ไลฟ์แฮ็ก
10 คำถาม ที่จะเปลี่ยนชีวิตของคุณ

10 คำถาม ที่จะเปลี่ยนชีวิตของคุณ
ไม่ว่าชีวิตของคุณจะยืนอยู่จุดไหน คนเรามักมีคำถามกับตัวเองเสมอ อาจเป็นคำถามที่สะท้อนความคิด ความรู้สึก และตัวตนภายในของคุณ เพื่อที่จะค้นหาว่า "คุณคือใคร" และ "ชีวิตกำลังมุ่งหน้าไปทางไหน"
คำถามต่าง ๆ เหล่านี้ จะช่วยรู้ว่าอดีตว่าคุณเคยไปถึงไหน และคาดเดาอนาคตว่าคุณกำลังจะไปที่ไหนต่อจากนี้ การกระทำเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดชีวิตคุณได้อย่างไร
คำถามเหล่านี้ เป็นคำถามที่ช่วยตรวจสอบชีวิต การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง ในแต่ละจังหวะของชีวิต คุณได้เติบโตและเรียนรู้อะไรบ้าง
การถามคำถามที่ถูกต้องกับชีวิต จะทำให้คุณมีความสุขและประสบความสำเร็จ ดังที่คุณคาดหวัง เพราะชีวิตคุณออกแบบเองได้
10 คำถาม ที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณ มีดังต่อไปนี้
1. ตอนนี้คุณอยู่ระดับไหน
Advertisement
Advertisement
- ช่วงเวลานี้สอนให้คุณเรียนรู้อะไร
- คุณได้เรียนรู้สิ่งที่คุณต้องทำในอนาคตหรือไม่
- อะไรที่ทำให้คุณมีความสุข
นี่คือคำถามสำคัญที่จะช่วยประเมินชีวิตของคุณ ประสบการณ์มากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ทำให้คุณได้เรียนรู้อะไร และต่อไปในอนาคตจะมีสิ่งใดเข้ามาให้คุณได้เรียนรู้อีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องร้ายหรือดี ทุกอย่างล้วนเข้ามาในชีวิตเพื่อสอนอะไรบางอย่างให้กับคุณ คุณจงเรียนรู้มัน และมีความสุขปัจจุบัน
ฉันมักถามตัวเองเมื่อเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยน่าพอใจ "เหตุการณ์นี้ต้องการสอนให้ฉันเรียนรู้เรื่องอะไร" เช่น เหตุการณ์ในชีวิตประจำวันที่รบกวนจิตใจ พนักงานที่ทำกิริยาไม่ดีใส่ดิฉัน ฉันได้คำตอบว่า สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้ว่าจากเหตุการณ์นี้ คือ การที่ใครสักคนแสดงพฤติกรรมไม่ดีใส่เรา เพราะว่าตัวเขาเองต้องการสื่อสารบางอย่าง แต่ไม่สามารถสื่อสารออกมาได้ เพราะไม่มีทักษะในการสื่อสาร เขาอาจจะต้องการบอกความรู้สึกว่า เขาไม่พอใจ หรือรู้สึกไม่ดีอะไรบางอย่าง ส่วนมากมักเป็นปัญหาภายในที่เรามองไม่เห็น พฤติกรรมของคนเราก็เหมือนภูเขาน้ำแข็ง ที่แสดงออกออกมา แต่สาเหตุเบื้องลึก อาจไม่ตรงกับสิ่งที่แสดงออก และการที่ดิฉันถูกพนักงานบริการทำมารยาทไม่ได้ใส่ ไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องหงุดหงิด ฉันไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหา ฉันได้เพียงแต่แสดงออกอย่างที่ฉันเป็น มั่นคง และสุภาพกับทุกคน นั่นเป็นการสอนพวกเขาทางอ้อม และส่วนใหญ่มักจะได้ผล ไม่มีเหตุผลที่จะตอบโต้สิ่งไม่ดีด้วยสิ่งที่ไม่ดี ไฟไม่สามารถดับไฟ เพราะมีแต่น้ำเท่านั้นที่ดับไฟได้
