5 ข้อดีปฏิทินจีนมีไว้ติดบ้าน พร้อมวิธีดูแบบครบจบในที่เดียว

5 ข้อดีปฏิทินจีนมีไว้ติดบ้าน พร้อมวิธีดูแบบครบจบในที่เดียว

วันนี้ไม่ได้จะ มาชวนกิน หรือ ชวนเที่ยว  แต่ช่วงนี้ เป็นช่วงสิ้นปี และเริ่มต้นเข้าสู่ปี พ.ศ.ใหม่ สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องคิดถึงและจะต้องจับจอง หามาไว้เป็นเจ้าของ นั้นก็คือ "ปฏิทิน" ปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ แต่ในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ "ปฏิทินจีน"  ที่เป็นมากกว่าแค่บอก วัน เดือน ปี เท่านั้นหลายท่านอาจจะผ่านตามาบ้าง บางท่านรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่บ้างท่านอาจจะยังไม่รู้จักเลย งั้นเรามาเริ่มที่ ที่มาของปฏิทินจีนกันก่อนเลย (เอาแบบคราวๆ เพราะประวัติความเป็นมาของปฏิทินจีนมีมาอย่างยาวนาน) 

"ปฏิทินจีน" หมายถึง ปฏิทินสุริยคติหรือปฏิทินจันทรคติซึ่งชาวจีน หรือ ชาวต่างประเทศเชื้อสายจีน ใช้ในทางราชการและการกำหนดวันสำคัญต่างๆ กำหนดให้เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ดับที่ใกล้กับวันเหมายัน หรือวันที่ซีกโลกเหนือมีกลางวันสั้นที่สุด ส่วนปฏิทินจันทรคติจีน กำหนดให้เริ่มขึ้นปีนักษัตรใหม่ในวันลี่ชุน แต่เริ่มปีใหม่ในวันตรุษจีน ซึ่งเป็นวันจันทร์ดับต้นฤดูใบไม้ผลิ มักอยู่ในเดือนกุมภาพันธ์หรือปลายเดือนมกราคมของทุกปี

3 เดือนและปีตามจันทรคติของจีน

แถวบน หมายถึง ปี ซึ่งใช้ลักษณะจาก 10 ราศีด้านบน

แถวล่าง หมายถึง เดือน ซึ่งใช้ลักษณะจาก 12 ราศีล่าง

4 วันตามจันทรคติจีน

5 วันและเวลาของการเปลี่ยนศาสตร์ของชาวจีน

6 โป๊ยหยี่สี่เถียวของแต่ละวันของแต่ละวันประกอบด้วยหลักปีหลักเดือนหลักหลับยาม

7 - 8 คือราศีบนและราศีล่างของหลักดีที่ใช้พิจารณาวันที่ชงกับวันนี้

9  ฤกษ์ 28 ฤกษ์ และฤกษ์เดือนใช้พิจารณาเดือนที่ชงกับวันนี้

10 ปีนักษัตรใช้พิจารณาปีที่ชงกับวันนี้

11 ดวงดาวประจำวันใช้พิจารณาร่วมในการหาฤกษ์มงคล

12 กิจกรรมที่ควรทำในวันนี้

13 ทิศที่สถิตของเทพเจ้าแห่งโชคลาภและเทพเจ้าแห่งความยินดีในวันนี้

14 กิจกรรมที่ไม่ควรทำในวันนี้

15 ที่ดีและทิศที่ไม่ดีในวันนี้ศาสตร์ฮวงจุ้ย

ตำแหน่ง และรูปแบบของปฏิทินจีน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ถ้าทราบถึงรูปแบบ และความหมายในแต่ละจุดแล้วก็ไม่ยากที่จะทำความเข้าใจ ที่นี้เรามาทำความเข้าใจกับตัวหนังสือจีนกันบ้าง ขอนำเสนอคำอ่าน และตัวหนังสือจีน ที่แสดงถึงความหมายและคำอ่าน "วัน" ในภาษาจีน  

