ไลฟ์แฮ็ก
5 เหตุผล ที่ต้อง "ลาออก" จากงาน

ยุคปัจจุบัน เราเจอกับสถานการณ์ที่ย่ำแย่อย่างพร้อมเพรียงกันทั่วโลก ทุกคนต่างได้รับผลกระทบมากน้อยแตกต่างกันไป เฮ้อออ มันเหนื่อยใจจริงๆ มองไปทางไหนข้าวของก็แพงไปหมด แถมงานก็ยังจะหายากอีก ก็ขอเป็นกำลังใจให้สู้ๆกันนะเพื่อนๆ แต่สำหรับบทความนี้น้องขอไปพูดถึงคนที่กำลังมีงานทำอยู่ แต่มันเหนื่อยใจเหลือเกิน และมองว่าตนเองมีที่ทางพอที่จะเดินต่อไปได้เพื่อชีวิตที่ดีกว่า แต่จะทำยังไงมัน ยังสองจิตสองใจว่าจะไปต่อหรืออดรนทนไปก่อน ทนจนเครียด ปวดร้าวสมองทุกส่วน ลุกลามไปที่ร่างกายต้องมาเจ็บป่วย โอ้ยยย จะไม่ไหวแล้วนะ ลองไปดู 5 ข้อนี้สิ ที่เราต้องพิจารณาแล้วว่า จุดที่เรายืนอยู่มันไม่ใช่ที่ของเรารึป่าว ลองไปพิจารณาดูว่า มีข้อไหนที่ตรงกับเราในตอนนี้บ้าง
1. หัวหน้ายอดแย่
เริ่มต้นด้วยปัญหาสุดพื้นฐานที่หลายคนเจอ แต่ต้องอดทนแล้วอดทนเล่า จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี มีหัวเรือไร้ความสามารถในการบริหาร เรือก็มักจะล่มไม่ช้าก็เร็ว สิ่งที่บอกว่าหัวหน้ายอดแย่ เช่น
Advertisement
Advertisement
- หัวหน้าที่ไม่มีการบริหารงานที่ดี ทำให้เราต้องเจอกับปัญหาอยู่บ่อยครั้ง ทำงานซ้ำซ้อน จนไม่ได้กลับบ้านตามเวลาสักที
- หัวหน้าที่มีมุมมองและทัศนคติตรงกันข้ามกับเราอย่างสิ้นเชิง มันจะทำให้เราทำงานได้ลำบากมากๆ
- หัวหน้าที่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก อันนี้ยิ่งแย่เลย ความเป็นทีมเดียวกันหายไปหมด ทำงานไม่ได้และส่งผลต่ออนาคตการทำงานของเราอย่างแน่นอน
นี่แค่ตัวอย่างนะ ถ้าเพื่อนๆเจอปัญหาเหล่านี้ ควรคิดพิจารณาสิ่งที่เป็นไปได้ต่ออนาคตการทำงานของเราดู อย่ามัวแต่เสียเวลาอดทน เพราะสุดท้ายเราจะถูกทำลายสุขภาพจิตแบบเนียนๆ ซึ่งส่งผลร้ายตามมาอย่างเหลือเชื่อเลยแหละ
2. ลักษณะงานไม่ตอบโจทย์
เคยเข้าไปทำงาน แต่ทำไปทำมาแล้วเราไม่ชอบไหม ซึ่งผลที่ตามมาของความไม่ชอบคือ งานที่ทำก็จะออกมาไม่ดี ลุกลามเกิดปัญหาอันซ้ำซ้อนแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเราเป็นคนทำเอง และเราจะไม่อยากไปทำงานในตอนเช้า ไม่อยากลุกขึ้นจากเตียงไปอาบน้ำ ช่างน่าเบื่อหน่ายเสียจริงๆ ความรู้สึกแบบนี้น่ากลัวมาก การอดทนทำงานที่เราไม่ชอบถือว่าเป็นการทำลายชีวิตอนาคตในหน้าที่การงานแบบอ้อมๆ อย่าเสียเวลานะ รีบพิจารณาแล้วมองหาสิ่งที่อยากทำจริงๆ เชื่อได้เลย สิ่งที่เราทำแล้วแฮปปี้ เราจะพัฒนาต่อยอดได้อย่างรวดเร็วและมีความสุขกับมัน
Advertisement
Advertisement
3. ไม่มีงานทำ