Advertisement
Advertisement
อะไรที่ทำให้ชีวิตฉันมีความสุข ฉันมักถามตัวเองบ่อยครั้ง ชีวิตคนเราไม่สามารถมีความสุขตลอดเวลา หรือมีความทุกข์ไปตลอด สิ่งที่ทำให้เรามีความสุขได้ ก็ทำให้ทุกข์ได้ เช่นกัน ฉันมักมีความสุขกับการได้เรียนรู้เรื่องราวภายในจิตใจของตัวเอง และคนอื่น นี่แหละคือความสุขของฉัน มันอาจจะฟังดูเป็นนามธรรม แต่นิยามความสุขของคนเราต่างกัน แน่นอนว่า เรื่องเงิน ความรัก ครอบครัว มีความสำคัญ หากให้เลือกความสุขได้ 1 อย่าง ความสุขของฉัน คือ การได้มีสัมพันธภาพที่ดีกับคนอื่นและกับตนเอง มีความสมดุลด้าน การเงิน การงาน และความรัก
2. คุณใส่ใจตัวเองหรือไม่
- คุณรักตัวเองมากแค่ไหน
- คุณมีแนวโน้มที่เห็นอกเห็นใจตัวเองบ้างไหม
- คุณจะดูแลตัวเองให้มากขึ้นได้หรือไม่
- คุณใส่ใจความต้องการของตัวเองมากแค่ไหน
- คุณต้องพูดว่า "ใช่" ทั้ง ๆ ที่อยากปฏิเสธอยู่หรือเปล่า
Advertisement
Advertisement
การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิต เพราะบ่อยครั้งสังคมบอกเราว่าให้ค้นหาความสุขและความสำเร็จ มากกว่าที่จะบอกว่า ให้ดูแลร่างกายและจิตใจ ดังนั้น การดูแลตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้เราเป็นสุขและประสบความสำเร็จ โดยเริ่มจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ในการดูแลตัวเอง เช่น
สำหรับฉันการรักตัวเอง ไม่ใช่เรื่องเห็นแก่ตัว การรักตัวเองเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เราเรียนรู้วิธีการรักคนอื่น น่าแปลกใจที่หลายคนเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และไม่ค่อยเห็นอกเห็นใจตัวเอง บางคนอาจจะแปลกใจ เห็นใจตัวเอง ทำยังไงเหรอ เมื่อเราต้องยุ่งเกี่ยว หรือมีความสัมพันธ์กับคนที่ทำให้เราเจ็บปวด เราต้องรีบถอยออกมา และปลดปล่อยคนเหล่านั้นออกไปจากชีวิต ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ใช่เรื่องผิด ที่เราจะไม่อนุญาติให้ใครทำร้ายจิตใจของเรา เราต้องเห็นอกเห็นในตนเอง ไม่ตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก คุณต้องใส่ใจความต้องการ และฟังเสียงหัวใจของตัวเอง
ฉันพูดว่า "ใช่" ทั้งที่อยากปฏิเสธอยู่หรือเปล่า ฉันมักจะถามคำถามนี้กับตัวเอง ฉันไม่ชอบออกงานสังคม ด้วยเหตุผลหลายอย่าง ถ้าเพื่อนชวนไปงานแต่งงาน จะพร้อมที่จะบอกปฏิเสธทุกงาน พร้อมกับให้เหตุผลที่แท้จริง และไม่ทำให้เพื่อนรู้สึกแย่ ฉันมักพูดว่า "ฉันยินดีกับวันสำคัญของเธอ ฉันไม่สามารถร่วมงานได้ เนื่องจากฉันไม่สะดวก เดี๋ยวฉันจะส่งของขวัญไปแสดงความยินดีนะ" พอการได้ทำแบบนี้ ทำให้ชีวิตเปลี่ยนมากเลย เพราะไม่ต้องฝืนใจตัวเอง และยังรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนไว้ได้
- หาเวลาอยู่ลำพังคนเดียว
- นั่งสมาธิ
- ปลดปล่อยความคิดที่ยึดติดกับอดีต