จะเห็นว่าภาพตัวอย่างตำแหน่งความหมายบนปฏิทินจีน ดูแล้วเข้าใจได้ยาก หรือ ไม่สามารถเข้าใจได้สำหรับผู้ที่ไม่รู้ภาษาจีน แต่ว่าในปัจจุบันมีการพัฒนา ผสมผสานระว่างวัฒนธรรมไทย และ จีน เข้าด้วยกัน เป็น "ปฎิทินไทย-จีน" ซึ่งสามารถเข้าใจได้ง่ายกว่า

เมือทราบถึงความหมายกันแล้ว สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ เป็นแนวทาง หรือวางแผนในอนาคต ผู้เขียนนำเอา 5 ข้อดี และประสบการณ์การอ่านและตีความหมายบนปฏิทินจีน มาแชร์  

อย่างที่ 1 เลย สายมู บอกเลยห้ามพลาด เพราะมักจะมีคำ ทำนายเพื่อบอกใบ้ให้รู้ว่าแต่ละวันควรทำอะไร และคนที่เกิดปีอะไรไม่ควรทำกิจกรรมกับคนที่เกิดในปีที่ชงกัน เช่น 

อย่างที่ 2 บอก ฤกษ์งามยามดี ในแต่ละวัน เพราะชาวจีน แม้แต่ชาวไทยเองก็เชื่อว่า ฤกษ์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะออกรถ ซื้อบ้าน ขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น เริ่มต้นดี อะไรๆ ก็ดูจะดีไปด้วย อย่างเช่น 

อย่างที่ 3 ปฎิทินไทย-จีน ในปัจจุบัน จะมีความต่างมีการ ทำนายตัวเลข ดาวเด่น มาให้ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ และมีเลขเด่น เหมาะสำหรับการเสี่ยงดวง และนักเสี่ยงโชค (ใช้วิจารณญาณกันเยอะๆ การลงทุนคือความเสี่ยง ) ข้อนี้ใช้เวลาศึกษานานกว่าข้ออื่นๆ 

อย่างที่ 4 บ่งบอก ลักษณะวัน มีคำทำนายภาษาไทย ซึ่งสามารถสังเกตได้ง่ายๆ ว่าหากวันไหนเป็น วันธงไชย วันกาลกินี และวันอุบาทว์ ในปฏิทินจะมีการเขียนคำทำนายเป็นตัวอักษรเป็นสีแดงทั้งหมด ซึ่งลักษณะวันที่ปรากฏในส่วนนี้จะเปลี่ยนไปทุกวัน ทุกปี ยกตัวอย่างเช่น 

อย่างที่ 5 บอกถึงปีนักษัตรที่ชงกันในวันนั้น ในปฏิทินจะบอกถึง ปีนักษัตรที่ชงกันหรือไม่ถูกกันในวันนั้น เพราะจะทำให้กิจกรรมที่ทำร่วมกันนั้นมีอุปสรรคและไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

การอ่านความหมายบน ปฏิทินจีน เป็นเพียงคำแนะนำส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิต ซึ่งในช่วงชีวิตของมนุษย์เรานั้น ย่อมมีวันที่ดี และวันที่ตรงกันข้าม หรือไม่ว่าท่านผู้อ่านจะมีความเชื่อเป็นแบบไหน เชื่อมาก เชื่อน้อย หรือจะไม่เชื่อเลย ก็ให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ และตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และ ไม่ว่าจะเลือกใช้ ปฏิทิน รูปแบบไหน ขอให้ท่านใช้เป็นเครื่องเตือนใจ ในกิจกรรมทั้งหลายย่อมก้าวหน้าถ้าท่านตั้งมั่นด้วยสติ วางแผนการเงิน และสุขภาพ 

ภาพประกอบโดยนักเขียน

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !