อื่นๆ

เห่าหอนเป็นสัญญาณ “ข้าวดำ” เจ้าสุนัขบอกลาง คืนก่อนได้ยินข่าวร้าย

431
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เห่าหอนเป็นสัญญาณ “ข้าวดำ” เจ้าสุนัขบอกลาง  คืนก่อนได้ยินข่าวร้าย
ดวงตาที่มืดมิด มีเพียงสีขาวขุ่น แต่หูนั้นรู้และจำได้ทั้งหมด  ค่ำคืนที่มืดมิด  ประหนึ่งรู้ว่าข่าวร้ายจะมาถึง  สายตาตรึงเสียงเห่าหอนว่อนทั้งซอย ตาเพ่งขึ้นบนแหงนหน้าตาพร่ามอง คนคอยจ้องฟังความผิดแปลกไป ในรุ่งเช้าตะวันส่องร้องเอ่อใช่  เป็นไปได้ข้าวดำเห็นวิญญาณผ่านร่อนเร่  จึงตั้งหน้าตั้งตาเห่า

 ลางร้ายบางครั้งบางคนอาจจะคิดว่ามันคือความบังเอิญ ซึ่งความหมายของความบังเอิญคือ สิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ซึ่งความบังเอิญนั้นไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งให้เห็นมากนักในชีวิต  แต่ถ้าหากเกิดขึ้นทุกครั้งจนสังเกตได้ เรื่องบางเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันคือความเชื่อของแต่ละบุคคล เหมือนสิ่งที่จะเล่าต่อไปนี้

ความเชื่อที่จะเล่าต่อไปนี้ ได้เห็นประจักษ์ด้วยตนเองหลายครั้ง แม้บางครั้งเกิดกับครอบครัวของตนเอง หลังจากนั้นได้มีการพิสูจน์และสังเกตก็เป็นจริงดังที่คิด จนชาวบ้านละแวกใกล้เคียงกันเชื่อกันสนิทใจ ค่ำคืนแห่งความเงียบเหงา ไม่มีแม้เสียงของนกในรังที่หยอกล้อกัน แต่สี่เท้ากลับไม่หลับไม่นอน สิ่งที่เกิดขึ้นในเช้าวันพรุ่งนี้คงไม่ใช่ข่าวดีอย่างแน่นอน 

Advertisement

Advertisement

       การเชื่อเรื่องของแมวดำ หมาดำ แต่คือต้องดำทั้งตัว ความเชื่อเรื่องโชคลางต่างๆ ในหมู่บ้านยังมีให้เห็น ซึ่งเป็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถที่จะพิสูจน์ได้ว่ามีจริงหรือไม่จริง การที่สุนัขเห็นผีแล้วเห่าหอนตอนกลางคืนยังมีเล่าต่อกันมา และแล้ววันหนึ่งได้เห็นกับตาตนเอง เจ้าสุนัขสื่อสารก่อนได้ยินข่าวร้าย

ข้าวดำ  สุนัขที่จะเล่าเรื่องต่อไปนี้ มีชื่อว่า “ข้าวดำ”  เป็นสุนัขเพศผู้สายพันธุ์โกเด้นผสมลาบราดอร์  สีดำตัวใหญ่และรูปร่างดีสมส่วน  ข้าวดำเป็นสุนัขที่เห่าเสียงดัง ดุ ถ้าหากใครที่ไม่สนิทไม่ควรเข้าใกล้  แม้แต่เจ้าของยังเคยโดนข้าวดำกัด เพราะเข้าไปห้ามข้าวดำไม่ให้เห่า ซึ่งข้าวดำคงไม่ทันได้คิดว่านั่นคือเจ้าของ จึงงับเข้าที่ข้างคอ 

แต่ข้าวดำเองพอรู้ตัวข้าวดำก็สำนึกในความผิด ยอมให้เจ้าของตีแต่โดยดี โดยไม่ได้ตอบโต้อะไร แต่ด้วยความไม่รู้ว่าเจ้าของจะเอาให้ถึงแก่ชีวิต แต่ข้าวดำยังโชคดีที่มีคนช่วยร้องขอชีวิตเอาไว้ได้

