อื่นๆ
10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ "วันสารทไทย"

วันสารทไทย ประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย จัดขึ้นในราวกันยายน - ตุลาคมของทุกปี ซึ่งในปีนี้ ตรงกับวันที่ 6 ตุลาคม 2564 ทว่าประเพณีวันสารทไทย มีที่มาและความสำคัญอย่างไรนั้น เราไปทำความรู้จักกับ 10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวันสารทไทย กันเลย
1. สารท อ่านว่า [สาด] เป็นคำนาม ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัญฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ได้ให้ความหมายว่า เทศกาลทำบุญในวันสิ้นเดือนสิบ โดยนำพืชพรรณธัญญาหารแรกเก็บเกี่ยวมาปรุงข้าวทิพย์ และข้าวมธุปายาสถวายพระสงฆ์
2. ความสำคัญของวันสารทไทย คือ เป็นการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ ปู่ ย่า ตา ยาย หรือ ญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วให้ได้รับส่วนบุญ โดยมีความเชื่อว่าในช่วงวันสารทเดือนสิบ บรรพบุรุษที่ล่วงลับจะได้รับโอกาสมายังโลกมนุษย์เพื่อรับส่วนกุศลที่ครอบครัวทำบุญไปให้
Advertisement
Advertisement
3. การทำบุญในประเพณีสารทเดือนสิบนั้น จะมีการทำบุญสองครั้ง คือ
ครั้งแรก วันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 เป็นวันที่เชื่อกันว่า บรรพบุรุษ หรือญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว จะได้รับการปลดปล่อยจากนรกภูมิ มายังโลกมนุษย์
ครั้งที่สอง วันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 เป็นวันที่เชื่อกันว่า บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วกลับไปยังนรกดังเดิม
4. กิจกรรมที่ทำกันทุกปีในวันสารท คือ การนำข้าวสารอาหารแห้ง ของใช้ ผลไม้ และขนมตามความเชื่อของแต่ละท้องถิ่นไปทำบุญ และอุทิศส่วนกุศลให้ญาติที่ล่วงลับ ณ วัดใกล้บ้าน บางครอบครัวจะมีการทำขนมประจำวันสารทไทย เช่น ขนมกระยาสารท ขนมยาคุ ข้าวมธุปายาส เพื่อทานในครอบครัวและนำไปทำบุญด้วย เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เด็กและผู้ใหญ่ก็สามารถมีส่วนรวม และเรียนรู้การทำขนมไปด้วยกัน
5. การทำบุญในวันสารท มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาคของไทย ดังนี้
Advertisement
Advertisement
ภาคเหนือ เรียกว่า ตานก๋วยสลาก หรือ ทานสลากภัต
ภาคกลาง เรียกว่า สารทไทย
ภาคอีสาน เรียกว่า ทำบุญข้าวสาก
ภาคใต้ เรียกว่า งานบุญเดือนสิบ
6. การจัดหมฺรับ คือ วันที่ชาวบ้านจะมีการจัดเตรียมสิ่งของข้าวสาร อาหาร ข้าวของเครื่องใช้ และขนมที่มักทำในวันสารทเดือนสิบ มาบรรจุในภาชนะที่เตรียมไว้ เช่น กระบุง กะละมัง เข่งสาน ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่อบอุ่นไปด้วยภาพครอบครัวที่ได้มารวมกัน เพื่อจัดเตรียมสิ่งของให้ผู้ล่วงลับ แสดงถึงความกตัญญู และความเคารพต่อบรรพบุรุษ และเป็นอีกหนึ่งภาพที่แสดงถึงความรักต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้วแม้จะจากไปก็ตาม
7.การยกหมฺรับ คือ การยกหมฺที่ได้จัดเตรียมไว้ในภาชนะไปทำบุญถวายพระ ณ วัดใกล้บ้าน หรือใกล้เคียง โดยจะไปกันเป็นครอบครัว หรือมีการจัดขบวนแห่ก็ได้ บรรยากาศนั้นจะเต็มไปด้วยเสียงเพลง เสียงเครื่องดนตรีที่เปิดด้วยความครื้นเครง และสีสันของชาวบ้านที่แต่งตัวด้วยผ้าท้องถิ่นร่วมเคลื่อนขบวนแห่ไปยังวัด สร้างความสนุกสนานที่แทรกไปด้วยประเพณีและวัฒนธรรมที่สวยงาม
Advertisement
Advertisement
