อยู่คนเดียวไม่ได้แปลว่าต้องเป็นคนที่น่าสงสารหรือแปลกประหลาดสักหน่อย ถ้าจะพูดถึงคนนิสัยแปลก ๆ คงเป็นตัวเราเองนี่หละที่นิสัยแปลกประหลาดกว่าใคร นอกจากนี้การถูกคนอื่นมองว่าา “เขาไม่มีเพื่อนเลยคงจะเหงาน่าดู” เป็นเรื่องที่น่าเดือดร้อนตรงไหน? ถ้าพูดกันตรง ๆ แล้วเราไม่ได้เดือดร้อนเลยสักนิด จริงไหมคะ 

ภาพจาก pixabay.com                                                                                 ขอบคุณภาพจาก pixabay.com

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราไปนั่งร้านเนื้อย่างหรือร้านอิซากายะ คนเดียว คนรอบข้างก็มีแต่คนที่เราไม่รู้จักทั้งนั้น ไม่ใช่คนที่เราต้องคบหาสมาคมด้วยพอออกจากร้านไปก็จำหน้าหรือแม้กระทั่งตัวตนของเราไม่ได้ด้วยซ้ำ อีกฝ่ายจะคิดกับเรายังไงก็ไม่ส่งผลดีหรือผลเสียต่อเราเลยค่ะ ใช่ว่าเขาจะเข้ามาทำร้าย ฉกเงินไปจากกระเป๋าหรือขัดดขวางการทำงานของเราได้สักหน่อย 

Advertisement

Advertisement

สรุปแล้ว “เราก็แค่รู้สึกแย่ไปเอง” 

การอยู่คนเดียวอาจเป็นเรื่องน่าเบื่อหรือชวนเหงาอยู่บ้าง แต่สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดีอย่างแท้จริงคือการคิดไปเองหรือกังวลว่าคนอื่นจะคิดกับเรายังไงบ้างค่ะ 

ตัวเราเองนี่แหละที่สร้างความน่ากลัวนั้นขึ้นมา 

ความกลัวที่ว่านี้ไม่ใช่แค่ “กลัวที่ต้องให้ใครเห็นว่าอยู่คนเดียว” กว่าครึ่งหนึ่งของความกลัวเกิดจาก การคิดไปเองมากกว่า สภาพที่แท้จริงหรือเหตุการณ์ปัจจุบัน” 

ยกตัวอย่างเช่น คนที่กังวงเรื่องเราชี้เพราะกลัวว่า “คนอื่นจะหัวเราะเยาะรึเปล่า” แต่ก็อาจจะมีคนมองว่า “น่ารกดี” ก็ได้นะ 

สมัยเรียนเราเคยกังวลเรื่องสิวมากเพราะกลัวว่าจะโดนเพื่อนร่วมชั้นมองว่า สกปรก ไม่ดูแลตัวเอง หรือพวกผู้ชายจะไม่กล้าเข้าใกล้ บลา ๆ  

ภาพจาก pixabay.com                                                                                ขอบคุณภาพจาก pixabay.com

แต่ความจริงแล้วไม่มีใครมองเราแบบนั้นเลย ถ้าเรามีสิวแต่เราก็ยังสามารถคบกับเพื่อน ๆ ได้อย่างราบรื่นแถมยังหาแฟนได้ด้วย สรุป สิ่งที่เรากังวลหรือกลัวนั้นมันไม่มีอยู่จริงค่ะ แต่เป็นเพียงสิ่งที่คิดขึ้นเองทั้งนั้น ซึ่งเกิดจากการคิดถึงตัวเองมากเกินไป ทั้งที่ความจริงแล้ว “ไม่มีใครสนใจเรื่องพวกนี้หรอกอย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย” จริง ๆ นะคะ 

Advertisement

Advertisement

วัยรุ่นเป็นช่วงอายุที่ค่อนข้างอ่อนไหวง่าย บางคนยังหาตัวตนไม่เจอ จึงมักจะอาศัยเกณฑ์ที่เข้าใจง่าย เช่น รูปลักษณ์ภายนอก ความสามารถทางกีฬา หรือผลการเรียน มาตัดสินคุณค่าของตัวเอง พวกเขาจึงมักจะใส่ใจสายตาของคนรอบข้างค่ะ 

แต่คนที่เป็นตัวของตัวเองจะไม่แบ่งแยกเวลาที่อยู่กับคนอื่นกับเวลาที่อยู่ตามลำพัง เขาจึงสบายใจและไม่เหงาแม้จะอยู่คนเดียว 

ยิ่งเราเป็นตัวของตัวเองมากเท่าไหร่ จะยิ่งรู้จักเลี่ยงการอยู่กับคนมาก ๆ และไม่ต้องคบหาสมาคมกับคนที่ไม่จำเป็น 

ภาพจาก pixabay.com                                                                                 ขอบคุณภาพจาก pixabay.com

คำพูดว่า “คนไม่มีเพื่อนคือคนไร้ค่า” เป็นแค่การคิดไปเอง คนที่อยู่คนเดียวแต่ประสบความสำเร็จได้ก็มีมากมาย 

สิ่งที่จะสร้างความมั่นใจให้เรายืนได้ด้วยตัวของตัวเอง เดินได้ด้วยแรงของตัวเอง และใช้ชีวิตด้วยการตัดสินใจของตัวเองได้นั้น ไม่ได้มาจากคนอื่นแต่มาจากตัวเราเองทั้งสิ้นค่ะ 

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจว่า “การให้คนอื่นเห็นว่าเราอยู่คนเดียวเป็นเรื่องน่าอาย” นั้นเป็นความกังวลที่เราสร้างขึ้นโดยไม่มีมูลเหตุเลย อีกอย่างคือต้องรู้ว่า “การอยู่คนเดียว” เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยสร้างตัวตนของเราค่ะ 

เอาเป็นว่าเราจงเลิกกลัวที่จะต้องอยู่คนเดียวนะคะ คนที่เลิกไม่ได้ ก็ต้องทนคบค้าสมาคมกับคนที่เข้ากันไม่ได้ ส่วนคนที่เลิกได้ ก็ใช้ชีวิตได้ด้วยลำแข้งตัวเองและการตัดสินใจของตัวเองค่ะ 


ขอบคุณภาพจาก pixabay.com

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์