แก้ปัญหาขี้ลืมแบบไม่ลืม

ภาพโดย geralt จาก pixabay

เรื่องของการขี้ลืมนั้นเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่เป็นในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเรานึกไม่ออกว่าลืมของสำคัญเอาไว้ที่ไหนหรือลืมว่าจะทำอะไร จึงเป็นเรื่องที่ทำให้ว้าวุ่นใจ มีแต่ความกังวล ถ้าหากว่าเรากำลังรีบอีกด้วยยิ่งไปกันใหญ่  กลายเป็นเงอะงะจนทำอะไรไม่ถูก

การที่เราเป็นคนขี้ลืมแต่ไม่ใช่อาการของโรคอัลไซเมอร์จึงไม่แปลกแต่อย่างใด ใคร ๆ ก็เป็นด้วยกันทั้งนั้น เมื่อผ่านช่วงเวลาที่นึกไม่ออก กระทั่งผ่านไปสักพักแล้วเรามานั่งทบทวนดูก็จำได้ว่าเราลืมอะไรและเจ้าสิ่งที่เราต้องการหาอยู่ตรงไหน

การที่เราเป็นคนขี้ลืมนั้นก็มีมากมายหลายสาเหตุด้วยกัน ซึ่งผู้เขียนเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ขี้ลืมเช่นกัน จึงสามารถบอกถึงสาเหตุการลืมว่ามีอะไรบ้าง เพื่อเป็นการแชร์ประสบการณ์ ว่าอาการขี้ลืมนั้นเกิดจากอะไร

อายุเพิ่มขึ้น นี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการขี้ลืม แม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติของคนสูงวัยที่ขี้ลืม ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด

ภาพโดย stevedimatteo จาก pixabay

การแก้ปัญหาขี้ลืม ซึ่งพอจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง นั่นก็คือ เมื่อเรานึกไม่ออกว่าลืมของสำคัญไว้ที่ไหน  สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ ตั้งสติให้ดี ค่อย ๆ นึก อย่าค้นหาสิ่งที่ต้องการและอย่ากังวลอยู่กับสิ่งที่ต้องการหา

ภาพโดย Binja69  จาก pixabay

หลังจากเราหาของไม่เจอ โดยเฉพาะเครื่องประดับที่มีค่า อย่าตกใจถ้าของอยู่ในบ้านไม่มีทางที่จะไปหายไหน จงทำจิตให้ว่างและทำสมาธิ จากนั้นพยายามคิดทบทวนอย่างช้า ๆ เพียงไม่นานก็นึกออกและได้ของที่หาไม่เจอกลับคืนมา

เมื่อเราลืมว่าเมื่อครู่คิดอะไรอยู่ แก้ไขโดยระหว่างคิดหรือนึกอะไรออกให้จดใส่สมุดและถ้ากลัวลืมสมุดจดก็ให้วางไว้บนโต๊ะทำงานหรือใส่กล่องแล้วเขียนคำว่ากล่องใส่สมุดจดกันลืม โดยเขียนตัวโต ๆ ให้เห็นชัด ๆ

รูปของผู้เขียน

ลืมแว่นตา แก้ปัญหาด้วยการหาเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นแผ่นบาง ๆ เช่น โคมไฟแบบแผ่นประกบเข้าหากัน ซึ่งเป็นโคมไฟไม่ได้ใช้แล้ว โดยวางไว้ใกล้ ๆ ในตำแหน่งที่มองเห็นแล้วเอาแว่นตาเสียบเข้าไปหรือจะหากล่องสำหรับใส่แว่นตา หลังจากใช้แล้วให้หย่อนลงไปในกล่องได้เลย

แก้ปัญหาอาการลืมด้วยการผ่อนคลาย เล่นดนตรีเช่นกีตาร์หรือฟังดนตรีบรรเลงเกี่ยวกับเสียงจากธรรมชาติ ซึ่งการฟังเพลงแบบนี้เรียกว่าดนตรีบำบัด ซึ่งช่วยให้ความจำดีขึ้น

เมื่อรู้ว่าเป็นคนขี้ลืม เราจะต้องหาทางแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ แต่ได้ผลเป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยลดอาการขี้ลืมได้ไม่น้อย สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ทุกครั้งที่ทำอะไรเราจะต้องมีสติ อย่าวอกแวกเด็ดขาดและรับประทานอาหารกับวิตามินสำหรับบำรุงสมองด้วยนะคะ ซึ่งจะช่วยให้ความจำของเราดีขึ้นมากทีเดียว

จรรยา เลิศพงษ์ไทย