ไลฟ์แฮ็ก
เอาตัวรอดอย่างไรเมื่อมีเจ้านาย Toxic

มานั่งพิจารณาชีวิตการทำงานของตัวเองดู นี่เราผ่านการมีเจ้านายแบบ Toxic มาไม่น้อยเลย เป็นพนักงานเราเองก็เหมือนคือทุกคนหวังอยากมีเจ้านายดี ๆ เก่ง ๆ แนะนำสิ่งที่เป็นมรรคเป็นผลแก่เรา นำพาไปสู่ความเจริญก้าวหน้า สร้างงานให้มีประสิทธิภาพ สร้างผลประกอบการที่ดีให้แต่องค์กร แต่บางครั้งโชคก็ไม่เข้าข้างเรา เมื่อต้องมาเจอกับเจ้านายที่กลายเป็น Toxic เราจะเอาตัวรอดได้อย่างไร
เจ้านายจอมเจ้าชู้ เจ้านายคนนี้เป็นชายวัยหลังเกษียณเป็นอดีตผู้มีตำแหน่งสูงในวงการหนึ่ง เมื่อหมดวาระจึงมาเปิดบริษัทส่งออกแรงงานไปต่างประเทศ เขาขึ้นชื่อเรื่องเจ้าชู้ มีอีหนูในสังกัดหลายอัตรา เราเป็นนักศึกษาจบใหม่เข้าไปทำงานที่บริษัทนี้เป็นที่แรก ตำแหน่ง Personal Assistant เราเองไม่คิดว่าเขาจะมาเกาะแกะอะไรเรา แต่ก็ไม่ประมาท ด้วยเนื้องานที่ต้องทำงานใกล้ชิดกัน มีบ้างที่ต้องไปไหนมาไหนกันสองต่อสอง บอกตรง ๆ ว่าแอบกลัว
Advertisement
Advertisement
มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาเรียกเราไปคุยงานในห้องทำงานของเขา อยู่ ๆ ก็เดินมาใกล้จนเราต้องถอยหนี สักพักเมื่อคุยงานเสร็จ เขาเอามือเอื้อมมาหยิบเส้นผมที่อยู่บนไหล่เรา เราว่าสถานการณ์มันดูแปลก ๆ ขึ้นทุกวัน เขาซื้อขนมมาฝากเราเกือบทุกวัน บอกว่าวันนี้มีคุยงานแถวบ้านเรา ติดรถเขาไปได้นะจะไปส่งที่บ้าน แต่เราปฏิเสธไปบอกว่ามีนัดกับเพื่อนแล้ว เราเริ่มไม่มีสมาธิที่จะทำงานต่อไปอีกแล้ว รวมถึงสายตา พี่ ๆ ที่ทำงานมองเราแปลก ๆ ด้วย เดือนต่อมาเราตัดสินใจขอลาออก คิดว่าอยู่ต่อไม่รุ่งแน่ ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าไปถอยดีกว่า
เจ้านายจอมคุย เจ้านายคนนี้เป็นหมอที่เรียนจบจากญี่ปุ่น แล้วผันตัวมาทำธุรกิจ จึงมีความภาคภูมิใจในความสำเร็จเรื่องการเรียนของตัวเองสูงมาก อีกทั้งเป็นคนทำงานเก่ง มีความคิดแยบยล ซับซ้อนทั้งเรื่องธุรกิจ และการเงิน เป็นที่ปรึกษาที่ดี เป็นเจ้านายที่คอยซัพพอร์ตทุกอย่างแก่ลูกน้อง ถือเป็นยุคทองของการทำงานของเราเลยก็ว่าได้
Advertisement
Advertisement
แต่ Toxic ของเขาคือชอบชวนคุย คุยทุกเรื่อง เรื่องชีวิตส่วนตัว เรื่องการเมือง เรื่องการเงิน เรื่องดิน น้ำ ลม ไฟ อวกาศ โลกเสมือนจริง คุยได้หมด เริ่มงานตอนเช้า 9 โมง หากเขามาคุยกับเราเช้านั้นจะได้เริ่มทำงานตอนประมาณ 11 โมง หรือบางวันก็จะมาคุยช่วงบ่ายลากยาวไปจนเกือบถึงเวลาเลิกงาน
เราเองไม่ได้รู้สึกรำคาญอะไรกับการชอบชวนคุยของเขา แต่การคุยนานเกินไปแบบนี้ทำให้เราไม่มีเวลาทำงาน การเอาตัวรอดของเราในสถานการณ์นี้คือ ต้องตัดบทบอกไปตรง ๆ ด้วยความสุภาพว่าเราต้องขอตัวทำงานก่อน มีเรื่องนั้นเรื่องนี้ต้องทำ หรือบอกว่าเราต้องเตรียมเอกสารประชุม บางทีตอนคุยอยู่หากมีสายโทรศัพท์โทรเข้าจะนึกขอบคุณปลายสายมาก "ฉันรอดแล้ว"
เจ้านายจอมเสี้ยม เจ้านายคนนี้เราถือว่าเป็นยุคมืดของเราเลย เพราะเจ้านายคนนี้รับช่วงต่อจากเจ้านายจอมคุยคนก่อน แต่ความรับผิดชอบ และความเก่งกาจเทียบกันไม่ได้เลย ดูงบการเงิน และหาลูกค้าใหม่ไม่ได้หนำซ้ำยังยุแยงให้คนในบริษัทผิดใจกัน ในยุคของเจ้านายจอมเสี้ยมนี้การเมืองในบริษัทดุเดือดมาก Toxic รุนแรงอย่างยิ่ง