Advertisement

Advertisement

   การทานอาหารของข้าวดำ

ข้าวดำเป็นสุนัขที่รูปร่างใหญ่ จึงทำให้กระเพาะก็ใหญ่เป็นเรื่องปกติ ส่วนการกินนั้นไม่ต้องห่วงเพราะข้าวดำนั้นกินทุกอย่าง แม้แต่ข้าวเย็นแข็งๆที่สุนัขตัวอื่นไม่กินแต่ข้าวดำกิน  และการกินข้าวของข้าวดำนั้นจะดูเหมือนว่าไม่อิ่มสักที ถ้าเรานั่งทานข้าวข้าวดำจะนั่งรอและส่งเสียงร้องบ้างเพื่อให้เราได้มองเห็นว่ามีสุนัขหิวอยู่ตรงนั้น อาหารที่เจ้าของทำให้ข้าวดำบ่อยคือต้มกระดูกหมูใส่ข้าว หรืออาจจะเป็นโครงไก่ทอด ปิ้งหมู ซึ่งข้าวดำไม่ค่อยเลือก ให้อะไรกินทั้งหมด

หิว

ท่าทางเวลาข้าวดำหิว

     ความน่ารักของข้าวดำเวลาที่หิวข้าว ดำจะเดินเข้ามาใกล้ๆ จากนั้นก็จะใช้เท้าทั้งสองข้างสลับกันยกมาวางบนตักหรือขาของเจ้าของ จากนั้นก็จะมองหน้า  ข้าวดำถือว่าเป็นสุนัขที่เข้าใจภาษาของมนุษย์เพียงแต่พูดไม่ได้เท่านั้นเอง สิ่งที่ข้าวดำเหมือนมนุษย์คือ การรอทานข้าว และนั่งทานข้าวร่วมกันกับเจ้าของ มีสลับกับใช้เท้าวางขาขออาหาร ตาจ้องเจ้าของ ส่ายหัวไปมา  ถ้าหากเจ้าของนั้นยังไม่ให้ ข้าวดำก็จะสลับขาข้างใหม่ วนไปอย่างนี้เรื่อยๆ

Advertisement

Advertisement

    รักที่น่ากลัวของเจ้านาย 

  ข้าวดำเองเป็นสุนัขที่น่ารักแต่ไม่ใช่สำหรับทุกคน เพราะบางคนเพียงเห็นหน้าของข้าวดำก็วิ่งแล้ว เพราะข้าวดำตัวใหญ่ กว่าเด็กห้าขวบและถ้าหากเจอเด็กๆ ข้าวดำจะกระโจนเข้าใส่ ข้าวดำไม่ค่อยชอบเด็ก 

      ครั้งนั้นเจ้านายอยู่บ้าน ข้าวดำเองโดนล่ามไว้นอกบ้าน ข้าวดำเห่าอะไรสักอย่างไม่ยอมหยุด เจ้านายเลยว่าให้ข้าวดำว่าให้หยุดเห่าได้แล้ว เสียงดัง  แต่พอข้าวดำเห็นท่าทางของเจ้านาย ข้าวดำกระโดดกัดเจ้านายทันทีแบบไม่ยั้งเต็มกำลัง จนเจ้านายร้องเสียงดัง จากนั้นเจ้านายจับไม่ใหญ่ได้ หันมาฟาดใส่ข้าวดำแบบจะเอาให้ตายคาไม้ ถ้าหากวันนั้นไม่มีนายผู้หญิงเข้ามาขอร้องไว้ ข้าวดำคงจะเหลือเพียงชื่ออย่างแน่นอน ด้วยความที่ไม่ดูให้ดีเสียก่อนว่านั่นคือเจ้านายของตนเอง 

