ไลฟ์แฮ็ก
5 เทคนิค การเอาตัวรอด(ฉบับนักศึกษา)

เราทุกคนอยู่ในยุคที่ ใบปริญญา ยังคงเป็นใบเบิกทางในการไปสู่ความสำเร็จของชีวิต(ไม่เสมอไป) ซึ่งการได้เข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัย คงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับ เด็กมัธยมปลาย ที่กำลังนั่งฟังเรื่องเล่าของอาจารย์แนะแนว หรือ รุ่นพี่ที่จบไปจากโรงเรียน และได้กลับมาเล่าให้รุ่นน้องฟัง ซึ่งความจริงแล้ว “สิ่งที่น่าตื่นเต้น” นั้นก็คือ การไม่โดน “รีไทร์” และ การได้เจอสังคมที่ดีที่สุด
ดังสำนวนที่ว่า คับที่อยู่ง่าย คับใจอยู่ยาก
สำหรับบทความนี้ผมก็มีเทคนิคที่ใช้ในชีวิตประจำวันมาแบ่งปัน อยู่ 5 เทคนิคด้วยกัน ดังนี้
เทคนิคที่ 1 : กฎ 8:8:8 (24ชั่วโมง)
นาฬิกาชีวิตของเราทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน ดังนั้นการใช้เวลาให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์ที่สุด จะทำให้ชีวิตเรามีระเบียบวินัยและพร้อมที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จในอนาคต ซึ่งก็ถือว่าเป็นการบริหารเวลาชีวิตที่ดี ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่เป็นการได้แบ่งเวลาว่าวันนี้เราจะทำอะไรบ้าง แต่จะทำให้เรามีสุขภาพที่ดีด้วย
Advertisement
Advertisement
Tips : 1.ตั้งใจเรียนรู้(ในห้องเรียน)และศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม(สิ่งที่เราสนใจนอกห้องเรียน) 8 ชั่วโมง
2.ทำงาน Part-time เพื่อหาประสบการณ์จริง
3.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 8 ชั่วโมง
ภาพถ่ายโดย :pixabay
เทคนิคที่ 2: คิดบวก(ไม่ใช่เพ้อฝัน)
เราทุกคนจะต้องเตรียมสมองของเราให้มีทัศนคติที่ว่า “เราจะไม่กลัวสิ่งใหม่ๆ” และ “เราทุกคนทำได้” เพราะอะไรเราถึงต้องคิดแบบนี้ ? ในการเรียนนั้นทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่า ทุกอย่างมันยากเสมอ เพราะเรายังไม่ได้รู้จักกับมัน ยังไม่เคยได้เรียนรู้กับมัน ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือ มีทัศนคติที่ดีต่อตนเอง,ตั้งเป้าหมายที่ไม่ใหญ่จนเกินไป(ตั้งเป้าหมายแบบขั้นบันได) และลงมือทำ! (ทำทันที)
Tips : อ่านหนังสือจิตวิทยาที่ดี,ฟังบทสัมภาษณ์ของคนที่สำเร็จ
ภาพถ่ายโดย : pixabay
เทคนิคที่ 3 : ไม่ยอมแพ้...
Advertisement
Advertisement
“ความฉลาด” ของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราทุกคนที่ฉลาดน้อยจะโง่! เราทุกคนล้วนมีความชื่นชอบในสิ่งที่ทำไม่เหมือนกัน เช่น บางคนอ่านเก่งคณิตศาสตร์ แต่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ เป็นต้น ซึ่งเราต้องทำคือ “รู้จักตนเอง”
กรณีตัวอย่าง : เด็กชาย A เป็นคนที่เข้าใจยากในวิชาที่ต้องใช้ตรรกะ มาก ๆ และเมื่อรู้ว่า รายวิชานี้เป็นการสอบที่ยากมาก ๆ และมีการตัดเกรดโดยใช้คะแนนที่สูง ซึ่งสิ่งที่เด็กชาย A จะทำหลังกินข้าวเย็นก็คือ การอ่านหนังสือให้มากกว่าคนอื่น บางคนอาจจะเข้าใจทันทีใน ณ ที่อาจารย์สอน แต่สำหรับ เด็กชาย A ต้องอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เกรดที่ได้ในรายวิชานั้นก็เป็นที่พอใจสำหรับเขา
เรื่องนี้สอนอะไร : เด็กชาย A ไม่บ่น,ไม่ตัดสินตัวเองว่าทำไม่ได้,ขยัน(ลงมือทำจริงจัง)
Tips : 1.ถามอาจารย์ทันทีเมื่อไม่เข้าใจ หรือตามไม่ทัน
Advertisement
Advertisement
2.หาเพื่อนที่เก่งในวิชาที่เราด้อย เพื่อนที่สามารถที่จะปรึกษาและให้คำแนะนำได้
ภาพถ่ายโดย : pixabay
เทคนิคที่ 4 : คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล
สำนวนไทยได้กล่าวไว้ชัดเจนแล้ว เราไม่จำเป็นที่จะต้องทำการทดลองว่ามันจริงอย่างที่สำนวนว่าหรือไม่ จากประสบการณ์จริงที่ผมได้พบเจอ ระหว่างเพื่อนดีและเพื่อนพาล เพื่อนทั้งสองนั้นแตกต่าง ทั้งใน ด้านทัศนคติและการดำเนินชีวิต (เราพูดถึงในประเด็นของการเรียนและไม่ได้มีเจตนาที่จะตำหนิหรือว่ากล่าว)
Tips : เราไม่ได้ไปดูถูก เกลียดชังคนพาล หรือไม่คบกับคนพาลเป็นเพื่อนเลย แต่เราเลือกคบเพื่อนที่ดี(บัณฑิต) นั้นจะดีกว่า
ภาพถ่ายโดย :pixabay
เทคนิคที่ 5 : ให้คิดว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต (ทำทุกวันให้ดีที่สุด)
เราเขียนแปะโน๊ตไว้บนหัวเตียงนอนได้เลยว่า “ถ้าพรุ่งนี้เราตาย?” ซึ่งมันจะคอยย้ำเตือน คอยบอกเราว่า “เราควรที่จะทำอะไร หรือ ไม่ควรทำอะไร” และ “ทำให้มันให้ดีที่สุด”
ภาพถ่ายโดย : pixabay
ขอบคุณสำหรับการติดตาม สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ 😊
ความคิดเห็น






