แฝดสยอง

ขึ้นชื่อว่า “การทำแท้ง”  แค่คิดจะทำก็บาปแล้ว  แต่หญิงสาววัย 20  ปี  มีทางเลือกไม่มากนัก  เธอเป็นคนเรียนเก่ง  อนาคตกำลังสดใส  และเพิ่งได้ทุนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ   กลับโชคร้ายเพราะเมื่อ 3 เดือนก่อนเธอไปปาร์ตี้วันเกิดที่บ้านเพื่อน  แล้วดันเมาเรียกแท็กซี่กลับบ้านเองตอนประมาณ 5 ทุ่ม  แท็กซี่หื่นกามข่มขืนเธอในรถยนต์ และถ่ายรูปตอนเธอเปลือยพร้อมคลิปวิดีโอตอนมีอะไรกันเก็บไว้เพื่อแบล็กเมล์  ป้องกันเธอไปแจ้งตำรวจ  เสร็จกิจก็ส่งเธอไปนอนกองไว้ที่หน้าบ้าน 

เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย Nick Magwood จาก Pixabay

รุ่งเช้าเมื่อหายเมาหญิงสาวมาเปิดโทรศัพท์มือถือดูก็เห็นมีคนแปลกหน้าส่งข้อความมาในไลน์  เมื่อเธอเปิดดูก็กรี๊ดลั่นกับสิ่งที่อีกฝ่าย  หญิงสาวจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง 

รู้แต่เพียงว่าเธอเมามาก   เมื่อถามแม่แม่ก็ได้แต่บอกเธอเมามาก  เห็นมานั่งอยู่หน้าบ้าน  แม่กับพ่อจึงช่วยพยุงเธอมานอนบนเตียงนอนในห้องนอนของเธอเอง   หญิงสาวอยากเล่าอีกเรื่องให้แม่ฟังแต่ก็ไม่กล้า และอายเกินกว่าจะบอกใครทั้งนั้น 

เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย Pete Linforth จาก Pixabay

หลังจากที่เธอทำแท้ง หญิงสาวรู้สึกได้เลยว่ามีใครกำลังติดตามเธออยู่ตลอดเวลา คืนหนึ่งเธอก็ได้ฝันเห็นเด็กแฝดหน้าตาเมือนเปี๊ยบวิ่งเข้ามาหาเธอด้วยแววตาอาฆาต  หญิงสาวตกใจกระเด้งตัวขึ้นมาทันที  และย้อนนึกเหตุการณ์ไปในวันที่เธอทำแท้งว่ามีก้อนเลือดสองก้อนออกมา “ลูกแฝด !” หญิงสาวอุทานด้วยความตกใจเหงื่อแตกซิก  เธอรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้น  เพราะเท่ากับว่าเธอฆ่าเด็กไปถึงสองคน 

เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย Pete Linforth จาก Pixabay

เช้าวันรุ่งขึ้น  เธอเลื่อนอ่านข่าวในอินเทอร์เน็ต  ก็เจอข่าวคนขับแท็กซี่แหกโค้งชนต้นไม้ได้รับบาดเจ็บ  คนขับแท็กซี่เล่าว่า “ขับรถอยู่ดี ๆ  ก็มีเด็กตัวเล็ก ๆ  สองคนหน้าตาเหมือนกันววิ่งมาตัดหน้ารถ”   หญิงสาวรู้สึกว่ามันประจวบเหมาะเกินไปกับความฝันของเธอเมื่อคืน   จึงลองพูดลอย ๆ   "ถ้าคนขับแท็กซี่ในข่าวคือคนเดียวกับที่ข่มขืนเธอในคืนนั้น  ขอให้วิญญาณลูกของเธอช่วยแก้แค้นให้เธอด้วย"  วันถัดมาจึงมีข่าวว่าคนขับแท็กซี่คนเดิมได้เสียชีวิตแล้วเป็นที่เรียบร้อยในสภาพคอหักตายอย่างสยดสยองเป็นที่สุด  ส่วนเธอก็ทำบุญใส่บาตรอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับวิญญาณลูกแฝดของเธอทั้งสองคน  และยอมสละสิทธิ์ไม่ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ  ตัดสินใจบวชชีให้กับวิญญาณลูกแฝดของเธอแทน  

====================

เล่าเรื่องโดย : Neemmy BK

เครดิตรูปภาพหน้าปก : ภาพโดย Pete Linforth จาก Pixabay