สายตาสัญชาตญาณของสุนัข 

ไม่ว่าจะสุนัขหรือสัตว์ตัวอื่นๆ ที่ใครๆต่างเรียกโดยรวมว่าสัตว์เดรัจฉานทุกตัวมีการป้องกันตัวเองอยู่ตลอดเวลา พร้อมที่จะต่อสู้เพื่อความอยู่รอด แต่การเลี้ยงดูทำให้สุนัขนั้นมีนิสัยเหมือนกันกับมนุษย์  มนุษย์แต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนใจดี บางคนโมโหร้าย บางคนไม่สนใจอะไรนอกจากตัวเอง สุนัขที่เราเลี้ยงสามารถที่จะแยกออกได้ทั้งหมด ว่าเจ้านายแต่ละคนมีนิสัยอย่างไรไม่ชอบอะไร  เมื่อพบกับเจ้านายแต่ละคนจะต้องแสดงอาการดีใจประมาณไหน คนไหนที่ควรหลบไปไกลๆ 

   ดวงตาฝ้ามัว

     ข้าวดำกับชีวิตที่รันทด แต่ก่อนนั้นข้าวดำจะวิ่งเล่นรอบบ้านอย่างมีความสุข ข้าวดำจะไม่ค่อยทำอะไรใคร ถ้าหากว่าไม่มีใครมาทำให้ตกใจ  แต่คนที่กลัวข้าวดำจะกลัวเพราะข้าวดำตัวใหญ่  ชีวิตของข้าวดำวันหนึ่งก็ต้องได้พบกับความโชคร้าย ด้วยสาเหตุอะไรไม่มีใครสามารถฟันธงได้ 

     เมื่อเจ้าของของข้าวดำเริ่มเห็นความผิดปกติของข้าวดำ โดยที่ข้าวดำจากที่เดินวิ่งปกติ กลับกลายเป็นค่อยๆเดินดมไปเรื่อยๆ อย่างช้าเลยนั่งสังเกตที่ดวงตาของข้าวดำ รู้สึกเหมือนมีวุ้นสีขาวๆ มาปิดบังดวงตาสีดำไป  จึงได้เริ่มทำการทดีสอบโดยการ วางอาหารไว้ไม่ห่างจากข้าวดำมากนัก ซึ่งแต่ก่อนพอวางข้าวดำจะวิ่งเข้ามากินในทันที หรือถ้าหากโยนอาหารให้ ข้าวดำจะงับโดยไม่ให้อาหารตกถึงดิน แต่พอมาถึงตอนนี้ พอวางอาหารไว้ข้าวดำเดินและใช้จมูกดมไปเรื่อยๆจนถึงอาหาร 

นั่งสามารถเดินได้ทั้งซอย โดยใช้ความเคยชิน

     แรกๆ  ข้าวดำนั้นสามารถเดินรอบซอยหมู่บ้านและจำทางกลับบ้านของตนเองได้ทั้งหมด บ้านทุกหลังข้าวดำเดินเข้าออกได้ แม้จะมองไม่ค่อยเห็น โดยข้าวดำจะใช้จมูกในการดมกลิ่นและเดินตาม  สามารถออกไกลจากบ้านประมาณ 700 เมตร แต่ด้วยว่าบ้านของข้าวดำนั้นใกล้ถนนใหญ่ เจ้าของจึงกลัวจะได้รับอันตราย จึงต้องเดินตามดูเวลาปล่อยข้าวดำให้เดินเล่น 

     ตอนนี้ข้าวดำเริ่มมองไม่เห็น อาจจะเห็นตอนกลางวันเพียงลางๆ แต่สำหรับในตอนกลางคืนนั้น ข้าวดำมองไม่เห็น เพราะเริ่มเดินชนเสาบ้าน ผนังบ้าน ต้นไม้และสิ่งกีดขวางบ่อยขึ้น จนบางครั้งจนมุมทำให้กลับบ้านไม่ได้ แต่ข้าวดำเองจะไม่ส่งเสียงร้องจะนั่งรอเจ้าของนิ่งๆ อยู่ในโลกมืด