- ประกาศคุณค่าของตัวคุณ
- เรียนรู้ที่จะเลือกด้วยตัวเอง
- เคารพตัวเอง
- จัดแผนการและขอบเขตการดูแลสุขภาพ
- เรียนรู้ที่จะปฏิเสธอย่างสุภาพ
- ให้ความสำคัญกับตัวเอง
การดูแลตัวเองไม่ใช่การเห็นแก่ตัว แต่เป็นการเพิ่มพลังชีวิตให้เราได้เติบโตอย่างมีความสุข และสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ เราต้องเรียนรู้จะรักตัวเองก่อนที่จะรักหรือช่วยเหลือผู้อื่น
3. คุณยึดติดกับสิ่งใด หรือ สิ่งใดที่ดึงคุณไว้ไม่ให้เติบโต
- คุณสร้างพื้นที่ความคิดด้านลบเพื่ออะไร
- ความคิดเชิงบวกเกี่ยวกับตัวคุณเองที่คุณต้องสนใจคืออะไร
คำถามนี้จะทำให้คุณรู้ข้อจำกัด ข้อดี ข้อเสียของตัวเอง และเปลี่ยนมุมมอง โฟกัสที่ด้านดีของตัวเองให้มากกว่าข้อเสีย เพราะทุกคนล้วนมีข้อดีและข้อเสีย จุดเด่นและจุดด้วยในตัวเอง การเลือกมองข้อดีจะช่วยดึงศักยภาพที่คุณมีอยู่ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่
ฉันจะสำรวจตัวเองว่า ฉันสร้างความพื้นที่ความคิดทางด้านลบเพื่ออะไร มันมีประโยชน์อะไรที่จะคิดลบแบบนั้น ตามสัญชาติญาณการเอาตัวรอดของมนุษย์ มักจะคิดลบไว้ก่อน มันเป็นการเอาตัวรอด เมื่อฉันเจอเรื่องที่ไม่น่าพอใจ ฉันจะถามตัวเองว่าถ้าฉันไม่โกรธแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่เสียใจแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่คิดลบแล้วจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเราตอบคำถามตัวเองได้ เราก็จะรู้สึกเปลี่ยนไป ส่วนใหญ่คำตอบของเราจะบอกว่าไม่ค่อยสมเหตุมผลเลยที่เราจะคิดลบ เพราะมันไม่ได้อะไร ถ้ามันไม่มีประโยชน์อะไรกับชีวิต เราไม่ต้องรู้สึกแบบนั้นก็ได้
แล้วความคิดของเราจะไปสู่ความคิดด้านบวกโดยอัตโนมัติ
4. คุณกำลังคิดอะไรอยู่
- คุณมีความคิดเชิงบวกและความคิดลบเกี่ยวกับตัวคุณเองอย่างไรบ้าง
- ความคิดนี้มาจากไหน
- คุณบอกตัวเองหรือคนอื่นบอกคุณ
- คุณได้เรียนรู้อะไรจากความคิดนี้
- มีความเชื่ออะไรที่อยู่แฝงมากับความคิดนี้
- ความเชื่อนี้มาจากไหน
- เพราะอะไรคุณจึงเชื่อแบบนั้น
- คุณสามารถปล่อยวางความคิดนี้ได้หรือไม่
การพัฒนาจิตใจ และความคิดเชิงบวก จะช่วยเพิ่มศักยภาพในชีวิตของคุณ การตั้งคำถามเหล่านี้ทำให้คุณได้เรียนรู้ ในการตรวจสอบความคิด และทบทวนเรื่องภายในจิตใจของคุณอีกครั้ง แทนที่จะเสียเวลาในการกังวลถึงข้อเสีย หรือความคิดลบ คุณใช้คำถามเหล่านี้ช่วยทบทวนความคิดที่เกิดขึ้น และปล่อยวางความคิดลบนี้ลงไป เพราะความคิดลบส่วนใหญ่ คุณคิดขึ้นมาเอง และไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า สิ่งนั้นสมเหตุสมผล คุณควรโฟกัสข้อดี หรือความคิดเชิงบวกของคุณจะดีกว่า