ในที่นี้ หมายถึงการที่เราไปทำงาน ด้วยกายพร้อมใจพร้อม แต่ทั้งวันได้รับมอบหมายงานแค่ 1 อย่าง ทำ 15 นาทีเสร็จ แล้วทุกวันก็จะเป็นแบบนี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ หลายคนอาจจะมองว่า ก็ดีแล้วนี่ งานน้อย ไม่ต้องทำไรเลย นั่งกินเงินเดือนไปวันๆ สบายจะตาย แต่สำหรับพนักงานออฟฟิศมันถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่โอเคมากๆ เราจะมีความรู้สึกไร้ค่า ไร้ความสามารถขึ้นมาทันที ความสำคัญของเราอยู่ไหน และสักวันหนึ่ง ความไม่มีค่านี้อาจนำไปสู่การพิจารณาให้เราออกจากงานเมื่อไหร่ก็ได้ เราอย่ามัวหลงเสียเวลาในการได้พัฒนาตัวเองอยู่นะ บางทีบริษัทอื่นๆที่เห็นค่าเรา เขาอาจกำลังรอเราอยู่ก็ได้
4. งายเยอะแต่เงินเท่าเดิม
บางทีทำงานหามรุ่งหามค่ำ ทุ่มเทกับงานแบบสุดตัวนั้นก็เป็นสิ่งที่ดีแหละ แต่ทุกอย่างมันต้องพอดีไง และควรเหมาะสมกับค่าตอบแทนที่จะได้รับ มิใช่ว่าทำไปเรื่อยๆ ไม่ว่าบริษัทจะลดจำนวนพนักงานลงหรือหัวหน้างานเอาเปรียบเรา แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม อย่าลืมว่าสุขภาพของเราสำคัญที่สุด สุดท้ายแล้วบริษัทสามารถหาคนใหม่ๆมาแทนเราได้อยู่เสมอ ถ้าวันหนึ่งเราไม่สามารถตอบโจทย์อย่างที่บริษัทต้องการ ฉะนั้นอย่าพยายามทำงานมากเกินไป นอกจากมันจะไม่เหมาะสมกับค่าตอบแทนแบบเกินงามแล้ว มันกินเวลาพักผ่อน หมดเวลาที่จะได้ใช้กับครอบครัวและยังทำร้ายสุขภาพเราในทางอ้อมด้วย
Advertisement
Advertisement
5. แนวโน้มบริษัทกำลังไปไม่รอด
นี่คืออีกเหตุผลที่เราควรตื่นตัว เมื่อรู้สึกว่าบริษัทได้รับการแทรกแซงการทำงานของฝ่ายบริหาร ลักษณะคำสั่งในการทำงานเปลี่ยนไป หรือมีการลดจำนวนพนักงานมากกว่าปกติ นี่ก็เป็นสัญญาณที่ชัดเจนแล้วว่า บริษัทที่เราอยู่กำลังเผชิญกับปัญหาด้านการเงิน เราควรหาทางหนีทีไล่ไว้ให้พร้อม ก่อนที่ทุกอย่างมันจะลงเอยแล้วเราไม่ได้เตรียมตัวอะไรไว้เลย
ต้องบอกก่อนว่านี่เป็นคำแนะนำคร่าวๆ ที่ให้เพื่อนๆลองไปพิจารณาดูกับสถานการณ์ต่างๆรอบตัวเรา ให้เราได้วางแผนต่างๆได้อย่างทันท่วงที จะได้ไม่ตระหนกตกใจและทำอะไรไม่ถูกเมื่อหนังสือบอกเลิกจ้างบินมาหาเราอย่างกระทันหัน อยากให้เพื่อนๆคิดว่า เราในฐานะคนทำงาน มีสิทธิ์ที่จะเลือกในสิ่งที่เป็นเป้าหมายต่างๆของแต่ละคนได้ อย่าไปอดทนกับปัญหาให้มาก ตื่นเช้ามาเราควรมีความรู้สึกสดชื่นและอยากไปทำหน้าที่อย่างมีความสุขสดใส กลับบ้านมามีเวลานั่งทานข้าวพร้อมหน้า ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองในแต่ละวันกับครอบครัว เพราะเหนือสิ่งอื่นใดกระบวนการต่างๆที่มันจะเดินหน้าไปมันเกิดจากสมองของเรา สุขภาพจิตจึงเป็นสิ่งสำคัญ อย่าละเลยที่จะดูแลมันนะเพื่อนๆ
เครดิตภาพหน้าปก : Canva
ขอขอบคุณภาพจาก Unsplash : ภาพประกอบที่1 / ภาพประกอบที่ 2 / ภาพประกอบที่ 3 / ภาพประกอบที่ 4 / ภาพประกอบที่ 5
เรียบเรียงโดย : Notstarica
ความคิดเห็น