   การเคารพของสุนัขกับเจ้านาย 

สุนัขนั้นเวลาที่เราเลี้ยงสุนัขจะมีเจ้านายเพียงสองคนเท่านั้น คนแรกคือเจ้านายที่รักที่สุด และจะเชื่อฟังเพียงเจ้านายคนที่หนึ่งบอกอะไรจะทำตาม นั่นคือเจ้านายที่ให้ข้าวให้น้ำตลอด คนที่สองคือเจ้านายรอง ซึ่งถ้าหากว่าเจ้านายที่หนึ่งไม่อยู่เจ้าสุนัขจะเชื่อฟังเพียงเจ้านายที่สองสั่ง แต่ถ้าหากเจ้านายที่หนึ่งและที่สองไม่อยู่  สุนัขจะมองหาคนที่เห็นบ่อยๆ และเชื่อใจหนึ่งคนแต่จะไม่เชื่อสนิทใจมากนัก ไม่ค่อยฟังและทำตาม เพียงแต่ยอมฟังบ้างถ้าให้อาหาร  

     เราจึงเห็นสุนัขตรอมใจเมื่อเจ้านายไม่อยู่ ซึ่งสุนัขเองก็มีนิสัยไม่เหมือนกัน บางตัวไม่ยอมทานข้าวจากเจ้านายอื่นถ้าหากเจ้านายของมันไม่อยู่ ยอมนอนไส้แห้งรอเจ้านายกลับมาให้อาหาร เพราะไม่ว่าคนหรือสัตว์ ก็ย่อมมีนิสัยและความกตัญญูรู้คุณต่างกัน บางตัวแม้ว่าเราจะเป็นผู้มีพระคุณ เวลาที่โกรธหรือไม่พอใจ ก็สามารถทำร้ายหรือฆ่าเจ้าของได้เช่นกัน การเลี้ยงสุนัขจึงต้องมีความระมัดระวัง

นั่งไม่ยอมให้จับหัวตีสนิท

    การดูว่าสุนัขตัวไหนโหดร้ายหรือใจดี เราสามารถมองตาของสุนัข หาง หรือหู ต้องดูทั้งหมดประกอบกัน เพราะสุนัขบางตัวแกว่งหางแต่ปากพร้อมงับได้ตลอดเวลา 

    แต่ข้าวดำนั้นเราดูที่ตาและหาง เพราะข้าวดำเป็นสุนัขที่หูตก ถ้าหากว่าตากระพริบและแกว่งหาง สามารถลูบหัวได้  ข้าวดำนั้นไม่ชอบให้ใครจับหัวถ้าไม่สนิท และจับตัวก็ไม่ได้ แม้แต่เจ้าของถ้าต้องการเล่นกับข้าวดำ จะต้องเรียงชื่อจึงจะสามารถจับตัวของข้าวดำได้ แต่ถ้าเป็นคนอื่นมาจับหัว ข้าวดำจะงับพร้อมกับกระโดดใส่ตัวทันทีแม้กระทั่งว่าตามองไม่เห็นแต่จมูกของข้าวดำไวที่สุด 

ตามัว

ข้าวดำบอกลางร้าย

    เหมือนว่ารู้ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น แทบจะทุกครั้งของการได้รับข่าวร้าย คืนก่อนลางร้าย ข้าวดำจะเห่าหอนตลอดทั้งคืน ซึ่งจะมีลักษณะไม่เหมือนเห่าปกติ เพราะจะแหงนหน้าขึ้นไปบนฟ้า สายตามองตามเห่าหอนเสียงยาวๆ เหมือนมองเห็นสิ่งลี้ลับ เห่าตลอดทั้งคืน  

ความเชื่อเรื่องสุนัขมองเห็นวิญญาณ

สุนัขสีดำกับความเชื่อเรื่องวิญญาณ ไม่ใช่เพียงเพราะสุนัขสีดำ แต่ส่วนมากแล้วสุนัขที่มีสีดำจะมองเห็นวิญญาณ เพราะสายตาของสุนัขนั้นสามารถมองเห็นสิ่งเหล่านี่แต่ไม่สามารถพูดจาบอกใครได้ จึงใช้วิธีเห่าหอนเพื่อให้เจ้าของนั้นรู้ในสิ่งที่ผิดแปลกและแตกต่างไป  จนถึงในตอนเช้าก็ได้พบความจริงที่ว่าคนในหมู่บ้านหรือญาติบ้านใกล้เรือนเคียงได้หมดลมหายใจเสียชีวิตลง ซึ่งทุกครั้งที่ข้าวดำนั้นเห่าจนกลางคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ญาติพี่น้องหรือคนบ้านใกล้ในหมู่บ้านจะจากไป 

