ไลฟ์แฮ็ก
5 เคล็ดลับ วิธีเลือกซื้อปลาทู

ปลาทู อาหารยอดฮิตสำหรับทุกครอบครัว ด้วยความอร่อยและหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทำให้ปลาทู กลายเป็นอาหารประจำครอบครัวของใครหลายคน อีกทั้งสามารถนำมาประกอบอาหารได้อย่างหลากหลาย ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด ถือได้ว่าครบทุกเมนูกันเลยทีเดียว ดังนั้นก่อนการประกอบอาหารต้องมีการเลือกซื้อทั้งในตลาดและห้างร้านทั่วไป แต่เดี๋ยวก่อน หลาคนรู้หรือไม่ ? ว่าปลาทูมีทั้งปลาทูนึ่งและปลาทูสด โดยปกติเวลาเรานำมาประกอบอาหารส่วนมากเราจะใช้ปลาทูนึ่งกัน ซึ่งปลาทูนึ่ง จะผ่านการทำให้สุกผ่านการปรุงด้วยเกลือหรือส่วนผสมอื่น ๆ ตามแต่ละสูตรมาแล้ว ทีนี้เราจะเลือกซื้อปลาทูนึ่งอย่างไร เพื่อให้สะอาด ปลอดภัย ไร้กังวล บทความนี้จะเผย 5 เคล็ดลับ วิธีเลือกซื้อปลาทูให้ผู้อ่านได้รู้กัน
1. กลิ่น เป็นสิ่งแรกที่เราต้องใส่ใจ เพราะจะบอกถึงความสดของปลาทูนึ่ง ถ้าหากเป็นปลาทูนึ่งที่น่ากินจะไม่มีกลิ่นเหม็นหืน หรือเหม็นเปรี้ยวเน่า
Advertisement
Advertisement
2. สังเกตตาปลาทู ต้องตาใสไม่ขุ่น โดยเฉพาะส่วนหัวกับลำตัว ต้องไม่หลุดออกจากกัน หากหลุดออกจากกันจะบ่งบอกว่าไม่ว่าปลาไม่สด โดยเฉพาะบริเวณลูกตามีเลือดคั่ง สีพื้นของลำตัวซีด เหงือกมีสีแดงซีด ปลามีกลิ่นคาวหรือคาวจัด
3. คราบเหนียว หากเป็นคราบเหนียวปกติจะไม่มีกลิ่นเหม็น แต่ถ้ามีกลิ่นแสดงว่าปลาทูกำลังเสีย แต่ถ้าคราบเหนียวใส ๆ ติดมือมาหรือไม่ ถ้ามีก็แสดงว่าเป็นปลาทูนึ่งไม่สด
4. ความสะอาดของเข่งปลา มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะบอกถึงรายละเอียดเรื่องความสะอาดของร้านที่ขายปลาทูให้กับเรา ที่สำคัญอย่าเลือกเข่งปลาทูที่อยู่บนหรือล่าง ถ้าเข่งปลาทูที่อยู่ด้านบน จะมีแมลงวันมาตอม หรือวางไข่ใส่ บางครั้งอาจมีฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกปลิวมาตก แต่ถ้าเป็นเข่งที่อยู่ด้านล่างสุด ก็อาจจะอับจนเกินไป ทำให้ปลาทูเสียหายได้ง่าย
Advertisement
Advertisement
5. ผิวปลาทู หากปลาทูมีความสด เราสังเกตได้จากลำตัวจะเป็นสีน้ำเงินแกมเขียว หรืออาจจะเป็นสีขาวของส่วนล่าง หากกด ตามผิวเนื้อจะนิ่ม มีมันสีเหลืองเยิ้มอยู่ตามตัวไม่เหม็นถ้าเนื้อแข็งแสดงว่าปลาไม่สด และเค็มเกินไป
เพียงเทคนิค 5 ข้อนี้ จะช่วยให้ปลาทูที่เราเลือกซื้อสด สะอาด และปลอดภัย ได้ปลาทูที่มีกลิ่นหอมมารับประทานอร่อย ๆ แล้ว อย่าลืมนะครับ ซื้อมาแล้วต้องเก็บใส่ตู้เย็นให้มิดชิดจะได้รับประทานอย่างปลอดภัย และสดใหม่ครับผม
ความคิดเห็น
