แชร์เทคนิคการกำจัดคราบฝังลึกในห้องน้ำ

ปัญหาคราบฝังลึกในห้องน้ำเป็นปัญหาที่หลายบ้านประสบพบเจอ เรามาดูวิธีการกำจัดคราบเหล่านั้นแบบง่ายๆกันดีกว่า

ห้องน้ำของเรา บางครั้งก็จะมีคราบบางคราบที่ล้างด้วยน้ำยาล้างห้องน้ำก็ไม่ออก หรือบางครั้งก็ล้างออกแต่ต้องน้ำยาล้างห้องน้ำในปริมาณที่เยอะ ซึ่งอาจทำให้กาวยาแนวในห้องน้ำของเราเสื่อมสภาพ หรืออาจจะหลุดลอกไปเลยก็ได้ เพราะน้ำยาล้างห้องน้ำมีสภาพความเป็นกรดที่รุนแรงทำให้เมื่อราดน้ำยาล้างห้องน้ำปริมาณเยอะๆลงไป ยาแนวกระเบื้องในห้องน้ำก็จะเกิดการรั่วไหล แล้วทำให้น้ำซึมเข้าตามผนัง เกิดเชื้อราในผนังตามมาได้อีก หรืออาจจะลามไปถึงการเกิดน้ำรั่วตามผนังได้

ตัวผู้เขียนเองก็เคยประสบปัญหาการใช้น้ำยาล้างห้องน้ำในปริมาณที่เยอะเกินไปเพราะหวังจะให้คราบสกปรกที่ฝังแน่นหลุดออก แต่ก็ลืมนึกไปว่าจะทำให้ยาแนวรั่วซึมได้ ซึ่งจากประสบการณ์ของผู้เขียนมักจะพบคราบที่ล้างด้วยน้ำยาล้างห้องน้ำไม่ออกหลายคราบ เช่น คราบขาโต๊ะที่เกิดจากสนิมบริเวณขาโต๊ะ คราบไม้ที่ขึ้นรา (เกิดมาจากเก้าอี้ไม้ขึ้นรา แล้วมีคราบไปถึงพื้น) คราบสนิมต่างๆ คราบเหลืองที่โถสุขภัณฑ์ หรือแม้แต่คราบจากการวางกระถางต้นไม้เองก็ล้างด้วยน้ำยาล้างห้องน้ำไม่ออก แต่จากการได้ค้นหาวิธีกำจัดคราบเหล่านั้น ก็ได้ทดลองนำไปใช้กับตัวเอง จึงได้นำวิธีที่ได้ผลมาแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านและนำไปเป็นแนวทางในการดูแลบ้านเรือนของตนเอง

• แต่จากประสบการณ์ต้องบอกก่อนว่าประสิทธิภาพการกำจัดคราบฝังลึกอาจไม่ดีนักถ้าทิ้งไว้ไม่นานพอ ซึ่งต้องอาศัยการแช่หรือพรมไว้ค่อนข้างนาน แล้วค่อยมาขัด ส่วนตัวผู้เขียนเองจะชอบใช้วิธีนี้กับคราบเหลืองในชักโครก เพราะสามารถจะเทน้ำหมักชีวภาพลงไปแช่ไว้ได้เลยโดยที่เราไม่ต้องกังวลว่ามันจะไหลไปที่อื่น ซึ่งก็ถือว่าขจัดคราบได้ดีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่าน้ำยาล้างห้องน้ำทั่วไป

เทคนิคที่ 3 ใช้น้ำยาซักผ้าขาว หรือที่บ้านเรานิยมเรียกกันว่า Haiter ซึ่งตัวนี้เองไม่มีผลต่อยาแนวเลย เพราะไม่ได้มีสมบัติเป็นกรด และประสิทธิภาพการกำจัดคราบฝังแน่นถือว่าเป็นขั้นเทพ ที่ไม่ว่าคราบจะฝังนานแค่ไหนก็สามารถขจัดได้

• ผู้เขียนเองมีโอกาสได้ใช้น้ำยาซักผ้าขาวในการล้างห้องน้ำหลายครั้งมาก เพราะรู้สึกว่ามันขจัดคราบได้ดี และไม่ต้องทิ้งไว้เป็นเวลานาน
• แต่ก็ยังมีข้อเสีย นั่นก็คือ ถึงมันจะไม่มีผลต่อยาแนวและกระเบื้อง แต่หากเราไม่ใส่รองเท้าขณะล้างห้องน้ำ ผิวหนังของเราก็อาจจะระคายเคืองได้ และหากเราใช้ในปริมาณที่เยอะ อาจทำให้เราระคายเคืองทางเดินหายใจเมื่อเราสูดดมได้ ดังนั้นสรุปได้ว่าตัวนี้ดีจริง แรงจริง แต่ให้ใช้อย่างระวัง

และที่กล่าวไปทั้งหมดคือประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่ได้นำมากลั่นกรองและบอกเล่าเพื่อให้ทุกท่านที่ประสบปัญหาเดียวกันได้นำไปประยุกต์ใช้กับปัญหาของตนเอง หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้นะครับ

• ภาพปกทำเองจากเว็บ canva.com
• ภาพที่ 1 โดย pixel2013 จาก Pixabay
• ภาพที่ 2 โดย jeanvdmeulen จาก Pixabay
• ภาพที่ 3 โดย leemelina08 จาก Pixabay
• ภาพที่ 4 โดย jarmoluk จาก Pixabay

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !