ไลฟ์แฮ็ก
3 เคล็ดลับ เลี้ยงน้องแมวให้เชื่อง และอารมณ์ดี
.jpg)
เครดิตภาพปกฟรีจาก : pixabay
สวัสดีค่ะทุกคน สัตว์ที่อยู่ใกล้ชิดมนุษย์มากที่สุด นอกจากน้องหมาแล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งชนิด ที่คนส่วนใหญ่ต้องยอมเป็นทาสและให้สัตว์ชนิดนี้เป็นเจ้านาย พูดแค่นี้หลายคนคงจะคุ้นกันแล้วใช่ไหมคะ ว่าสัตว์ชนิดนี้มีชื่อว่าอะไร ใช่แล้วค่ะ นั่นคือ "น้องแมว" นั่นเอง น้องแมวเป็นสัตว์ที่ขี้อ้อนขี้เล่น และซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ ทำให้หลาย ๆ คนที่ได้เลี้ยง เกิดความหลงรักแทบทุกคน แต่ข้อเสียของน้องแมวบางตัวก็คือ จะมีความดื้อและดุ ซึ่งอาจจะเป็นตามลักษณะสายพันธุ์ หรือกรรมพันธุ์ ก็เป็นได้ วันนี้ผู้เขียนมี 3 เคล็ดลับ เลี้ยงน้องแมวให้เชื่องและอารมณ์ดี มีความดุตามสัญชาตญาณน้อยลง มาฝากคุณผู้อ่านทุกคนด้วยค่ะ ส่วนวิธีนั้นจะทำยากและง่ายแค่ไหนตามมาอ่านพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ
เครดิตภาพฟรีจาก : pixabay
Advertisement
Advertisement
3 เคล็ดลับ เลี้ยงน้องแมวให้เชื่อง และอารมณ์ดี
1. ถ้าคิดจะเลี้ยงน้องแมว ควรหามาเลี้ยงตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ ประมาณ 2 - 3 เดือนขึ้นไปค่ะ เพื่อจะได้ฝึกให้น้องแมวนั้น เป็นแมวที่รักเจ้าของ และเชื่องได้ง่ายกว่าฝึกตอนโต เมื่อได้น้องแมวมาแล้ว ควรหาเวลาพูดคุยกับน้องแมวบ่อย ๆ คือ อย่าคิดว่าเราเลี้ยงแมวแต่ให้คิดว่าเราเลี้ยงเด็กเล็ก ๆ ไว้คนหนึ่ง ซึ่งเราควรจะพูดคุยกับน้องแมวบ่อย ๆ เช่น ถามว่ากินข้าวหรือยังลูก เล่นของเล่นไหม ประมาณนี้ค่ะ เพื่อที่น้องแมวนั้นจะได้รู้สึกอบอุ่นและคุ้นเคยกับเรา
แมวสามารถรู้ภาษามนุษย์ได้ถึง 150 คำ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ว่า เราได้สายพันธุ์ที่ฉลาดขนาดไหนมาเลี้ยง ในการพูดแต่ละครั้งที่เราพูดกับน้องแมวนั้น เราไม่ควรตะคอกใส่น้องแมวเด็ดขาด เพราะจะทำให้แมวเกิดความหวาดกลัวและตกใจได้ ในทุกครั้งที่จะพูดคุยกับน้องแมว ผู้เลี้ยงควรพูดด้วยถ้อยคำที่อ่อนโยน พร้อมกับใช้แววตาของเรามองไปที่ตาของน้องแมว เพราะน้องแมวจะมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งคือ จะสามารถเดาอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ที่เลี้ยงออก ว่ามีความรักต่อเขาหรือเกลียดเขา ดังนั้นการเลี้ยงน้องแมวจึงควรใช้ความรักที่บริสุทธิ์เข้าหาน้องแมวจะดีที่สุด ถ้าเราทำได้เราจะได้น้องแมวที่มีแต่ความซื่อสัตย์แสนรู้และขี้อ้อนอย่างแน่นอนค่ะ
Advertisement
Advertisement
เครดิตภาพฟรีจาก : pixabay
2. ถ้าหากเลี้ยงน้องแมวแล้ว ควรหาเวลา เช่น ช่วงเย็นที่เราเลิกจากงาน ควรพาน้องแมวออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์นอกบ้านบ้าง ก็จะดีมาก เช่น พาน้องแมวออกมาเล่นที่สนามหญ้าหน้าบ้าน ออกมานอกบ้านเดินในหมู่บ้านที่เราอยู่ หรือสถานที่ที่เหมาะสม ถ้าไม่อยากพาออกนอกบ้านจริง ๆ กลัวจะเจอสุนัขก็ให้เล่นในห้องนั่งเล่นก็ได้ เพื่อให้น้องแมวได้รู้สึกว่าได้ทำกิจกรรมร่วมกับเจ้าของ ในการเล่นนั้นเราก็สามารถหาลูกบอล หรือกล่องกระดาษ ตุ๊กตาเล็ก ๆ ก็ได้ ให้น้องแมวได้เล่นเพื่อผ่อนคลาย และเสริมสร้างทักษะให้กับน้องแมวได้อีกด้วย
การเปลี่ยนบรรยากาศพาน้องแมวมาเดินเล่นนั้น จะสามารถช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้เลี้ยงและน้องแมวได้เป็นอย่างมาก ดังนั้นใครที่เลี้ยงน้องแมวอยู่ ถ้าโตพอวิ่งได้แล้วควรหาเวลาพาน้องแมวออกมาวิ่งเล่นนอกบ้านบ้างก็จะดีไม่น้อย เพื่อที่น้องแมวจะได้ไม่เหงา และยังเป็นการฝึกให้น้องแมวได้เรียนรู้ โลกภายนอกได้อีกทางหนึ่งด้วยค่ะ
Advertisement
Advertisement
เครดิตภาพฟรีจาก : pixabay
3. เมื่อคุณเลี้ยงน้องแมวไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนก็ตาม ควรหาเวลาดูแลเอาใจใส่น้องแมวที่เลี้ยงอย่างจริงจัง เช่น การเช็ดขี้ตาให้น้องแมว ลูบคลำที่ศีรษะของน้องแมวบ่อย ๆ เพราะน้องแมวทุกตัวมีนิสัยที่คล้าย ๆ กันนั่นก็คือ ชอบให้ผู้เลี้ยงลูบที่ศีรษะ น้องแมวจะรู้สึกอบอุ่นและรู้สึกผ่อนคลาย เชื่อมั่นในตัวของเรามากขึ้น ว่าเราจะไม่ทำร้ายเขา หรืออาจจะเป็นการใช้มือเกาที่คางน้องแมวเบา ๆ วิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้น้องแมวเชื่องได้
ความห่วงใยและการดูแลเอาใจใส่เพียงเล็กน้อยแค่นี้ สำหรับน้องแมวนั้นมันคือสิ่งที่ใหญ่มาก เพราะว่าน้องแมวจะมองว่าเรานั้นเป็นผู้ที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีต่อตัวเขา และสิ่งที่เขาจะตอบแทนให้เราก็คือ ความเชื่องและซื่อสัตย์นั่นเองค่ะ
เครดิตภาพฟรีจาก : pixabay
สัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะน้องหมาหรือน้องแมว ถ้าเราเลี้ยงเขาดี ๆ รักและเอาใจใส่ เขาจะซื่อสัตว์และเชื่อฟังเราตลอดไปค่ะ ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้ จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย บทความหน้าผู้เขียนจะมีเรื่องราวอะไรดี ๆ มาฝากอีกต้องรอติดตามกันต่อไปนะคะ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ
ความคิดเห็น