8. การฉลองหมฺรับและการบังสุกุล เป็นอีกหนึ่งวันที่มีความสำคัญ โดยมีการทำบุญเลี้ยงพระ และอุทิศบุญกุศลให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วส่งกลับไปยังนรกดังเดิม ซึ่งเชื่อกันว่าหากไม่ได้ทำพิธีกรรมในวันนี้ ญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วจะไม่ได้รับบุญกุศล
9. ขนมที่นิยมทำกันในวันสารทเดือนสิบ ได้แก่
กระยาสารท เป็นขนมที่ทำมาจากถั่วลิสง งาคั่ว ข้าวเม่าคั่ว น้ำตาลอ้อย หรือน้ำตาลโตนด โดยการนำน้ำตาลไปเคี่ยวให้ละลาย แล้วใส่ถั่วลิสง งาคั่ว ข้าวเม่าคั่วลงไปกวนจนเข้ากัน เสร็จแล้วเทใส่ถาด เกลี่ยหน้าให้เสมอ ตัดเป็นชิ้นพักไว้ให้เย็น
ข้าวยาคุ โดยมีส่วนผสมหลักคือ ข้าวอ่อนที่กำลังมีน้ำนม กะทิสด และน้ำตาล โดยการนำข้าวไปตำ แล้วเอาผ้าขาวบางกรองเพื่อเอาน้ำนมข้าว มาผสมกับน้ำตาล ตั้งไฟกวนให้เหนียว แล้วเทลงถาด พักไว้ให้เย็น ตัดเป็นชิ้นๆใส่ถ้วยโรยด้วยกะทิ
ข้าวมธุปายาส คือข้าวที่มีการปรุงหลายขั้นตอน มีส่วนผสมหลากหลาย เช่น ข้าวกล้อง ลูกเดือย น้ำนม และน้ำตาลมาปรุงรวมกัน โดยก่อนปรุงรวมกัน ต้องทำให้เครื่องปรุงทุกอย่างสุกก่อน
10. ขนม 5 อย่างที่ขาดไม่ได้ในการหมฺรับ ได้แก่
ขนมลา สัญลักษณ์แทน เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม เป็นขนมที่ทำจากแป้งข้าวเจ้า ผสมแป้งข้าวเหนียว แล้วนวดกับน้ำตาล จากนั้นนำมาโรยเป็นเส้นฝอยๆ คล้ายร่างแห หรือตาข่าย โดยปัจจุบันมีการใส่สีผสมอาหารเพื่อเพิ่มสีสันให้ขนมลาน่ากินมากขึ้น
ขนมพอง สัญลักษณ์แทน เรือนแพ มีวัตถุดิบหลัก คือข้าวเหนียวและน้ำมันพืช โดยการนำข้าวเหนียวที่ผ่านการแช่น้ำไว้ 1 คืน นำมาล้างให้สะอาด แล้วนำไปนึ่งจนสุก จากนั้นนำข้าวที่นึ่งสุกแล้วใส่แม่พิมพ์แบบวงกลม นำไปตากแดดจนแห้งแล้วนำไปทอดนั้นเอง
ขนมกง หรือ ขนมไข่ปลา เป็นสัญลักษณ์แทน เครื่องประดับ
ขนมบ้า สัญลักษณ์แทน ลูกสะบ้า โดยการนำวัตถุดิบ คือแป้งข้าวเหนียวมาผสมกับมันเทศนึ่ง แล้วนวดให้เข้ากัน จากนั้นปั้นเป็นลูกวงกลมแบน แล้วนำไปคลุกกับงาขาวให้ทั่ว และนำไปทอดในน้ำมันจนสุก
ขนมเจาะหู หรือภาษาท้องถิ่นเรียกว่า ดีซำ เป็นสัญลักษณ์แทน เงินตราหรือเหรียญ โดยขนมนี้ทำมาจากแป้งข้าวเหนียวนวดกับน้ำตาลโตนด ปั้นแป้งให้เป็นรูเหมือนขนมโดนัท แล้วนำไปทอดในน้ำมันจนเป็นสีน้ำตาลทอง
สำหรับผู้เขียนนั้น มีประสบการณ์วันสารทไทยทางภาคเหนือ "ตานก๋วยสลาก" เป็นอีกวันสำคัญที่ครอบครัวจะรวมตัวกัน ตั้งแต่การจัดเตรียมของใช้ อาหารแห้ง ผลไม้ มาจัดใส่ในกระเช้า และตะกร้าเพื่อนำไปทำบุญที่วัดใกล้บ้าน โดยมีความตั้งใจที่จะอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว บรรยากาศในวันงานตานก๋วยสลาก จะคึกคักไปด้วยชาวบ้านในชุมชุมที่ใส่ชุดพื้นเมือง พากันไปทำบุญ บางครอบครัวก็มีการร่วมกลุ่มกันจัดเป็นขบวนแห่เล็กๆ สร้างความสนุกสนานครื้นเครงไม่น้อย เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของไทยที่มีความหมายดีๆ ที่แสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปอย่างอบอุ่น
ขอขอบคุณที่มา:
- สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราชhttps://www.m-culture.go.th/nakhonsrithammarat
- พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 https://dictionary.orst.go.th/
ขอขอบคุณรูปภาพ
- ภาพปก และ รูปที่ 1 โดยคุณ leungchopan จาก freepik.com
- รูปที่ 2 โดยคุณ pvproductions จาก freepik.com
- รูปที่ 3 โดยคุณ jcomp จาก freepik.com
- รูปที่ 4 โดยคุณ wirestock จาก freepik.com
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ความคิดเห็น