ครั้งหนึ่งฉันเคยผิดหวังกับความรัก ฉันคิดลบกับตัวเองว่า ฉันไม่ดีตรงไหน ฉันสำรวจมันว่า ฉันคิดว่าฉันไม่ดีหรือมีใครบอกว่าฉันไม่ดี ส่วนใหญ่คนที่บอกว่าเราไม่ดี ก็มีแค่คนเดียว คือคู่กรณีของเรานั่นแหละ เมื่อหมดรัก อะไร ๆ ก็ไม่ดี ฉันต้องถามตัวเองว่าฉันไม่ดีจริง ๆ หรือแค่คนเดียวคิดว่าฉันไม่ดี ฉันควรเลือกที่จะเชื่อหรือไม่ ส่วนใหญ่ในความสัมพันธ์ที่จบลง เรามักเป็นผู้ร้ายในเรื่องเล่าของใครเสมอ ถ้ามันไม่จริงก็ปล่อยวางความคิดนั้นไป แต่ถ้าเราไม่ดีจริง ๆ ก็แค่ปรับปรุงตัว แล้วเริ่มต้นรักครั้งใหม่กับคนใหม่ ส่วนคนที่เห็นว่าเราไม่ดี ต่อให้เราดีแค่ไหนเขาก็ไม่เห็น ปล่อยเขาไป
5. คุณต้องการ "เพิ่ม" อะไรเข้ามาในชีวิต และ "ลด" อะไรออกไปจากชีวิต
- คุณพร้อมที่จะรักษา หรือปล่อยสิ่งนี้ไปหรือไม่
- สิ่งที่ต้องการเพิ่ม จะนำความสุขที่แท้จริงมาให้หรือไม่
- ถ้าปลดปล่อยบางสิ่งในชีวิตไป ชีวิตจะดีกว่าเดิมใช่ไหม
- สิ่งต่าง ๆ ที่ต้องการเพิ่มเข้ามาในชีวิต ช่วยให้ชีวิตคุณเป็นอิสระมากขึ้นหรือกลายเป็นภาระ
การทบทวนถึงทางเลือก "เพิ่ม" หรือ "ลด" บางสิ่งในชีวิตของคุณ เป็นการฝึกสติ และปรับตัวให้ชินกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิต ที่มี เพิ่ม หรือ ลด อยู่เสมอ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งของ ผู้คน หรือความรู้สึก จงอย่ายึดติดกับความเจ็บปวดของคุณ หากมันไม่ได้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น จงปลดปล่อยมันออกไปจากชีวิต ไม่มีเหตุผลที่ดีสำหรับการกักเก็บความเจ็บปวดไนชีวิตของคุณ
ฉันมักถามตัวเองอยู่เสมอ ถึงสิ่งที่ต้องเพิ่ม หรือลดในชีวิต ชีวิตคนเราไม่ได้มีความสุขจากการ "ได้มา" เพียงอย่างเดียว แต่การตัดอะไรออกไปจากชีวิต เป็นวิธีที่สร้างความสุขให้กับเราได้จริง ๆ ฉันมักคิดว่า ทุกสิ่งที่เรามี เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลแล้ว เพราะเราต้องสามารถดูแลทุกสิ่งที่เรามีอย่างดีที่สุด สิ่งนั้นจึงจะอยู่กับเรา เพื่อน คนรัก และเงินทอง
ยกตัวอย่างเรื่องเงิน คนรวยมักเรียนรู้วิธีการจัดการเงินได้ดี เขาจึงมีมัน ถ้าเงินเปรียบเหมือนไอติม หากเรายังเป็นเด็กที่ถือไอติมแล้วหล่นหรือปล่อยให้มันละลายอย่างไร้ประโยชน์ เราคงมีไอติมได้ไม่เยอะ ส่วนคนที่มีไอติมเยอะ ๆ เพราะเขารู้วิธีจัดการกับไอติมของเขา ถ้าเราไม่สามารถดูแลสิ่งไหนได้ เราก็ควรลดมันออกไปจากชีวิต เช่น เสื้อผ้าที่มากเกินไป ความสัมพันธ์ที่รกรุงรัง บางคนมีแฟนหลายคน แน่นอนว่าดูแลไม่ดีสักคน ถ้าแฟนเปรียบเหมือนไอติม ก็คงละลายทิ้งไปหมดเพราะดูแลไม่ดี รวมถึงการลดความรู้สึก ปลดปล่อยมันออกไป ถ้าฉันไม่พอใจฉันจะถามตัวเองว่า ถ้าความรู้สึกนั้นลดลงไปหรือหายไป มันจะทำให้ชีวิตฉันเป็นอย่างไร แน่นอนว่า ฉันตอบว่า มันดีต่อใจ งั้นไม่เสียใจ ไม่โกรธดีกว่า ฉันมีวิธีลดความโกรธแบบรวดเร็ว โดยการจินตนาการว่า ความโกรธเป็นสีแดง ฉันจะทำให้สีแดงค่อย ๆ จางลง และบางทีฉันก็เปลี่ยนสีของความรู้สึก ฉันจะนึกว่า สีแดงจาง ๆ นั้นเปลี่ยนเป็นสีขาว เปลี่ยนเป็นสีฟ้า เย็น สบายใจ ลองทำตามดูได้นะคะ
