ไลฟ์แฮ็ก
เลิกมัลติทาสก์มาโฟกัส ทำงานให้เสร็จชัด ๆ ไปทีละเรื่อง

Cover Photo by Joanna Kosinska on Unsplash
เพราะคุณมีเรื่องต้องทำเยอะมาก คุณจึงต้องทำตัวเป็น Multitask ด้วยการทำมันพร้อมกันทุกเรื่อง มีช่องว่างระหว่างภารกิจเป็นไม่ได้ คุณต้องมีคิวแทรกทำอะไรไปพร้อมกันเสมอ ออกแนวมือก็ไกวดาบก็แกว่งเท้ายังมีแรงปั่นไปด้วย
ยิ่งเป็นคนที่คิดเร็วทำเร็วเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนมีจุดหมายที่ต้องบรรลุมากมายในแต่ละวัน ดูเผิน ๆ เหมือนขยันและทำได้สำเร็จเยอะมาก แต่เรื่องที่ทำใจได้ยากคือ “ไม่เสร็จจริง ๆ สักเรื่อง”
เมื่อพยายามจะทำให้เสร็จ แต่สุดท้ายไม่มีอะไรเสร็จสักอย่าง จึงมักเกิดความท้อใจ สุดท้ายก็เลิกไปเสียอย่างนั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะจริง ๆ เรื่องนี้แก้ได้ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ แค่เลิกทำตัวเป็นทศกัณฐ์ เพราะคนเราไม่ต้องมีสิบหน้ายี่สิบมือเท่านั้นจึงจะทำงานได้สำเร็จ
Advertisement
Advertisement
ฉันเป็นคนหนึ่งที่เคยเข้าใจผิดว่าการที่ตัวเองทำหลายสิ่งพร้อมกันคือความสามารถ มีแต่คนเก่งเท่านั้นที่แยกประสาททำพร้อมกันทุกเรื่องได้ บางทียังไปสั่งสอนเพื่อนให้หัดทำหลายอย่างพร้อมกันด้วยซ้ำ ทั้งที่การที่เขาค่อย ๆ ทำทีละเรื่องก็ดีแล้ว
งานวิจัยของ American Psychological Association เผยว่า ในความเป็นจริงการกระโดดจากภารกิจหนึ่งสลับกับภารกิจหนึ่งตลอดเวลา ผลออกมากลับกลายเป็นว่าทำงานได้ไม่มากอย่างที่คิด
ขณะที่บางคนรู้สึกผิดที่เมาท์มอยกับเพื่อนทางโทรศัพท์ จึงขยับมาเปิดอีเมล์ตอบไปด้วย มักพบว่าการตอบอีเมล์อาจไม่สำเร็จ แถมเมาท์มอยก็ยังไม่มันส์ เรียกว่าทำพร้อมกันแล้วไม่สุดทั้งสองเรื่อง
ข่าวร้ายกว่านั้นคือถ้าคุณทำงานสองอย่างพร้อมกัน งานที่ใหญ่และสำคัญจะเสร็จช้าลงกว่าอันย่อย ทั้งนี้เพราะสมองและจิตใจไม่ได้ถูกดีไซน์มาให้ทำงานในลักษณะนี้
Advertisement
Advertisement
ดังนั้นเคล็ดลับทำงานให้เสร็จเร็วและผลออกมาดี ง่ายมากแค่เลิกทำตัวเป็นมัลติทาสก์เสียที แล้วหันมาโฟกัสทีละอย่างให้เสร็จไปทีละเรื่อง
Photo by Patrick Perkins on Unsplash
เคล็ดลับอันเดียวดื้อ ๆ นี้ มีเหตุผลสนับสนุนหลายอย่าง มาดูว่าการทำทีละอย่าง ทำไมถึงทำได้งานปริมาณมากกว่า
1) ใช้แรมน้อยลงสมองลื่นขึ้น คุณคงรู้ว่าสมองเราเก็บข้อมูลมากมาย จนต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ด้วยการลืมไปบางอย่าง คนที่มีเรื่องในหัวมากจึงมักเป็นคนขี้ลืม เหมือนคุณเปิดคอมพิวเตอร์ทำงานหลายโปรแกรมพร้อมกัน มันก็จะมีอาการเอ๋อหรือช้าลงเพราะแรมมันไม่พอ การโฟกัสทีละงานเปรียบเหมือนเป็นการปิดโปรแกรมบนหน้าจอให้เหลืออันเดียว เป็นการคืนแรมให้ระบบ คุณจะพบว่าสมองคุณทำงานลื่นขึ้นทันที
2) งานที่มีความหมายมากที่สุดจะสำเร็จทำหลายอย่างพร้อมกัน ทั้งสองงานอาจเดินไปข้างหน้า แต่งานที่สำคัญกว่าอาจไม่เสร็จงานที่สำเร็จกลับเป็นงานไม่สำคัญ ดังนั้นเรียงลำดับเป้าหมายดีกว่า ว่าอะไรคือเรื่องสำคัญที่สุดของวันนี้ แล้วให้ลงมือทำสิ่งนั้นก่อน
Advertisement
Advertisement
Photo by Retha Ferguson from Pexels
3) ความกังวลทับซ้อนจะลดลง ยิ่งมีภารกิจรอคุณอยู่มากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ในใจคุณมีแต่ความกังวลซับซ้อน แต่ถ้าคุณวางภารกิจย่อยทั้งหมดทิ้งไว้ แล้วตั้งหน้าสู้กับภารกิจที่ใหญ่และสำคัญให้เสร็จก่อน เมื่อเสร็จเรื่องสำคัญ ปริมาณความกังวลที่ใหญ่ที่สุดจะหายวับ ทำให้คุณรับมือกับความกังวลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เหลือได้สบายขึ้น
4) ไม่เสียเวลากับการตั้งสมาธิ มีงานวิจัยพบว่า เมื่อคุณหันเหสมองออกจากภารกิจหนึ่งไปอีกภารกิจหนึ่ง สมองจะต้องใช้เวลาราว 15 นาทีในการ “รีโฟกัส” กับงานใหม่ ลองคิดภาพว่าคุณทำอะไรต่อมิอะไรสามอย่างไปพร้อม ๆ กัน ทุกครั้งที่คุณสลับภารกิจจากหนึ่งไปสอง และสองไปสามนั้น คุณต้องเสียเวลาครั้งละ 15 นาที รวมแล้ววันหนึ่งอาจเป็นนับร้อยนาทีที่คุณเสียไป
Photo by Chase Clark on Unsplash
สรุปว่างานจะเสร็จสำเร็จดังใจ เคล็ดลับง่ายแค่เลิกทำตัวเป็นทศกัณฐ์ เลิกทำมันพร้อมกันแล้วมุ่งมั่นทำให้เสร็จไปทีละอย่าง คุณจะสร้างผลงานที่ได้เรื่องได้ราวกว่า
ที่สำคัญมันดีต่อใจมากกว่า เมื่อได้ไชโยว่าทำเรื่องใหญ่สำเร็จแล้ววันนี้ ดีกว่านอนหมดแรงเพราะเหนื่อยมากมาย แต่พรุ่งนี้ต้องลุกขึ้นมาทำทั้งหมดใหม่ เพราะยังไม่มีอะไรเสร็จจริง ๆ เลยสักงาน !
ความคิดเห็น







Photo by Andrea Piacquadio from Pexels