Advertisement
Advertisement
เขาเคยบอกว่าเราโดนบัตรสนเท่ห์ บอกว่ามีพนักงานในบริษัทหลายคนอยากให้ไล่เราออก แต่เขาไม่ทำเพราะเห็นว่าเราทำงานได้ดี เราไม่รู้หรอกว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่การทำงานกับเจ้านายคนนี้เต็มไปด้วยความหวาดระแวง เกิดเรื่องอะไรขึ้นจะไม่รีบแก้ปัญหาแต่จะไล่หาคนทำผิดมาลงโทษ ไม่เคย Support ลูกน้อง
ในสถานการณ์นี้ เราอดทนต่อสิ่งที่พบเจออย่างมาก พยายามทำผลงานของตัวเองให้ดี เป็นมิตรกับเพื่อร่วมงานทุกคน เราไม่คิดจะลาออกเพราะเงินเดือนสูงมาก สูงจนคุ้มกับการอดทน ส่วนพนักงานคนอื่นที่ทนไม่ไหวก็ลาออกไป จำได้ว่า Toun Over สูงมากจน HR กุมขมับ เกือบหนึ่งปีเจ้านายคนนี้อยู่ในตำแหน่ง ในที่สุดฟ้าก็มีตาเขาโดนผู้บริหารสูงสุดในบริษัทเลิกจ้าง ถือว่าหมดเคราะห์หมดโศกกันไป
เจ้านายจอมสบถ เราเป็นคนที่ทำงานกับบริษัทต่างชาติมาตลอด ภาษาที่ใช้คือภาษาอังกฤษ คำสบถที่เราได้ยินเป็นคำหยาบภาษาอังกฤษที่หยาบมาก ไม่ขอยกตัวอย่างแล้วกัน เจ้านายเราคนนี้มักคิดว่าตัวเองเป็น Perfect man ทุกอย่างต้องหมุนรอบตัวเขา เพราะฉะนั้นหากมีอะไรไม่ถูกใจ คำสบถจะหลุดออกจากปากเขาเสมอ แม้กลางที่ประชุมฝ่ายขาย พนักงานด้วยกันชอบแอบซุปซิบกันว่า "ไม่รู้ว่าเคยเป็นยากูซ่าหรือเปล่า โหดเหลือเกิน" หรืออย่างเรื่องการส่ง Email ต่อว่าพนักงานแล้ว CC ให้คนทั้งบริษัทได้อ่านด้วย โอ๊ยสุดติ่งจริง ๆ
เจ้านายคนนี้ไม่เคยมาเอ่ยคำสบถใส่เรา เราเลยไม่ต้องรับมืออะไร แต่ว่าการได้ยินคำสบถที่ระคายหนูก็ Toxic อยู่ไม่น้อย พนักงานส่วนใหญ่ที่โดนพ่นคำหยาบคายใส่ก็ทำได้แค่เฉย ไม่แสดงออกอะไร บางคนก็คิดว่าเป็นเรื่องตลกไม่นำมาใส่สมอง ส่วนคนที่รับไม่ได้ก็ลาออกไปหางานใหม่ บางคนเริ่มงานได้ไม่ถึงเดือนก็ลาออก หรือหายไปเลยก็มี สอบถามกันก็ยอมรับกันตรง ๆ เลยว่า รับไม่ได้กับพฤติกรรมที่ Toxic แบบไม่ให้เกียรติกันของเจ้านายคนนี้
ในวันนี้เราทุกคนยังคงเป็นพนักงานทำงานกินเงินเดือนอยู่ บางคนอาจไม่ได้มีโอกาสได้เปลี่ยนงานใหม่ เลือกงานใหม่ได้ง่ายนัก ถ้าคุณยังต้องอดทนทำงานอยู่กับ Toxic Boss ในชั่วโมงนี้อาจทำอะไรได้ไม่มากนอกจากทำใจ นอกเหนือจากเรื่องชู้สาวที่ไม่ควรต้องอดทน อยากให้ข้อคิดว่าเจ้านายที่ Toxic เขาก็ Toxic กับเราแค่ตอนอยู่ในบริษัท เมื่อเราเลิกงานกลับบ้านเราก็ควรทิ้งเรื่องที่ Toxic ต่าง ๆ ไว้ที่ประตูบริษัท ไม่จำเป็นต้องแบกมันกลับไปทุกข์ที่บ้าน เพราะเรายังต้องทำงานหาเลี้ยงชีวิตอยู่ ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ยังต้องทำงานกับ Toxic Boss ขอให้มันไม่หนักหนาจนเกินกว่าจะทน และหากวันหน้าฟ้าใหม่ได้มีโอกาสเปลี่ยนงาน ขอให้ได้เจอแต่ Good Boss กันทุกคนนะคะ
บทความโดย : Butr Club
เครดิตภาพประกอบ :
ภาพหน้าปก จาก Canva
ภาพที่ 1 จาก mohamed_hassan / Pixabay
ภาพที่ 5 จาก TRESOR69 / Pixabay
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
งานเขียนทั้งรีวิวที่กิน ที่เที่ยว รวมถึงบทความด้านกฏหมายแรงงาน จิตวิทยา ทุกเรื่องครบจบในที่เดียว
ความคิดเห็น