6. คุณกลัวอะไร คุณจะจัดการกับความกลัวนั้นได้อย่างไร
- คุณกลัวอะไรที่จะทำให้ชีวิตคุณเจ็บปวด
- ถ้าคุณไม่กลัวจะเกิดอะไรขึ้น
- ความคิดด้านลบ คืออะไร
- ตรวจสอบความคิด และความเชื่อนั้นว่าถูกต้องหรือไม่
- มีความคิดเชิงบวกที่ฉันสามารถคิดได้อีกไหม เพื่อขจัดความคิดลบให้หมดไป
อย่าจำกัดชีวิตของตนเองไว้กับความกลัว ความกลัวเป็นสิ่งที่น่าแปลก ยิ่งคุณรู้สึกกลัวมากเท่าไหร่ มันจะขยายตัวใหญ่ขึ้นมากเท่านั้น คุณต้องเชื่อมั่นว่า คุณสามารถจัดการกับความกลัวที่คุณสร้างขึ้นมาได้ คุณต้องเข้าใจภาวะความกลัว มันคือการคิดลบอย่างต่อเนื่อง ในระยะเวลาหนึ่ง นานพอที่จะครอบงำจิตใจของคุณ อย่าปล่อยให้ความกลัวอยู่กับคุณนานเกินไป เพราะมันจะขยายตัวใหญ่ขึ้น
คำถามนี้ดีมากเลยนะ จะช่วยเปลี่ยนแปลงความเจ็บปวดในใจ ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ตอนที่ฉันอกหัก ฉันถามตัวเองว่า ฉันกลัวอะไรที่ทำให้ฉันเจ็บปวด ฉันเจ็บปวดจากการไม่มีคนคนนี้ในชีวิตจริงเหรอ คำตอบของฉันคือ ที่ฉันต้องเจ็บปวดเพราะการมีคนคนนี้ในชีวิตต่างหาก ถ้าฉันไม่กลัวจะเกิดอะไรขึ้น คำตอบคือ ฉันจะปลดปล่อยเขาไปให้เป็นอิสระ ความรักมันคืออิสระตั้งแต่แรก จริง ๆ ฉันควรปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากเขา ความคิดด้านลบของฉันคือ เมื่อไม่มีเขา ชีวิตฉันจะแย่กว่าเดิม จะเหงา ไม่มีความสุข เศร้า เสียใจ คิดถึง เมื่อตรวจสอบความคิดแล้ว มันก็เกิดขึ้นในช่วงแรก แต่การได้พาตัวเองออกมาจากความสัมพันธ์แย่ ๆ หรือคนแย่ ๆ ชีวิตดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก เมื่อคิดในเชิงบวกและโฟกัสมัน ความคิดเชิงบวกก็ขยายตัวขึ้น เราไม่จำเป็นต้องลืมความเจ็บปวดหรอก มันเกิดขึ้นแล้ว มันเกิดขึ้นจริง เราแค่ยอมรับมัน และอยู่กับมันให้ได้ โดยขยายความสุขและความคิดเชิงบวกของเราให้มากขึ้น เอาเวลาไปโฟกัสกับเรื่องท่ีทำแล้วมีความสุข งานอดิเรกที่ชอบ กลับมาดูแลตัวเอง เวลาทั้งหมดในชีวิตกลับมาเป็นของเรา ไม่ต้องหารสองมันดีมาก เมื่อเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่ ควรหาคนที่ทำให้ความสุขของเราคูณสอง ไม่ใช่หารสองนะ ฉันบอกกับตัวเองแบบนี้
7. ตอนนี้คุณรู้สึกซาบซึ้ง หรืออยากขอบคุณกับสิ่งใดในชีวิต
- คุณรู้สึกขอบคุณอะไรในชีวิตคุณที่คนอื่นไม่มี
- คุณขอบคุณความสัมพันธ์อะไรบ้าง
- คุณจะขอบคุณปัญหา หรือความท้าทายในชีวิตของคุณได้อย่างไรบ้าง
- คุณจะขอบคุณความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตว่าอย่างไร
- คุณได้รับข้อคิดอะไรบ้างที่ทำให้คุณรู้สึกขอบคุณ
- คุณจะพูดว่าขอบคุณมากขึ้นได้อย่างไร
- มีโอกาสใดบ้างที่คุณจะได้พูดว่าขอบคุณ
