อื่นๆ
เล่าเรื่องความน่ารักของเด็กดอย

โรงเรียนแห่งนี้ตั้งอยู่ใน หมู่ 9 ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ในสมัยที่เป็นเด็กจำได้ว่ามีนักเรียนเข้ามาเรียนเยอะเหมือนกัน อาคารไม้ยกสูงจากพื้นมาประมาณเมตรกว่าๆ แต่ตอนนี้ได้กลับมาเห็นความเปลี่ยนแปลงของโรงเรียนว่ามีการพัฒนาอาคารสถานที่ หลายอย่าง แต่นักเรียนกลับน้อยลง มีประมาณ 50-60 กว่าคน ในแต่ละปี ส่วนใหญ่เด็กนักเรียนที่นี้ จะเป็นเด็กชนเผ่าม้งที่ลงมาเรียน ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร นอกนั้นก็เป็นเด็กจากประเทศเพื่อนบ้านที่ติดตามผู้ปกครองเข้ามาทำงานในประเทศไทย คนเมืองที่อยู่ใกล้ๆบริเวณโรงเรียนมีมาเรียนประมาณ 1-2 คน อาจเพราะการเดินทางเข้าไปเรียนในโรงเรียนตัวเมือง มันสะดวกขึ้นไม่ลำบากเมื่อสมัยก่อนที่เรียน
ด้วยความที่เขาเป็นเด็กชนเผ่า การสื่อสารกันบางครั้ง ก็มีเรื่องที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเขาจะเข้าใจในสิ่งที่เราพูดทุกคำไหม มันก็เลยทำให้มีเรื่องเล่าขำๆน่ารักๆ ตามประสาทเด็กๆ จากการได้พูดคุยกับเด็ก มาเล่าสู่กันฟัง
Advertisement
Advertisement
เรื่องแรก พ่อกับแม่ใครทำกับข้าวอร่อยกว่ากัน
เด็ก : พ่อหนูมีหมวกทำอาหารด้วยนะคะ
เรา : เหรอคะ แล้วพ่อกับแม่ใครทำกับข้าวอร่อยกว่า
เด็ก : พ่อหนูคะ (ตอบเร็วแบบไม่ต้องคิดนาน ^-^ )
เรา : แล้วแม่ทำไม่อร่อยเหรอลูก
เด็ก : ก็อร่อย ตอนที่ซื้อมาคะ (ตอบแบบเสียงเบา แบบใช้เวลาคิดนานหน่อย ^-^! )
เรื่องที่สอง เรื่องบัว
ครู : คำว่า บัว มีใครรู้จักบ้างไหมคะ (เด็กๆยกมือกันหลายคน)
เด็กคนที่ 1 : ผมรู้ๆ คับ มันอยู่ในน้ำคับ
เด็กคนที่ 2 : ผมก็รู้คับ เป็นดอกเอาไปให้พระคับ
เด็กคนที่ 3 มองเพื่อนๆแบบยิ้มๆ แล้วตอบว่า : หนูรู้คะ จริงๆแล้วมันเป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง มี สี่ขา เราฆ่าเอาเนื้อมากินได้ บ้านญาติหนูก็เลี้ยงคะ
ครู นิ่งอึ้ง กำลังประมาลคำในสมองสักครู่ ก่อนตอบ : ทุกคนพูดมาถูกหมดเลยคะ คำว่า บัว ในภาษาไทย คือดอกไม้ชนิดหนึ่งที่อยู่ในน้ำ และเขาเอาดอกไปถวายให้พระ (ครูหารูปดอกบัว มาให้เด็กๆดู ) ส่วนคำว่า บัว ในภาษาม้ง ก็คือ สัตว์ชนิดหนึ่ง มีสี่ขา เลี้ยงไว้กินเนื้อได้ ร้องอู๊ดๆ ในภาษาไทยเราจะเรียก มันว่า หมู นะคะ (เอาตัวรอดไปได้แล้ววันนี้ ^--^!!)
Advertisement
Advertisement

อย่างเรื่องแรก เด็กๆคงเล่าจากสิ่งที่ได้พบเจอในชีวิตประจำวัน ที่เขาเห็นว่าพ่อจะเป็นคนทำอาหารให้เด็กๆกินเป็นส่วนใหญ่
ส่วนเรื่องที่สอง เป็นเรื่องของภาษาที่สอง เราควรทำยังไงให้เด็กเข้าใจ ภาษา และสามารถสื่อสารได้ถูกต้อง และแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้ายังไง ให้เด็กไม่ต้องอายกับสิ่งที่เขาพูดออกมา แม้จะไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการสื่อ ในตอนแรก
จริงๆยังมีอีกหลายเรื่อง ค่อยทยอยเอามาลงวันหลังนะคะ
ความคิดเห็น






