อื่นๆ

เสน่ห์ของ "รถเปิดประทุน" ที่รถทั่วไปไม่มี ไม่ต้องแรง คนก็เหลียวมองได้

643
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เสน่ห์ของ "รถเปิดประทุน" ที่รถทั่วไปไม่มี ไม่ต้องแรง คนก็เหลียวมองได้

รถยนต์มีหลากหลายประเภทครับทั้งรถยนต์แบบ 4 ประตู 5 ประตูท้ายตัด หรือรถยนต์ 2 ประตูทรง Coupe เองก็ด้วย แต่ใช่ว่ามันจะมีเพียงแค่นั้น ใครจะรู้ว่ายังมีรถยนต์อีกประเภทที่เชื่อว่าทุกคนที่เห็นจะต้องเหลียวมองแน่นอน ด้วยรูปลักษณ์ที่แปลกแตกต่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันมาอยู่ในประเทศไทย จะมีคนมองมากกว่าเดิม นั่นก็คือรถยนต์แบบเปิดประทุนนั่นเองครับ

รถยนต์เปิดประทุนนั้นมีจุดเด่นที่รู้กันคือหลังคารถสามารถเปิดออก พับเก็บได้ทางด้านหลัง ทำให้เห็นภายในรถอย่างชัดเจนรมถึงตัวคนขับด้วย สิ่งนี้ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจนที่สุดของรถเปิดประทุนหรือที่เรียกว่า Cabriolet ส่วนมากจะเป็นรถยนต์แบบ 2 ที่นั่งเสียส่วนใหญ่ แต่ก็จะมีรถเปิดประทุน 4 ที่นั่งเหมือนกันแต่อาจจะไม่ได้เห็นบ่อยนักครับ

carbriที่มารูปภาพ: Pexels จาก Pixabay

ตัวรถแบบเปิดประทุนก็มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วครับ โดยมากจะเป็นรถจากยุโรปที่มีทรงแบบนี้อย่างเช่น Mercedes Benz 250SE ปี 1967 จนมาถึงยุคปัจจุบันความนิยมของรถเปิดประทุนก็ยังสืบเนื่องต่อกันมา มีมากมายหลายยี่ห้อมากขึ้นอาทิเช่น BMW, Audi, Aston Martin, Porsche เพื่อเอาใจนักขับสายชิว ที่ชอบขับรถเล่นรับลมมากกว่าความแรงแบบเพียว ๆ 

Advertisement

Advertisement

เหตุที่มันได้รับความนิยมจนถึงตอนนี้ก็เป็นเพราะว่าฟีเจอร์หลังคาที่เปิด-ปิดได้ ทำให้เราสามารถรับลมธรรมชาติได้เต็มที่ เวลาขับรถกินลมเล่นตามชายทะเล ขับรถเลียบภูเขาสูงที่มีลมเย็น ๆ เปิดรับลมในยามเช้าตรู่ คงจะเป็นอะไรที่เพลิดเพลินใจอย่างมากครับ นี่ยังไม่รวมถึงมีคนรู้ใจนั่งไปด้วยกันแล้วล่ะก็ เรียกว่าโรแมนติกมาก ๆ ครับ แฟนสาวที่ได้นั่งรถประเภทนี้ต้องชอบและได้บรรยากาศดี ๆ แน่นอน

carbri2ที่มารูปภาพ: Michael Kauer จาก Pixabay

นอกจากบรรยากาศที่ Exclusive แล้ว จากรูปทรงของรถที่มักจะเป็น 2 ที่นั่งการอออกแบบรถจะดูโฉบเฉี่ยว มีความสปอร์ตผสมหรูหราไว้ด้วยกัน กล่าวคือหากจะเปิดหลังคาก็เป็นรถหรูกินลม ถ้าหากปิดหลังคาก็จะเป็นรถที่คล้ายรถทรง Coupe 2 ประตูสุดเท่ทันที ด้วยพละกำลังแรงม้ากับช่วงล่างที่ปรับแต่งจากโรงงาน รถประเภทนี้ก็สามารถรีดพละกำลังได้ดีไม่แพ้รถสปอร์ตดั้งเดิมเลยทีเดียว