- มีอะไรที่จะพูดว่า ขอบคุณ ได้บ้างไหม
ยิ่งคุณขอบคุณมากเท่าไหร่ ชีวิตคุณจะดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามา และจะมีเหตุการณ์มากมายที่ทำให้คุณต้องพูดว่า ขอบคุณ และคุณจะมีความสุขในการใช้ชีวิต เมื่อคุณได้พูด และรู้สึกขอบคุณจากใจจริงมากยิ่งขึ้น
ถ้าคุณมีเรื่องให้ขอบคุณ นั่นหมายถึงเกิดเรื่องที่คุณพึงพอใจ ฉันรู้สึกขอบคุณอะไรในชีวิต คำตอบของฉันคือ การมีชีวิตไง มันเป็นสิ่งที่พิเศษที่สุดแล้ว เพราะเราสามารถได้ทำเรื่องที่เราชอบ เวลาของเรามีอย่างจำกัด แค่เวลาทำสิ่งที่ชอบยังไม่พอแล้ว เราจะเสียเวลาไปกับเรื่องที่เราไม่ชอบหรือคนที่เราไม่ชอบไปเพื่ออะไร เราต้องขอบคุณสิ่งต่าง ๆ โฟกัสสิ่งดี ๆ ความสัมพันธ์ดี ๆ แน่นอนว่า ชีวิตฉันไม่ได้มีแต่ความสุขและปฏิเสธความทุกข์ เพียงแต่เราเข้าใจมัน ไม่กำจัดมัน ถ้าความสุขและความทุกข์ คือเพื่อนสองคนของคุณ ที่พลัดกันแวะมาหาคุณ เมื่อเพื่อนความสุขมาหา คุณกล่าวขอบคุณ ยิ้มทักทาย เหมือนว่าคุณซาบซึ้งที่เพื่อนความสุขมากหา เมื่อเพื่อนความทุกข์มาหาคุณ คุณไล่ ด่า ตะโกน บางทีการทำแบบนั้นอาจทำให้เพื่อนความทุกข์รู้ตัว และอย่างมากลั่นแกล้งคุณ อยากมาหาคุณบ่อย ๆ เขาอาจสนุกที่ได้เห็นคุณเสียใจ ตะโกน ไล่ด่า เขารู้ว่าคุณกลัว เพื่อนความทุกข์ของคุณจะรู้สึกอยู่เหนือกว่า และบงการชีวิตคุณได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่คุณเปลี่ยนตัวเอง เมื่อเพื่อนความทุกข์เขามา คุณก็แค่รับรู้ว่าเขามาแล้ว เข้าใจเขา มองเห็นเขาเป็นเขา เราจะไม่ไล่ความทุกข์ออกไป ปล่อยให้เขาเป็นเขาไป ไม่ต้องไปวุ่นวาย และทำให้เขารู้ว่า เขาทำอะไรเราไม่ได้หรอกนะ เรามั่นคง และสงบมากพอ ถึงตอนนี้ เพื่อนความทุกข์ของคุณจะเปลี่ยนท่าทีที่มีต่อคุณ บางครั้งเขาอาจกลายเป็นบทเรียนให้คุณ หรือหายไปจากชีวิตคุณ แต่เพื่อนความสุขของคุณยังอยู่ เพราะคุณ ทักทาย และขอบคุณเขา ซาบซึ้งในการมาของเขา เขาจะมาหาคุณบ่อยมากขึ้น ฉันมักจะพูดขอบคุณอยู่เสมอ แม้กระทั่งรู้สึกขอบคุณในใจเกือบตลอดเวลา
คุณจะพูดขอบคุณได้มากขึ้น เมื่อคุณรู้ว่ามันมีความหมายและเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณ
8. คุณยอมรับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตได้หรือไม่
การเปลี่ยนแปลงในชีวิตเป็นสิ่งที่น่ากลัว เพราะคุณต้องเผชิญสถานการณ์ที่อยากลำบาก การยอมรับการเปลี่ยนแปลง คือการเข้าใจเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงนั้น และปล่อยวางความคิดที่ยึดติด และยอมรับมัน ใช้ชีวิตของคุณให้คุ้มค่า ทำให้มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น สนุกสนาน เพราะชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงในชีวิตทำให้เกิดความเครียด แม้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็ก หรือใหญ่ เปลี่ยนวัย จากวัยรุ่นไปสู่วัยผู้ใหญ่ เปลี่ยนจากผมดำ ไปสู่ผมหงอก ตอนที่ฉันเริ่มมีผมหงอก ฉันรู้สึกตกใจ ไม่ใช่กลัวว่าจะไม่สวย แต่ตกใจในอายุที่เพิ่มมากขึ้น ฉันค้นหาความรู้ว่า ผมหงอกเกิดจากอะไรได้บ้าง นอกจากอายุที่เพิ่มขึ้น ฉันผมหงอกกว่าวัยอันควรหรือเปล่า เมื่อฉันเข้าใจเหตุผลของการมีผมหงอก ฉันก็เข้าใจการเปลี่ยนแปลง ฉันไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว อย่าไปยึดติดกับผมหงอกหรือดำ อย่างมากก็แค่ย้อมผม หรือนั่งถอนผมหงอกก็สนุกดี
9. คุณจะตั้งเป้าหมายได้อย่างไร และควรตั้งเป้าหมายอะไรในชีวิต
- ฉันจะเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างไรเพื่อให้ไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้
- เป้าหมายที่ตั้งไว้ เป็นสิ่งที่ฉันต้องการจริง ๆ หรือไม่
- สิ่งที่ฉันเลือกทำเพื่อไปสู่เป้าหมาย จะนำพาความสุขมาให้ฉันได้หรือไม่ อย่างไร
หากคุณไม่กำหนดเป้าหมายในชีวิต คุณจะไม่สามารถกำหนดทิศทาง หรือการกระทำของคุณ เพื่อให้บรรลุในสิ่งที่คุณต้องการจริง ๆ นั่นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งในการถามคำถามเหล่านี้กับตัวคุณเอง
ฉันจะเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างไรให้ไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ คนเราส่วนใหญ่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากเปลี่ยน แต่กลไกสมองทำให้เราไม่เปลี่ยน เมื่อเราทำอะไรซ้ำ ๆ จนเกิดความเคยชิน สมองจะบอกเราว่า มันปลอดภัย และความเคยชินนี้แหละที่น่ากลัว เพราะมันกลายเป็นพฤติกรรมและนิสัย การที่ฉันจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ฉันต้องเข้าใจกลไกสมอง และพฤติกรรมความเคยชินของตัวเอง เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เมื่อเรามองเห็นผลลัพธ์ อย่างเช่น เรื่องลดน้ำหนัก เพราะอะไรหลายคนจึงลดน้ำหนักไม่ได้ ทั้งที่พยายาม ตั้งใจ มีความรู้ สุดท้ายกลไกสมองก็สั่งให้เราแพ้ความเคยชิน เรากลับไปกินเหมือนเดิม เพราะผลลัพธ์ของมันไม่เห็นในทันที เราใช้เกณฑ์น้ำหนักเป็นตัววัดความสำเร็จ ถ้าเราอยากเห็นผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ เราต้องเห็นผลลัพธ์เล็กน้อยก่อน คุณต้องเขียน จด และแปะผลลัพธ์ ไว้ให้คุณสามารถมองเห็น สิ่งใดที่มีการเขียนบันทึก และจดไว้ สิ่งนั้นจะสำเร็จ คุณจดว่า วันนี้คุณออกกำลังกาย 30 นาที คุณทำสำเร็จ บอกตัวเองว่านี่คือความสำเร็จ ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เกิดจากความสำเร็จเล็ก ๆ และสม่ำเสมอ ทำมันจนเป็นนิสัย คุณก็ทำได้