ที่นอน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและรับรู้ได้จากประสบการณ์ตรง

 คืนนั้นเป็นคืนที่ทุกอย่างในตอนหัวค่ำปกติ  แต่หลังจากนั้นประมาณสามทุ่มเด็กน้อยหลานชายอยู่ดีๆก็ร้องไห้ไม่หยุดโดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่นานก็สังเกตเห็นข้าวดำเห่าหอนพร้อมแหงนหน้าขึ้นบนฟ้า เห่าอย่างตั้งอกตั้งใจ และไม่ยอมหยุด จนพากันถามว่าข้าวดำเห่าอะไรอึกทึกครึกโครมเป็นเวลาหลายชั่วโมง พอมาถึงเที่ยงวัน ได้มีคนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตกะทันหัน  

    ข้าวดำเห่าบอกลางแบบนี้ไม่ใช่เพียงครั้งเดียว คืนก่อนที่ยายข้างบ้านจะปูผูกคอตายเสียชีวิตข้าวดำทั้งเห่าหอนทั้งคืน และในครั้งล่าสุด ญาติของเจ้าของข้าวดำเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ข้าวดำเห่าและหอน บางคนบอกว่าวิญญาณของผู้ตายมาหาญาติพี่น้องบ้าง หรือบางทีคนเราก่อนที่จะเสียชีวิต วิญญาณจะออกจากร่างก่อน ส่วนมากจะเป็นวิญญาณของผู้ป่วยที่มีอายุเยอะ สิ่งนั้นจึงทำให้สุนัขมองเห็นวิญญาณในตอนกลางคืนจึงเห่าหอน 
ตัวใหญ่

ตามืดมิดแต่ใจกับสู้ไม่ถอย 

     แม้สายตาของข้าวดำนั้นจะมองไม่เห็น แต่ข้าวดำจะใช้จมูกของตนเองในการดมกลิ่นเจ้าของ จนพบทางกลับบ้าน ถ้าระหว่างทางข้าวดำเจออะไรขวางก็จะซนทั้งหมด บางครั้งรุนแรงจนทำให้ข้าวดำหงายท้อง ไม่เป็นไรข้าวดำก็ลุกขึ้นเดินต่อไป  จนเจ้าของสงสาร พักหลังๆเลยไม่ค่อยปล่อยข้าวดำเดิน

      ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้ง ข้าวดำก็ลุกขึ้นแล้วเดินต่อ ถ้าหากว่าเจ้าของนั้นล่ามโซ่ข้าวดำไว้ ข้าวดำจะโวยวายเพื่อให้เจ้าของปล่อย ให้เดินเล่นแม้สายตาจะมองไม่ค่อยเห็น ข้าวดำก็อยากที่จะเดินเล่นดีกว่าที่จะนอนไร้ค่า

สุนัขที่เรารัก แม้ว่าเราเองจะไม่ได้เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก แต่ความน่ารักของสุนัขทุกตัวที่เราได้พบมันคือความทรงจำ ที่ฝังลึก  ใครหลายคนบอกว่าเวลาที่เราเลี้ยงสุนัขนั้นไม่ให้เลี้ยงสีดำเพราะว่ามันดูโศกเศร้า มันดูไม่สดใจทำให้ชีวิตหม่นหมองไปด้วย แต่จริงๆแล้ว ไม่ว่าเรานั้นจะเลี้ยงสุนัขพันธุ์อะไรสีอะไรขอเพียงเรานั้นรักและไม่ปล่อยให้เขาเหงาก็เพียงพอแล้ว  รับเลี้ยงแล้วขอให้รักตลอดไป

ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน (อุ้งเท้าแมว)

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
อุ้งเท้าแมว
อุ้งเท้าแมว
อ่านบทความอื่นจาก อุ้งเท้าแมว

รักอิสระ มีพื้นที่ส่วนตัว ชอบเดินทางท่องโลกกว้าง

ดูโปรไฟล์

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์