Advertisement

Advertisement

อีกอย่างที่รถเปิดประทุนหรือ Cabriolet มีมากกว่ารถยนต์ทั่วไปคือ "ความเท่" ครับ เป็นสิ่งนามธรรมง่าย ๆ ที่สัมผัสได้ทันทีเพราะการที่มีฟีเจอร์เปิด-ปิดหลังคา เราจะเห็นระบบการทำงานของมันอย่างช้า ๆ เมื่อฝาท้ายเปิดอ้าพร้อมจะเก็บหลังคาด้านบนเข้าไป ราวกับว่ามันกำลังจะแปลงร่างหรือปรับเปลี่ยนรูปโฉมยังไงยังงั้นเลยครับ

cabri3ที่มารูปภาพ: Capri23auto จาก Pixabay

นอกจากนี้หลังของรถเปิดประทุนยังมีแบบหลังคาผ้ากับหลังคาแข็งให้เลือกอีกด้วย ซึ่งจะมีข้อดีแตกต่างกันไปครับ โดยที่หลังคาผ้าจะให้น้ำหนักเบากว่าแต่ก็มีเสียงลมเข้าตัวรถมากกว่าเดิม ขณะที่หลังคาแข็งจะดูดซับเสียงได้ดีกว่าและป้องกันน้ำฝนได้ดีกว่าหลังคาผ้าด้วย ก็แล้วแต่ความชอบของผู้ขับล่ะครับว่าต้องการแบบใด แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบไหนก็ดูดีทั้งคู่ครับ

อย่างไรก็ตามครับ แม้ว่ามันจะดูดีมีเสน่ห์แค่ไหน หากใช้ไม่ถูกที่ถูกสถานการณ์คุณจะกลายเป็นตัวตลกไปในทันที อย่างกรณีเช่นขับรถแล้วฝนตกกระทันหันจนปิดหลังคาแทบไม่ทัน วางเอกสารไว้เบาะด้านข้างแล้วขับเร็วจนลมพัดจนปลิว แต่สำหรับผู้ที่ขับรถในไทยอาจจะหาโอกาสใช้ฟีเจอร์เปิด-ปิดหลังคายากหน่อยครับ เพราะคุณจะได้เจอกับควันรถเมล์และฝุ่นควันท่ามกลางจราจรอันติดขัด แต่ถ้าขับไปต่างจังหวัดบอกเลยว่าสวรรค์ครับ

Advertisement

Advertisement

cabri4ที่มารูปภาพ: Thanks for your Like • donations welcome จาก Pixabay

ในปัจจุบันรถ Cabriolet มีการผลิตหลากหลายรุ่นหลายแบรนด์ จะเป็นรถแรงก็ได้หรือรถที่เน้นขับสนุกก็มีครับ หากใครสนใจก็ขอบอกเลยว่าเตรียมเงินไว้ขั้นต่ำประมาณ 3,000,000 บาทได้เลยครับ อาจจะดูแพงไปแต่ประสบการณ์ของการขับรถเปิดประทุนที่ได้มา มันคุ้มค่าที่เสียเงินไปครับ โดยรถประเภทนี้ที่น่าสนใจก็จะมี Mazda MX-5, BMW Series 4 หรือ 8 Convertible, Audi TT Roadster, Aston Martin Vantage Roadster

จากรายชื่อรถดังกล่าวหากใครเป็นผู้มีอันจะกินก็คงเลือกได้ตามชอบ แต่สำหรับผู้มีรายได้ปานกลางรถที่พอจะคว้าได้ก็จะเป็น Mazda MX-5 นี่แหละครับเพราะมีราคาไม่แพงมากประมาณ 2 ล้านปลาย ๆ หรือจะเล่นรถเก่าหน่อยอย่าง Toyota MR-S 1.8 S Convertible ก็ได้เหมือนกัน แต่อาจจะติดที่อะไหล่หายากต้องรู้แหล่งพอสมควร

สรุปแล้วรถเปิดประทุนจัดว่าเป็นรถยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขับผ่านต้องมีคนเหลียวมอง เปิดหลังคารับลมได้ หากรู้สึกว่ามีคนมองจนรู้สึกอายก็สามารถเปิดหลังคาปิดได้เหมือนกัน เชื่อว่าเป็นรถในฝันของหลาย ๆ คน (รวมถึงผู้เขียน) ด้วยครับ

ที่มารูปภาพปก: Michael Gaida จาก Pixabay

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์