เป้าหมายที่ฉันตั้งไว้ ฉันต้องการมันจริง ๆ หรอ ฉันอยากหุ่นดีไปเพื่ออะไร เพื่อสุขภาพที่ดี สุขภาพที่ดีมันดียังไง หลายคนรู้เหตุผลและคำตอบอยู่แล้ว แต่ไม่เห็นความสำคัญของการออกกำลังกายหรือการดูแลสุขภาพ เพราะอะไร เพราะว่าโทษจากการไม่ออกกำลังกายมันไกลตัว คุณไม่ออกกำลังกายวันนี้ ไม่ได้ทำให้คุณอ้วนในทันที กว่าคุณจะอ้วนต้องใช้เวลานานเป็นเดือน หรือเป็นปี และกว่าจะลดน้ำหนักได้ บางคนใช้เวลาเกือบครึ่งชีวิต ทำอย่างไรคุณจะเห็นความสำคัญ ของการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพ เพราะบางครั้งความตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัวสำหรับบางคน หรือต่อให้คุณจินตนาการว่าป่วย เป็นโรคร้าย หรือเลวร้ายที่สุดคุณจะตาย ก็ไม่ได้ช่วยให้คนที่ไม่ใส่สุขภาพหันมาสนใจดูแลตัวเอง ยังคงกินเหล้า สูบบุหรี่ คุณต้องหาแรงบันดาลใจ ว่าคุณจะอยู่เพื่อใคร ชีวิตคุณมีความหมายต่อใคร และคุณก็ดูแลตัวเองเพื่อคนเหล่านั้น
10. ความหมายของชีวิตคืออะไร และเหตุผลของการมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร
- คุณเป็นใคร
- คุณกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงในชีวิตอย่างไรบ้าง
- คุณมีวิธีรับมือกับปัญหาอย่างไร
- คุณมีความสามารถโดดเด่นในเรื่องใด
- วิธีที่คุณพูดกับตัวเองเป็นอย่างไร
- คุณมีนิสัยอย่างไร
- คุณคิดอะไร
- ทำไมคุณจึงทำอย่างที่คุณคิด
- คุณได้รับอิทธิพลในชีวิตจากใคร
- คนที่คุณต้องการจะเป็น คือใคร หรือเป็นแบบไหน

นี่คือคำถามที่สำคัญมาก เป็นเหมือนเข็มทิศชีวิต และตัวกำหนดพฤติกรรมในชีวิตของคุณว่าจะมุ่งไปทางไหน คุณต้องค้นพบ และตอบคำถามนี้ด้วยตนเอง
การที่เรารู้ว่า ตัวเองเป็นใคร จะทำให้เราเข้าใจตัวเราเอง สิ่งนี้มีความสำคัญมากเปรียบเสมือนแผนที่ชีวิต เมื่อเราเจอเรื่องร้าย หรือทางเลือกต่าง ๆ ถ้าเรารู้ว่าเราเป็นใคร จะทำให้เราตอบสนองสิ่งที่เกิดขึ้นแตกต่างกันออกไป เช่น บางคนไม่เห็นว่าตัวเองสำคัญ เขาจึงแสดงออกเหมือนว่าเขาไม่สำคัญ และทำอะไรก็ได้ ไม่ต้องแคร์ความรู้สึกใคร ไม่มีจิตสาธารณะ คิดว่าตนเองไม่มีผลกระทบต่อโลกใบนี้ ฉันตัวเล็ก ไร้ค่า เปลี่ยนแปลงโลกนี้ไม่ได้หรอก หรือบางคนคิดว่าตัวเองสำคัญมาก ฉันยิ่งใหญ่ จะทำอะไรกับใครก็ได้ การรู้ว่าตัวเองเป็นใคร เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้ว่เราจะมีพฤติกรรมตอบสนองต่อสิ่งรอบข้างอย่างไร ไม่มีใครเล็ก หรือใหญ่ เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต่างมีหน้าที่ของตัวเอง และรับผิดชอบต่อพื้นที่ส่วนรวม
คำถามต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยให้คุณประเมินตัวเองได้ว่า ที่ผ่านมาใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าแล้วหรือยัง ช่วยให้คุณค้นพบศักยภาพในตัวเอง และเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ และค้นหา "จุดสมดุล" ของชีวิตคุณเอง ขอให้คุณมีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิต
ความคิดเห็น









